ยาวมากนะครับ
ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท จะเข้าสู่การพิจารณารณาในวันที่ 21-22 ส.ค.นี้ ซึ่งหากไม่มี "อุบัติเหตุ" เกิดขึ้น คนไทยจะได้เห็นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ของประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ระบุ แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศได้มีการเตรียมความพร้อมในโครงการต่างๆซึ่งคัดเลือกโครงการที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศอย่างแท้จริง โดยสอดคล้องกับแผนการใช้เงินในระยะเวลา 7 ปี
แม้จะมีการเฉลี่ยว่าการใช้เงินในแต่ละปีเป็นการลงทุนด้านการคมนาคมขนส่งปีละประมาณ 3 แสนล้านบาท แต่ในความเป็นจริงแล้วประมาณการใช้เงินลงทุนตาม พ.ร.บ.ได้มีการวางแผนไว้ตามการจัดซื้อจัดจ้างและการประมูลโครงการในแต่ละปี
ในปีงบประมาณ 2557 จะมีการใช้เงินกู้จำนวน 1.5 แสนล้านบาท
ในปี 2558 จะมีการใช้เงิน 2.92 แสนล้านบาท
ในปี 2559 จะมีการใช้เงิน 4.26 แสนล้านบาท
ในปี 2560 จะมีการใช้เงินมากที่สุดในระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี คือ 4.7 แสนล้านบาท หรือประมาณ 23.5% ของวงเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
หลังจากนั้นการกู้เงินในโครงการต่างๆจะลดลง โดยในปี 2561 จะใช้เงินลงทุน 3.7 แสนล้านบาท
ในปี 2562 จะใช้เงินประมาณ 1.71 แสนล้านบาท
และในปี 2563 จะใช้เงินลดลงเหลือเพียง 9.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่มีการก่อสร้างแล้วเสร็จ หรืออยู่ในระยะสุดท้ายของการก่อสร้าง
สำหรับโครงการตามกฎหมายฉบับนี้ แบ่งได้ตามลำดับ คือโครงการที่ทำได้ทันทีเมื่อกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ หรือเริ่มประกวดราคาตั้งแต่ปี 2557 ไปจนถึงปี 2560 ประกอบไปด้วย
โครงการที่ทำได้ทันที
1.โครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและยังไม่แล้วเสร็จ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ
2.โครงการก่อสร้างทางหลวง ได้แก่ โครงการก่อสร้างและบูรณะทางสายหลักระหว่างภาค 235 โครงการ โครงการเร่งรัดการก่อสร้างขยายทาง 4 ช่องทางจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางหลวง 6 สายทาง โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา และการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟจำนวน 22 แห่ง และ 3.โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
โครงการที่จะเริ่มมีการประกวดราคาปี 2557 ประกอบไปด้วย
1.โครงการรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทาง (งานโยธา) ได้แก่ เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ กรุงเทพ - เชียงใหม่ (พิษณุโลก) โครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเฉียงเหนือ :กรุงเทพ - หนองคาย (โคราช) และเส้นทางกรุงเทพสายใต้ เส้นทางกรุงเทพ - ปาดงเบซาร์ (หัวหิน)
2.โครงการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง ได้แก่ สายลพบุรี - ปากน้ำโพ สายมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ สายนครปฐม - หัวหิน สายชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่ และ สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร
3.โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ สายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ
4.โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท.ได้แก่โครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม/ติดตั้งและปรับปรุเครื่องกั้นเสมอระดับ
5.โครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพ - ปริมณฑล (Mass Rapid Transit) 8 เส้นทาง ได้แก่ สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซ่อ - ตลิ่งชัน สายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ - ,กกะสัน - หัวหมากและช่วงบางซื่อ - หัวลำโพง สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต - ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน - ศาลายา สายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สายสีชมพู ช่วง แคราย - มีนบุรี สายสีส้ม ช่วง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - นีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง
โครงการที่จะมีการประกวดราคาในปี 2558 ประกอบไปด้วย
1. โครงการ Mass Rapid Transit สายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู โครงการรถไฟเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail link) ส่วนต่อขยาย ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท
2.โครงการรถไฟความเร็วสูง สายเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail link) ส่วนต่อขยายจากสนามบินสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยา-ระยอง
3. โครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ สายชุมทางบ้านภาชี-อ.นครหลวง
4. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื นฐาน ของ รฟท.ได้แก่ โครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสี/เครื่องกั้นเสมอระดับ โครงการปรับปรุงทางราง หมอน สะพาน และติดตั้งรั้ว
5. โครงการก่อสร้างทางหลวง พัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ 3 สายทาง โดยเร่งรัดก่อสร้างขยาย 4 ช่องจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง 14 สายทาง ก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จำนวน 8 แห่ง
6.โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท ได้แก่ โครงการสนับสนุนท่าเทียบเรือเชียงแสน 2 เส้นทาง โครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ปริมณฑลและเมืองใหญ่ในภูมิภาค 1 เส้นทาง โครงการก่อสร้างสะพานและอุโมงค์ข้ามทางรถไฟ ระยะที่ 2 จานวน 17 แห่ง โครงการขยายเครือข่ายทางหลวงชนบทเพื่อการท่องเที่ยว ระยะที่ 2 จานวน 10 โครงการ และ
7.โครงการพัฒนาทางน้ำ ได้แก่โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าในแม่นาป่าสัก (ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง ระยะที่ 2)
โครงการที่จะมีการประกวดราคาในปี 2559
1. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง ได้แก่ โครงการรถไฟรางคู่สายหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ สายชุมพร-สุราษฎร์ธานี สายสุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์ สายขอนแก่น-หนองคาย สายจิระ-อุบลราชธานี สายปากน้ำโพ-เด่นชัย
2. โครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ สายบ้านไผ่-นครพนม
3. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ได้แก่ โครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสี/เครื่องกันเสมอระดับ โครงการปรับปรุงทาง ราง หมอน สะพาน และติดตั้งรั้ว
4. โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท ได้แก่ โครงการสนับสนุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 เส้นทาง โครงการสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือแหลมฉบัง 2 เส้นทาง โครงการสนับสนุนท่าเทียบเรือเชียงแสน 1 เส้นทาง
5. โครงการก่อสร้างทางหลวง ได้แก่ โครงการสนับสนุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 เส้นทาง โครงการสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือแหลมฉบัง 2 เส้นทาง โครงการสนับสนุนท่าเทียบเรือเชียงแสน 1 เส้นทาง
6. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื นฐานและสิ่งอานวยความสะดวก ได้แก่ โครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางถนนด้วยรถบรรทุก 15 แห่ง และ
7. โครงการพัฒนาทางน้ำ ได้แก่ ก่อสร้างท่าเรือนาลึกสงขลา แห่งที่ 2 โครงการก่อสร้างท่าเรือชุมพร โครงการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าทางลานาเพื่อการประหยัดพลังงานที่ จ.อ่างทอง ก่อสร้างท่าเทียบเรือนาลึกปากบารา จ.สตูล ระยะที่ 1
โครงการที่จะมีการประกวดราคาในปี 2560 ประกอบไปด้วย
1. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ของ รฟท. โครงการปรับปรุงทาง ราง หมอน สะพาน และติดตั งรั้ว โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท 2. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่นาเจ้าพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา โครงการสนับสนุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 โครงการ และ
3. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอานวยความสะดวก โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย ระยะที่ 2
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ
สำรวจ “โครงการ2ล้านล้าน”หลังผ่านสภา
ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท จะเข้าสู่การพิจารณารณาในวันที่ 21-22 ส.ค.นี้ ซึ่งหากไม่มี "อุบัติเหตุ" เกิดขึ้น คนไทยจะได้เห็นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ของประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ระบุ แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศได้มีการเตรียมความพร้อมในโครงการต่างๆซึ่งคัดเลือกโครงการที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศอย่างแท้จริง โดยสอดคล้องกับแผนการใช้เงินในระยะเวลา 7 ปี
แม้จะมีการเฉลี่ยว่าการใช้เงินในแต่ละปีเป็นการลงทุนด้านการคมนาคมขนส่งปีละประมาณ 3 แสนล้านบาท แต่ในความเป็นจริงแล้วประมาณการใช้เงินลงทุนตาม พ.ร.บ.ได้มีการวางแผนไว้ตามการจัดซื้อจัดจ้างและการประมูลโครงการในแต่ละปี
ในปีงบประมาณ 2557 จะมีการใช้เงินกู้จำนวน 1.5 แสนล้านบาท
ในปี 2558 จะมีการใช้เงิน 2.92 แสนล้านบาท
ในปี 2559 จะมีการใช้เงิน 4.26 แสนล้านบาท
ในปี 2560 จะมีการใช้เงินมากที่สุดในระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี คือ 4.7 แสนล้านบาท หรือประมาณ 23.5% ของวงเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
หลังจากนั้นการกู้เงินในโครงการต่างๆจะลดลง โดยในปี 2561 จะใช้เงินลงทุน 3.7 แสนล้านบาท
ในปี 2562 จะใช้เงินประมาณ 1.71 แสนล้านบาท
และในปี 2563 จะใช้เงินลดลงเหลือเพียง 9.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่มีการก่อสร้างแล้วเสร็จ หรืออยู่ในระยะสุดท้ายของการก่อสร้าง
สำหรับโครงการตามกฎหมายฉบับนี้ แบ่งได้ตามลำดับ คือโครงการที่ทำได้ทันทีเมื่อกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ หรือเริ่มประกวดราคาตั้งแต่ปี 2557 ไปจนถึงปี 2560 ประกอบไปด้วย
โครงการที่ทำได้ทันที
1.โครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและยังไม่แล้วเสร็จ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ
2.โครงการก่อสร้างทางหลวง ได้แก่ โครงการก่อสร้างและบูรณะทางสายหลักระหว่างภาค 235 โครงการ โครงการเร่งรัดการก่อสร้างขยายทาง 4 ช่องทางจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางหลวง 6 สายทาง โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา และการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟจำนวน 22 แห่ง และ 3.โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
โครงการที่จะเริ่มมีการประกวดราคาปี 2557 ประกอบไปด้วย
1.โครงการรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทาง (งานโยธา) ได้แก่ เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ กรุงเทพ - เชียงใหม่ (พิษณุโลก) โครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเฉียงเหนือ :กรุงเทพ - หนองคาย (โคราช) และเส้นทางกรุงเทพสายใต้ เส้นทางกรุงเทพ - ปาดงเบซาร์ (หัวหิน)
2.โครงการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง ได้แก่ สายลพบุรี - ปากน้ำโพ สายมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ สายนครปฐม - หัวหิน สายชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่ และ สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร
3.โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ สายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ
4.โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท.ได้แก่โครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม/ติดตั้งและปรับปรุเครื่องกั้นเสมอระดับ
5.โครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพ - ปริมณฑล (Mass Rapid Transit) 8 เส้นทาง ได้แก่ สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซ่อ - ตลิ่งชัน สายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ - ,กกะสัน - หัวหมากและช่วงบางซื่อ - หัวลำโพง สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต - ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน - ศาลายา สายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สายสีชมพู ช่วง แคราย - มีนบุรี สายสีส้ม ช่วง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - นีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง
โครงการที่จะมีการประกวดราคาในปี 2558 ประกอบไปด้วย
1. โครงการ Mass Rapid Transit สายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู โครงการรถไฟเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail link) ส่วนต่อขยาย ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท
2.โครงการรถไฟความเร็วสูง สายเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail link) ส่วนต่อขยายจากสนามบินสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยา-ระยอง
3. โครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ สายชุมทางบ้านภาชี-อ.นครหลวง
4. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื นฐาน ของ รฟท.ได้แก่ โครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสี/เครื่องกั้นเสมอระดับ โครงการปรับปรุงทางราง หมอน สะพาน และติดตั้งรั้ว
5. โครงการก่อสร้างทางหลวง พัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ 3 สายทาง โดยเร่งรัดก่อสร้างขยาย 4 ช่องจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง 14 สายทาง ก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จำนวน 8 แห่ง
6.โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท ได้แก่ โครงการสนับสนุนท่าเทียบเรือเชียงแสน 2 เส้นทาง โครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ปริมณฑลและเมืองใหญ่ในภูมิภาค 1 เส้นทาง โครงการก่อสร้างสะพานและอุโมงค์ข้ามทางรถไฟ ระยะที่ 2 จานวน 17 แห่ง โครงการขยายเครือข่ายทางหลวงชนบทเพื่อการท่องเที่ยว ระยะที่ 2 จานวน 10 โครงการ และ
7.โครงการพัฒนาทางน้ำ ได้แก่โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าในแม่นาป่าสัก (ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง ระยะที่ 2)
โครงการที่จะมีการประกวดราคาในปี 2559
1. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง ได้แก่ โครงการรถไฟรางคู่สายหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ สายชุมพร-สุราษฎร์ธานี สายสุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์ สายขอนแก่น-หนองคาย สายจิระ-อุบลราชธานี สายปากน้ำโพ-เด่นชัย
2. โครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ สายบ้านไผ่-นครพนม
3. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ได้แก่ โครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสี/เครื่องกันเสมอระดับ โครงการปรับปรุงทาง ราง หมอน สะพาน และติดตั้งรั้ว
4. โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท ได้แก่ โครงการสนับสนุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 เส้นทาง โครงการสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือแหลมฉบัง 2 เส้นทาง โครงการสนับสนุนท่าเทียบเรือเชียงแสน 1 เส้นทาง
5. โครงการก่อสร้างทางหลวง ได้แก่ โครงการสนับสนุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 เส้นทาง โครงการสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือแหลมฉบัง 2 เส้นทาง โครงการสนับสนุนท่าเทียบเรือเชียงแสน 1 เส้นทาง
6. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื นฐานและสิ่งอานวยความสะดวก ได้แก่ โครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางถนนด้วยรถบรรทุก 15 แห่ง และ
7. โครงการพัฒนาทางน้ำ ได้แก่ ก่อสร้างท่าเรือนาลึกสงขลา แห่งที่ 2 โครงการก่อสร้างท่าเรือชุมพร โครงการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าทางลานาเพื่อการประหยัดพลังงานที่ จ.อ่างทอง ก่อสร้างท่าเทียบเรือนาลึกปากบารา จ.สตูล ระยะที่ 1
โครงการที่จะมีการประกวดราคาในปี 2560 ประกอบไปด้วย
1. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ของ รฟท. โครงการปรับปรุงทาง ราง หมอน สะพาน และติดตั งรั้ว โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท 2. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่นาเจ้าพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา โครงการสนับสนุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 โครงการ และ
3. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอานวยความสะดวก โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย ระยะที่ 2
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ