สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
-ฟอกหนัง ก็ขอ รง เข้าไปดูได้ แค่เพียงผ่าน ไม่เคยกลิ่น อ๊วกแทบพุ่ง ยกเว้น บาง รง ที่ระบบการกำจัดน้ำเสียกลิ่นดีๆ เช่น CPL เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-หนังเค็มแบ่งเป็น สองอย่าง
--แช่น้ำเกลือ หนังนอกนิยมมาก นำเข้ามาเป็นตู้คอนเทนเนอร์ พับๆมา เหมือน ผ้าห่ม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
--ส่วนของไทยเรียกว่า เอือบเกลือสินเธาว์ หนังถลกมาใหม่ๆจะมีน้ำเหลือง เลือด อยู๋ในหนัง
ภูมิปัญญาแบบไทยๆ ก็สร้างบ่อปูนขึ้นมา เอาเกลือรองก้นบ่อวางหนังทีละผืน แล้ว เอาเกลือฯกลบทีละผืน เกลือฯเอาไปตากแดดเวียนใช้ได้
--หนังถูกถลกมาใหม่ๆ เรียกว่า หนังเขียว ...เหมือนคนตายใหม่ตัวจะเขียว... ผ่านไปสักอาทิตย์ น้ำหนักจะหนังจะลดลงไป 1 ใน 3
สำหรับ ควาย และ 1 ใน 2 -2.5 สำหรับวัว วัวไทยส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ อเมริกันบราห์มัน มีโหนกกลางหลัง ตรงโหนกนี้ ไม่มีใครอยากได้เลย ...ถ้าเป็นตัวเมียจะหลังเรียบ เหมาะทำกระเป๋า รองเท้า แต่ คุณภาพหนังสู้วัวนอกไม่ได้ รูขนถี่กว่า และ แผล หูด ฯ น้อยกว่าวัวไทย แต่วัวไทย ไฟเบอร์แข็งแรงกว่า เพราะ โตช้า เลยถูกเชือดช้า
-ได้หนังเค็มมาก็ล้างให้สะอาด เอาขนออก ผ่าตามขวาง จะแบ่งเป็น ผิว เอาไปทำหนังหน้า upper leather
ชั้นต่อมาก็ชั้นติดผิว split หรือ inner hide (ถ้าไปทำอาหารสุนัข เรียกว่า กาว เอาไปพันเป็น กระดูกเทียม สานเป็นรองเท้า ลูกบอล ฯลฯ รวมเรียกว่า dog chew ชั้นต่อๆมา ถ้าผ่าได้อีก ก็เอาไปทำไส้ กระดูกเทียมแบบอัดบล๊อค ... เศษก็เอาไปบดทำ munchy สาระพัดแบบ แท่ง อัดเป็นกระดูก ลูกบอล ใส่สี ใส่กลิ่น ... ส่วนชั้นติดพังผืด ก็ ขายให้ โรงงานทำแคปซูล ลักษณะคล้ายๆ ผ้าขี้ริ้วตากแห้ง เป็นต้น)
-ส่วนใหญ่ ทำหนังกระเป๋ารองเท้า เสื้อ จะมีทั้งแบบ whole hide (เอาไปทำหนังเฟอร์นิเจอร์ได้) และ half hide หนังซีกผ่าครึ่งตัว
--ส่วนหนังท้อง หรือ split : ชั้นติดผิว ก็มาแต่งให้สวยเรียกว่า หนังคูปอง เป็นต้น (ตรงส่วนนี้ ถ้าฟอกทั้งผืน ก็เอาไปเคลือบพียูอัดลายช่วยเรียกว่า หนังไบคาสท์ หรือ เอาไปฟอกย้อมก็เรียกว่า sued หนังซับใน หนังถุงมือฯ ผ่า split หนามากๆก็เอาไปทำเข็มขัดนักเรียน เป็นต้น )
-ตอนนี้ ก็มาเลือกกรรมวิธี ถ้าฟอกฝาด ไม่ต้องผ่าตามขวาง หลังจากถากผังผืดออก เอาทั้งผืนมาทำเลย หนังจะหนามาก ด้านหลังจะเป็นเส้นขน ด้านผิวจะเป็นมันวาว ... ถ้าเคยเรียนวิธีทำรองเท้า หนังนี้จะเอาไปทำลายนูนต่ำได้ พอจำได้นะ
-แยกเกรดหนังคัดตามผิวพรรณ
--ผิวสวย ผ่าบางแล้ว เอาไปย้อมสีทำหนัง nappa nubuck oil และอีกสาระพัดเรียกตามต้องการ เราเรียกว่า หนัง full grain เต็มรูขน หนังจะนิ่มที่ผิว เป็นรอยแล้วเอานิ้วลูบๆก็หาย หรือ จางลงไป
--ผิวไม่สวย ...เหมือนคน ส่วนใหญ่ไม่สวย... ก็เอามาแต่งแผล รอยถลอกชนิด แผลเปิด แผลปิด ฯ ด้วย พียูตามสีหนังที่ย้อมออกมา แล้วเอาไปขัด ปัดฝุ่น ตอนเป็น หนังแห้ง จากนั้นก็เอาไป กินน้ำใหม่(ย้อมสีหรือทำให้นิ่มซ้ำ) หนีบให้แห้ง ทาสีหรือเคลือบสี อัดลาย ปั่นนิ่ม พ่นสี พ่นเงา เช่น CCO cow corrected grain oil leather และ อีกสาระพัดลาย วัว เบนซ์ ช้าง ควาย จรเข้ งู ไรอีกฟะ เต็มไปหมด
มีทั้งแบบทั้งตัว และ ครึ่งตัว แข็ง นิ่ม รวมถึง พ่นเงาแก้ว เลียนแบบ หนังเทียม (ทำไปทำไมฟะ แต่เรื่องจริง)
--ยังมีผิวระหว่าง สวย กะ ไม่สวยอีก เรียกว่า เซมิ
เล่าให้ฟังคร่าวๆ คงต้องเข้าใจแบบลึกซึ้ง ว่า เผ่าพันธุ์วัว ควาย รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นที่นำมาทำเป็น upper leather ได้ ยากส์ถึงยากส์ที่สุด
และ ในไทย มีเป็นร้อย โรงฟอกหนัง แต่ละโรงก็มีสูตร หรือ ความถนัดต่างๆกันไป รง ที่ใหญ่มากๆ ใช้เคมีดีๆได้ ก็นิยมเล่นวัวนอก ส่วน รง เล็ก ซึ่งมีอยู่เยอะแยะ กระจัดกระจาย อยู่ บางปู กม 30 34 และ ตามจังหวัดต่างๆ ก็นิยมใช้วัวใน เขมร ลาว เวียดนาม พม่า จีน และ บางโรงซึ่งปัจจุบัน นิยมนำเค้ามาเป็น wet blue จาก อเมริกาใต้ ... ตรงนี้ลึกไปเนาะ ...
-เวลาซื้อหนังต้องเลือก เปิดไฟนีออนแบบเดไลท์ให้สว่างๆ บนโต๊ะคัดหนัง แบ่งเป็น เกรด A B C และ ตกเกรด
--ความหนาของหนัง ต้องสม่ำเสมอทั้งแผ่น มีเครื่องวัดความหนาของเนื้อหนัง ต้องสุ่ม หัว กลาง ท้าย เป็นต้น
--กลิ่น เคมีใช้ในการฟอกมีหลายเกรด ถ้าเป็น basf ยอดเยี่ยมแต่แพง ... รง เล็กๆ จึงเลี่ยงไปใช้ ของ ไต้หวัน แทน ซึ่งแหวะ
--ผลการทดสอบหนัง เช่น wet rub / dry rub / light fast และอีกเพียบเลย ควรขอดู ... สังเกตุง่าย หนัง รง ดีๆจะด้านหลังจะมี ยี่ห้อและ เลขที่ lot กำกับอยู่ ... แต่ส่วนใหญ่ ไม่มี เฮ้อ
--สีซ่อมหนัง กรณี เป็นหนังพ่นสีอัดลาย ควรมีไว้ให้ซ่อมรอยถลอก รอยปริ หรือ ทาตรงสันหลังจากเย็บ ชนกัน
--ถ้าซื้อหนังท้อง ต้องเจาะรู แล้วเอานิ้วลองฉีกดู ถ้าขาดแคว๊กแสดงว่า สุกหนังไม่ดี ตรงกลางยังเป็นสีขาวอยู่ เป็นต้น
เล่าให้ฟังคร่าวๆนะ
หนังเฟอร์ส่วนใหญ่ทำจาก cow วัวตัวเมีย เม้นท์ที่ 53 นอกนั้น กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด
http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2011/04/R10422999/R10422999.html#53
.........................................................................................................................................................................
แหล่งเรียนรู้ที่ เรากดไลค์
-วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมกรุงเทพ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-ชมรมศิษย์เก่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ของ กทม ก็มี นะ แต่ครูชอบแฝงหากินกะลูกศิษย์ บ่องตง
เราก็ไม่ใช่ลูกหลานว่านเครือฟอกหนัง เริ่มที่ชอบ...เมื่อ 20กว่าปีที่ผ่านมา อะ
i love leather !
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-หนังเค็มแบ่งเป็น สองอย่าง
--แช่น้ำเกลือ หนังนอกนิยมมาก นำเข้ามาเป็นตู้คอนเทนเนอร์ พับๆมา เหมือน ผ้าห่ม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
--ส่วนของไทยเรียกว่า เอือบเกลือสินเธาว์ หนังถลกมาใหม่ๆจะมีน้ำเหลือง เลือด อยู๋ในหนัง
ภูมิปัญญาแบบไทยๆ ก็สร้างบ่อปูนขึ้นมา เอาเกลือรองก้นบ่อวางหนังทีละผืน แล้ว เอาเกลือฯกลบทีละผืน เกลือฯเอาไปตากแดดเวียนใช้ได้
--หนังถูกถลกมาใหม่ๆ เรียกว่า หนังเขียว ...เหมือนคนตายใหม่ตัวจะเขียว... ผ่านไปสักอาทิตย์ น้ำหนักจะหนังจะลดลงไป 1 ใน 3
สำหรับ ควาย และ 1 ใน 2 -2.5 สำหรับวัว วัวไทยส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ อเมริกันบราห์มัน มีโหนกกลางหลัง ตรงโหนกนี้ ไม่มีใครอยากได้เลย ...ถ้าเป็นตัวเมียจะหลังเรียบ เหมาะทำกระเป๋า รองเท้า แต่ คุณภาพหนังสู้วัวนอกไม่ได้ รูขนถี่กว่า และ แผล หูด ฯ น้อยกว่าวัวไทย แต่วัวไทย ไฟเบอร์แข็งแรงกว่า เพราะ โตช้า เลยถูกเชือดช้า
-ได้หนังเค็มมาก็ล้างให้สะอาด เอาขนออก ผ่าตามขวาง จะแบ่งเป็น ผิว เอาไปทำหนังหน้า upper leather
ชั้นต่อมาก็ชั้นติดผิว split หรือ inner hide (ถ้าไปทำอาหารสุนัข เรียกว่า กาว เอาไปพันเป็น กระดูกเทียม สานเป็นรองเท้า ลูกบอล ฯลฯ รวมเรียกว่า dog chew ชั้นต่อๆมา ถ้าผ่าได้อีก ก็เอาไปทำไส้ กระดูกเทียมแบบอัดบล๊อค ... เศษก็เอาไปบดทำ munchy สาระพัดแบบ แท่ง อัดเป็นกระดูก ลูกบอล ใส่สี ใส่กลิ่น ... ส่วนชั้นติดพังผืด ก็ ขายให้ โรงงานทำแคปซูล ลักษณะคล้ายๆ ผ้าขี้ริ้วตากแห้ง เป็นต้น)
-ส่วนใหญ่ ทำหนังกระเป๋ารองเท้า เสื้อ จะมีทั้งแบบ whole hide (เอาไปทำหนังเฟอร์นิเจอร์ได้) และ half hide หนังซีกผ่าครึ่งตัว
--ส่วนหนังท้อง หรือ split : ชั้นติดผิว ก็มาแต่งให้สวยเรียกว่า หนังคูปอง เป็นต้น (ตรงส่วนนี้ ถ้าฟอกทั้งผืน ก็เอาไปเคลือบพียูอัดลายช่วยเรียกว่า หนังไบคาสท์ หรือ เอาไปฟอกย้อมก็เรียกว่า sued หนังซับใน หนังถุงมือฯ ผ่า split หนามากๆก็เอาไปทำเข็มขัดนักเรียน เป็นต้น )
-ตอนนี้ ก็มาเลือกกรรมวิธี ถ้าฟอกฝาด ไม่ต้องผ่าตามขวาง หลังจากถากผังผืดออก เอาทั้งผืนมาทำเลย หนังจะหนามาก ด้านหลังจะเป็นเส้นขน ด้านผิวจะเป็นมันวาว ... ถ้าเคยเรียนวิธีทำรองเท้า หนังนี้จะเอาไปทำลายนูนต่ำได้ พอจำได้นะ
-แยกเกรดหนังคัดตามผิวพรรณ
--ผิวสวย ผ่าบางแล้ว เอาไปย้อมสีทำหนัง nappa nubuck oil และอีกสาระพัดเรียกตามต้องการ เราเรียกว่า หนัง full grain เต็มรูขน หนังจะนิ่มที่ผิว เป็นรอยแล้วเอานิ้วลูบๆก็หาย หรือ จางลงไป
--ผิวไม่สวย ...เหมือนคน ส่วนใหญ่ไม่สวย... ก็เอามาแต่งแผล รอยถลอกชนิด แผลเปิด แผลปิด ฯ ด้วย พียูตามสีหนังที่ย้อมออกมา แล้วเอาไปขัด ปัดฝุ่น ตอนเป็น หนังแห้ง จากนั้นก็เอาไป กินน้ำใหม่(ย้อมสีหรือทำให้นิ่มซ้ำ) หนีบให้แห้ง ทาสีหรือเคลือบสี อัดลาย ปั่นนิ่ม พ่นสี พ่นเงา เช่น CCO cow corrected grain oil leather และ อีกสาระพัดลาย วัว เบนซ์ ช้าง ควาย จรเข้ งู ไรอีกฟะ เต็มไปหมด
มีทั้งแบบทั้งตัว และ ครึ่งตัว แข็ง นิ่ม รวมถึง พ่นเงาแก้ว เลียนแบบ หนังเทียม (ทำไปทำไมฟะ แต่เรื่องจริง)
--ยังมีผิวระหว่าง สวย กะ ไม่สวยอีก เรียกว่า เซมิ
เล่าให้ฟังคร่าวๆ คงต้องเข้าใจแบบลึกซึ้ง ว่า เผ่าพันธุ์วัว ควาย รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นที่นำมาทำเป็น upper leather ได้ ยากส์ถึงยากส์ที่สุด
และ ในไทย มีเป็นร้อย โรงฟอกหนัง แต่ละโรงก็มีสูตร หรือ ความถนัดต่างๆกันไป รง ที่ใหญ่มากๆ ใช้เคมีดีๆได้ ก็นิยมเล่นวัวนอก ส่วน รง เล็ก ซึ่งมีอยู่เยอะแยะ กระจัดกระจาย อยู่ บางปู กม 30 34 และ ตามจังหวัดต่างๆ ก็นิยมใช้วัวใน เขมร ลาว เวียดนาม พม่า จีน และ บางโรงซึ่งปัจจุบัน นิยมนำเค้ามาเป็น wet blue จาก อเมริกาใต้ ... ตรงนี้ลึกไปเนาะ ...
-เวลาซื้อหนังต้องเลือก เปิดไฟนีออนแบบเดไลท์ให้สว่างๆ บนโต๊ะคัดหนัง แบ่งเป็น เกรด A B C และ ตกเกรด
--ความหนาของหนัง ต้องสม่ำเสมอทั้งแผ่น มีเครื่องวัดความหนาของเนื้อหนัง ต้องสุ่ม หัว กลาง ท้าย เป็นต้น
--กลิ่น เคมีใช้ในการฟอกมีหลายเกรด ถ้าเป็น basf ยอดเยี่ยมแต่แพง ... รง เล็กๆ จึงเลี่ยงไปใช้ ของ ไต้หวัน แทน ซึ่งแหวะ
--ผลการทดสอบหนัง เช่น wet rub / dry rub / light fast และอีกเพียบเลย ควรขอดู ... สังเกตุง่าย หนัง รง ดีๆจะด้านหลังจะมี ยี่ห้อและ เลขที่ lot กำกับอยู่ ... แต่ส่วนใหญ่ ไม่มี เฮ้อ
--สีซ่อมหนัง กรณี เป็นหนังพ่นสีอัดลาย ควรมีไว้ให้ซ่อมรอยถลอก รอยปริ หรือ ทาตรงสันหลังจากเย็บ ชนกัน
--ถ้าซื้อหนังท้อง ต้องเจาะรู แล้วเอานิ้วลองฉีกดู ถ้าขาดแคว๊กแสดงว่า สุกหนังไม่ดี ตรงกลางยังเป็นสีขาวอยู่ เป็นต้น
เล่าให้ฟังคร่าวๆนะ
หนังเฟอร์ส่วนใหญ่ทำจาก cow วัวตัวเมีย เม้นท์ที่ 53 นอกนั้น กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด
http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2011/04/R10422999/R10422999.html#53
.........................................................................................................................................................................
แหล่งเรียนรู้ที่ เรากดไลค์
-วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมกรุงเทพ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-ชมรมศิษย์เก่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ของ กทม ก็มี นะ แต่ครูชอบแฝงหากินกะลูกศิษย์ บ่องตง
เราก็ไม่ใช่ลูกหลานว่านเครือฟอกหนัง เริ่มที่ชอบ...เมื่อ 20กว่าปีที่ผ่านมา อะ
i love leather !
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบแหล่งเรียนรู้เรื่องเครื่องหนัง
พอจะมีท่านใดแนะนำสถานที่ที่เปิดสอน หรืออาจารย์ท่านใดที่สอนอยู่บ้างไหมคะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ