สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ผมว่าคนไทยหลายคนควรจะปรับทัศนคติ และมองในแง่ของการเป็นมนุษย์เงินเดือนใหม่นะ เพราะเท่าที่ดูเห็นตั้งมาหลายกระทู้กับการอยากลาออกและออกไปมีธุรกิจส่วนตัวกันมาก มนุษย์เงินเดือนมีชีวิตที่น่าเบื่อ รับผิดชอบสูง ทำงานแล้วเหนื่อยเปล่า
ประเทศที่เจริญหลายประเทศก็ขับเคลื่อนด้วยคนกลุ่มนี้นะครับ และหลายคนจำนวนมากก็ประสบความสำเร็จจากการไต่เต้าเป็นมนุษย์เงินเดือนขึ้นมาเป็นคนสำคัญ เป็นตำแหน่งใหญ่โตในองค์กร ในขณะที่บางคนเบื่อทำงาน ออฟฟิศ อยากมีชีวิตอิสระ
ผมไม่ได้ว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนมันดีเสมอไป ก็อย่างที่กล่าวข้างต้นน่ะแหละ แต่ถ้าหากคุณปรับทัศนคติใหม่แล้วจะพบว่าการทำงานในออฟฟิศมันไม่ใช่เรื่องที่แย่เลยด้วยซ้ำ ทั้งยังมีความมั่นคงในชีวิตมากกว่า
หรือถ้าคุณไม่พอใจกับสภาพในองค์กรเป็นอย่างมาก ก็ลองลาออกไปหาองค์กร/บริษัทใหม่ที่คุณทำงานอยู่ด้วยแล้วมีความรู้สึกลงตัวมีความสุข และให้ค่าตอบแทนที่ดีกว่า ยังดีกว่าออกไปเสี่ยงกับความไม่แน่นอนในชีวิต
ไม่ได้พูดถึงว่าธุรกิจส่วนตัวจะเสี่ยง อันตรายเสมอ แต่มันก็เสี่ยงมากๆจริงสำหรับคนที่ตั้งธุรกิจตัวเองแบบยังไม่ได้ศึกษามาอย่างดี ไม่มีลู่ทาง ไม่มี connection อย่างที่ความเห็นบนกล่าว ยิ่งคุณมีเงินเดือน 50K-60K จะต้องทำธุรกิจตัวเองกี่ปีถึงได้กำไรขนาดนั้น และการทำธุรกิจส่วนตัวมันต้องใช้ความรับผิดชอบมากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนนะครับ ต้องเหนื่อยมากกว่าเดิมด้วย ถ้าอยากให้ธุรกิจสำเร็จคุณต้องมีวินัยในตัวเองก่อน
แต่ถ้าคุณอยากออกมาทำเองจริง ผมว่าลองทำประจำไป แล้วก็ค่อยๆทำธุรกิจตัวเองเป็นงานนอกเวลาไปก่อนจนกว่า ธุรกิจที่ตั้งรู้ว่ามันไปได้ และมีเงินเข้ามาทุกเดือนแน่นอน ถึงตอนนั้นก็ค่อยออกก็ได้ ถึงแม้จะทำให้ตัวเองเหนื่อยในตอนนี้เพราะเท่ากับต้องทำ 2 งานในวันเดียว แต่ถ้าอยากมีชีวิตแบบนั้นก็ต้องทนครับ ชีวิตไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบไปตลอดหรอกครับ
ถ้าหากธุรกิจตัวเองเจ๊งขึ้นมาจะลำบากครับ นอกจากลำบากตัวเองแล้วเกิดภาระต่อญาติพี่น้อง คนรอบข้าง พ่อแม่ ก็อาจจะพลอยลำบากไปด้วย ยิ่งถ้าตั้งทุนทำธุรกิจจากการไปกู้หนี้ ยืมสินมา
ประเทศที่เจริญหลายประเทศก็ขับเคลื่อนด้วยคนกลุ่มนี้นะครับ และหลายคนจำนวนมากก็ประสบความสำเร็จจากการไต่เต้าเป็นมนุษย์เงินเดือนขึ้นมาเป็นคนสำคัญ เป็นตำแหน่งใหญ่โตในองค์กร ในขณะที่บางคนเบื่อทำงาน ออฟฟิศ อยากมีชีวิตอิสระ
ผมไม่ได้ว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนมันดีเสมอไป ก็อย่างที่กล่าวข้างต้นน่ะแหละ แต่ถ้าหากคุณปรับทัศนคติใหม่แล้วจะพบว่าการทำงานในออฟฟิศมันไม่ใช่เรื่องที่แย่เลยด้วยซ้ำ ทั้งยังมีความมั่นคงในชีวิตมากกว่า
หรือถ้าคุณไม่พอใจกับสภาพในองค์กรเป็นอย่างมาก ก็ลองลาออกไปหาองค์กร/บริษัทใหม่ที่คุณทำงานอยู่ด้วยแล้วมีความรู้สึกลงตัวมีความสุข และให้ค่าตอบแทนที่ดีกว่า ยังดีกว่าออกไปเสี่ยงกับความไม่แน่นอนในชีวิต
ไม่ได้พูดถึงว่าธุรกิจส่วนตัวจะเสี่ยง อันตรายเสมอ แต่มันก็เสี่ยงมากๆจริงสำหรับคนที่ตั้งธุรกิจตัวเองแบบยังไม่ได้ศึกษามาอย่างดี ไม่มีลู่ทาง ไม่มี connection อย่างที่ความเห็นบนกล่าว ยิ่งคุณมีเงินเดือน 50K-60K จะต้องทำธุรกิจตัวเองกี่ปีถึงได้กำไรขนาดนั้น และการทำธุรกิจส่วนตัวมันต้องใช้ความรับผิดชอบมากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนนะครับ ต้องเหนื่อยมากกว่าเดิมด้วย ถ้าอยากให้ธุรกิจสำเร็จคุณต้องมีวินัยในตัวเองก่อน
แต่ถ้าคุณอยากออกมาทำเองจริง ผมว่าลองทำประจำไป แล้วก็ค่อยๆทำธุรกิจตัวเองเป็นงานนอกเวลาไปก่อนจนกว่า ธุรกิจที่ตั้งรู้ว่ามันไปได้ และมีเงินเข้ามาทุกเดือนแน่นอน ถึงตอนนั้นก็ค่อยออกก็ได้ ถึงแม้จะทำให้ตัวเองเหนื่อยในตอนนี้เพราะเท่ากับต้องทำ 2 งานในวันเดียว แต่ถ้าอยากมีชีวิตแบบนั้นก็ต้องทนครับ ชีวิตไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบไปตลอดหรอกครับ
ถ้าหากธุรกิจตัวเองเจ๊งขึ้นมาจะลำบากครับ นอกจากลำบากตัวเองแล้วเกิดภาระต่อญาติพี่น้อง คนรอบข้าง พ่อแม่ ก็อาจจะพลอยลำบากไปด้วย ยิ่งถ้าตั้งทุนทำธุรกิจจากการไปกู้หนี้ ยืมสินมา
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่ใช่ว่าทุกคนออกมาทำธุรกิจ แล้วจะสำเร็จทุกราย ผมเคยมีทรัพย์สิน รวม 10 กว่าล้าน ทำธุรกิจ จนหมดตัวมาแล้ว ต้องเริ่มใหม่ทุกวันนี้กำลังไปได้ดี ตอน 40 กว่าๆ รายได้หักค่าใช้จ่ายเหลือประมาณ 180,000 - 250,000 บาท คิดให้ดี นะครับ ยิ่งผู้หญิงแก่ตัวไปจะหางานยาก คิดให้ดี แต่ถ้าคิดแล้วว่าดี ก้อขอให้ประสบความสำเร็จครับ
แสดงความคิดเห็น
30 ต้นๆ เงินเดือนเท่านีิ้ จะออกมาทำธุรกิจตัวเองดีไหม
แต่เบื่อสภาพในบริษัท สังคมการแก่งแย่ง ขณะที่ยิ้มให้กัน เพลียค่ะ
คิดว่าควรลาออกไหมคะ
แต่ถ้าลองทำธุรกิจแล้วพลาดเงินหมด ป่านนั้นจะกลับมาทำงายบริษัทจะแก่ไปมัย