
ลินด์ซีย์ ลอเรนโค เด็กสาววัยสิบแปดปี ผู้ซึ่งไม่เคยมีโอกาสได้ใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นเหมือนอย่างเด็กสาวคนอื่นๆ
เธอต่อสู้กับโรคมะเร็งมาเป็นเวลาหกปี และสามารถรอดพ้นผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดมาได้ถึงสี่ครั้ง ท่ามกลางความรักและกำลังใจจากครอบครัว
แต่โชคร้ายที่ปีนี้มะเร็งร้ายได้หวนคืนกลับมาและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าครั้งไหนๆ จนร่างกายของเธอไม่อาจต้านทานมันได้อีกต่อไป
ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เธอจะลาจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ นางดาห์ลีน ลอเรนโค คุณแม่ของเธอได้เล่นกีตาร์และขับร้องบทเพลงที่แต่งขึ้นมาเอง
บทเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความห่วงใย มากเท่าที่แม่คนหนึ่งจะมีให้ลูกสาวของตนได้
บทเพลงที่เปลี่ยนช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกจากการลาจากให้กลายเป็นความสวยงามแห่งรักอันปราศจากเงื่อนไข และย้ำเตือนให้ตระหนักถึงสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต

ภาพครอบครัวลอเรนโค จากซ้ายไปขวา คุณพ่อโทนี่ น้องสาวเซดี้ ลินด์ซีย์ และคุณแม่ดาห์ลีน
The Last Precious Song บทเพลงแห่งความรัก คำอำลาจากแม่แด่วาระสุดท้ายของลูก
ลินด์ซีย์ ลอเรนโค เด็กสาววัยสิบแปดปี ผู้ซึ่งไม่เคยมีโอกาสได้ใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นเหมือนอย่างเด็กสาวคนอื่นๆ
เธอต่อสู้กับโรคมะเร็งมาเป็นเวลาหกปี และสามารถรอดพ้นผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดมาได้ถึงสี่ครั้ง ท่ามกลางความรักและกำลังใจจากครอบครัว
แต่โชคร้ายที่ปีนี้มะเร็งร้ายได้หวนคืนกลับมาและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าครั้งไหนๆ จนร่างกายของเธอไม่อาจต้านทานมันได้อีกต่อไป
ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เธอจะลาจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ นางดาห์ลีน ลอเรนโค คุณแม่ของเธอได้เล่นกีตาร์และขับร้องบทเพลงที่แต่งขึ้นมาเอง
บทเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความห่วงใย มากเท่าที่แม่คนหนึ่งจะมีให้ลูกสาวของตนได้
บทเพลงที่เปลี่ยนช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกจากการลาจากให้กลายเป็นความสวยงามแห่งรักอันปราศจากเงื่อนไข และย้ำเตือนให้ตระหนักถึงสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต
ภาพครอบครัวลอเรนโค จากซ้ายไปขวา คุณพ่อโทนี่ น้องสาวเซดี้ ลินด์ซีย์ และคุณแม่ดาห์ลีน