ใครๆก็บอกว่า การลงทุนในหุ้นมันคือการทำธุรกิจ แต่ไม่สามารถกูเงินมาลงทุนใด้เป็นข้อห้ามเลยนะครับ อันนี้ใครจะเล่นต้องเงินเย็นครับ ส่วนการทำธุรกิจจริงๆ สามารถกู้เงินมาลงทุนใด้ครับ เพราะมีทรัพย์สินที่จับต้องใด้ และมีตัวตน ทำไห้เวลาธุรกิจเจ้งหรือขาดทุน ยังพอมีสินทรัพย์ขายทอดตลาดใด้ เอาเงินไปทำอย่างอื่นใด้อีก แต่หุ้นไม่เหมือนกันครับ หากท่านมีเงิน10ล้านบาท ท่านลงทุนชื้อ หุ้น banpu ที่ราคา 600บาท ท่านบอกว่าเป็นการลงทุน ท่านจะใด้แค่ตัวเลขเฉยๆครับ เพราะไม่มีอะไรที่เป็นทรัพย์สินที่เป็นของท่านจริงๆ หากเวลาธุรกิจมีปัญหา ผู้ถือหุ้นรายไหญ่เขาก็ขายหุ้นทิ้งก่อน ท่านเองไม่รู้เรื่องอะไรเลย ใด้แต่มองราคาหรือมูลค่ากิจการลดลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายเงิน10ล้านบาท มูลค่ามันลดลงมาเรื่อย อาจจะเหลือ 50บาท ท่านก็ไม่อาจจะทำใด้ แต่ถ้าเป็นธุรกิจจริงๆ ราคาที่ดิน และเครื่องจักรของท่านรวมทั้งวัตถุดิบพวกแร่ต่างๆ ยังสามารถนำมาขายทอดตลาดใด้อีกเยอะ แต่หุ้นมันเป็นแค่สิ่งสมมุติกันขึ้นมาครับ เพราะจริงๆแล้ว มันไม่สามารถลงทุนกันเป็นจริงเป็นจังใด้หรอกครับ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผมเองนะครับ ผ่านการลงทุนมา3ปีแล้ว พอจะเห็นอะไรในตลาดมากขึ้น หากใครผ่านมาครบ3ปี จะคิดเหมือนกันหมดครับ หากใครผ่านมา1ปี หรือยังไม่ครบเทอม มักจะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ครับว่าจะร่ำรวยในตลาดหุ้น หลายๆคนผ่านจุดนั้นมาหมดละครับ หนังสือ vi คนเขียนก็คนเดิม ๆ การลงทุนหรือวิธีเล่นก็คัดล้อกกันมาทั้งหมด สุดท้ายแล้ว ห้องสินธรนี่แหละครับ ที่มีสมาชิคเยอะแยะเพราะว่ายังไม่ประสพผลสำเร็จเลยนะครับ ส่วนพวกที่ผ่านครบ3ปี ก็หนีหายออกไปจากตลาดหุ้นกันหมดครับ ส่วนพวกที่ใด้เงินก็ บ.ล จ และ สถาบันการเงินต่างๆ ที่เหลืออยู่ที่ห้องนี้ก็พวกเสียเงินทั้งนั้นแหละครับ ถูกผิดเช่นใรประสพการณ์ที่ผ่านมา3ปี มันบอกผมใว้แบบนี้ครับ ผมไม่เชื่อหนังสือ หรือใครบอกอีกแล้วครับ แต่ผมเชื่อประสพการณ์ที่ลงทุนมา
การลงทุนในหุ้น มันไม่เหมือนการทำธุรกิจนะครับ แต่มันเหมือนพนัน เป็นยังไงเข้ามาอ่านกันครับ