เหนือตะวัน ตอนที่ 26

กระทู้สนทนา
ตอนที่  26  เพชฌฆาตคงกระพัน

          ศิริศร เธอโทรไปสอบถามเพื่อนในคณะแพทยศาสตร์ เพื่อขอข้อมูลเรื่อง มีสารเคมีชนิดใด
ที่สามารถ ทำให้คนเปลี่ยนนิสัย หรือลืมเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นไปได้  เพื่อนเธอจึงให้เบอร์โทร
ของอาจารย์สามารถ เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องยาทุกชนิด รวมทั้งสารเคมี ที่มีผลต่อระบบสมอง  
ศิริศรได้คุยกับอาจารย์สามารถ เธอได้ข้อมูลมากพอสมควร เพราะอาจารย์สามารถ บอกให้เธอ
ได้รู้ข้อมูลนี้

"อาจารย์เคยได้ยินเรื่องนี้ตอนสมัย ไปเป็นแพทย์อาสาชาวเขา...มันมียาชนิดหนึ่งที่คุณสมบัติ คล้ายกับ
ที่หนูบอกมา...เดี๊ยวนะขออาจารย์ค้นดูหน่อย..อืม!!..นี่ไง...มันเป็นยาสั่งชนิดหนึ่ง ที่หมอผีของเผ่า
อีก้อใช้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง หรือหัวหน้าเผ่า...จะทำให้คนที่ ต้องยาสั่ง เปลี่ยนนิสัยโดยสิ้นเชิง  
แล้วจะทำอะไรที่ตรงข้ามกับนิสัยเดิม...มีคนบอกว่า...คนที่ให้ยา...สามารถสั่งการให้คนที่โดนยา
ทำอะไรที่สั่งเธอได้โดยไม่รู้ตัว...แล้วเมื่อยาหมดฤทธิ์ คนที่โดนยาจะมีอาการต้องการยา เหมือนคน
ขาดยาเสพติด  เมื่อได้รับยาก็จะหาย...จนครบสามหรือ สี่ครั้ง...คนที่โดนยา ก็จะเสียสติอย่างถาวร.....
ไม่สามารถกลับมาเป็นปกติ เพราะยาจะไปกัดกินสมองจนหมดสิ้น.....จะอยู่ด้วยความหวาดกลัว
หรือกลัวความผิดที่กระทำ....ในอดีต....ชั่วกัปชั่วกัลป์...รู้สึกมันชื่อว่า....ยาสั่งพิฆาตจิต...อะไรเนี่ยะ!!..
อาจารย์เห็นว่าแปลกดี เลยเก็บเป็น ข้อมูลเอาไว้ศึกษา..."

ศิริศร...แปลกใจคำว่า 'เธอ' จึงถามอาจารย์สามารถ ถึงผู้ที่จะใช้ยานี้

"อาจารย์ค่ะ!!!...ที่อาจารย์ว่า 'ทำอะไรที่เธอสั่ง' หมายความว่า ผู้ใช้ยานั้น ต้องเป็นผู้หญิง  แล้วต้องใช้
กับผู้ชาย...ใช่ไหมค่ะ..."
อาจารย์สามารถ จึงตอบออกมา

"ใช่แล้ว...เพราะยาสั่งตัวนี้ ปรุงโดยหมอผีที่เป็นหญิง...เธอเคยเป็น..มิดะ..มาก่อน...จึงมีความแค้นใน
บุรุษเพศ ที่กระทำกับเธอเหมือนสิ่งของ...สอนวิชาสมสู่เพื่อให้ไปเป็นผู้นำครอบครัวคนอื่น  โดยตน
หมดสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตคู่กับใคร...ยาตัวนี้ทำให้คนที่เธอแค้นอยู่ภายใต้อำนาจ ราคะอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
หมดศักดิ์ศรีของความเป็นผู้นำ....เป็นการแก้แค้นที่...อำมหิตมาก...แต่มันเป็นแค่เรื่องเล่า...อาจารย์
ยังคิดว่าเป็นนิทานปรัมปราเลย...แต่พอหนูมาสอบถาม ก็เลยนึกขึ้นมาได้...."
ศิริศร นิ่งเงียบไป ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง

"ถ้าหนู จะไปขอรายละเอียด ที่อาจารย์ เพิ่มเติม อาจารย์พอมีเวลาให้หนูได้...เมื่อไหร่คะ??..."

หลังจากนัดวันเวลาเรียบร้อยแล้ว  คิริศรตั้งใจจะไปหาอาจารย์สามารถใน อาทิตย์หน้า เพราะมี
ความเป็นไปได้ ที่บิดาของเธอ จะต้องมนต์ยาสั่ง...ถึงเธอไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เต็มร้อย แต่เธอก็ไม่
ปิดกั้น...เพราะศิริศรนั้นมีความเชื่ออยู่ชนิดหนึ่งในตัว....ในโลกนี้มีอะไรที่เราไม่รู้อย่างแท้จริง
มากมาย...เพราะฉะนั้นอย่าให้ความเชื่อใดๆ..มาปิดกั้นความเชื่ออีกชนิดหนึ่ง.....โดยเด็ดขาด...
....................................

          สิทธิชัยมาหาศิริศรตามปกติ  เขาเจอเอกที่มาหาศิริศรเช่นกัน  วันนี้เอกนำเอา บัญชีของ
กิจการสิ่งทอมาให้ เพราะตอนนี้เอกต้อง ดูแลกิจการ ผ้าไหมกาญจกิจ ที่ส่งเป็นวัตถุดิบ ไปค้าต่าง
ประเทศ  ผ่านทางบริษัทของเซี่ยงหลงอีกที  สิทธิชัยยิ้มอย่างเป็นมิตร  แต่คำพูดเชือดเฉือนอย่างยิ่ง

"คุณเอกนี่เอง  ไม่ได้พบกัน ตั้งแต่คราวนั้น  ยังสบายดีอยู่นะครับ ผมยังจำติดตาถึงพลังหมัด ที่ออก
อย่างแม่นยำ รุนแรงพอที่จะป่นศิลาให้แหลกได้...เป็นหมัดที่ร้ายกาจยิ่งนัก...นับถือจริงๆ..."

สายตาที่สิทธิชัยจ้องมานั้น เหมือนจะเต็มไปด้วยความเลื่อมใส  ส่วนตาของเอกแดงกล่ำ เพราะคำ
พูดนั้นเป็นเหมือนคำขู่ที่จะบอกนัยๆว่า...อย่ามายุ่งกับข้า เพราะข้ารู้ความชั่วของแก.... เอกจึงตอบ
กลับไปอย่างเจ็บแสบพอกัน

"ความจริงผมต้องอิจฉาคุณมากกว่า...ที่มีแม่...ที่ยังสาว พร้อมจะป้อนทุกอย่างให้...โดยที่ลูกนกน้อย
อย่างคุณ...ไม่ต้องทำอะไร...ก็ได้ประโยชน์ ...เก็บเกี่ยวผลกำไร โดยมิต้องลงทุน แต่ก็คงมิใช่ทีเดียว
เพราะเรื่องนี้...คุณคงเป็นคนวางแผนไว้....แต่คนอื่นๆ...เป็นคนลงมือ...หึ..ๆ...ไม่ให้ผมอิจฉาคุณ แล้ว
ผมควรไปอิจฉาลูกนก...ที่ไหน..."
สายตาของเอกนั้นท้าทายอย่างยิ่ง  สิทธิชัยยังคงยิ้มอย่างเป็นปกติ ก่อนจะเอ่ยออกมา

"บางครั้งผมก็อดสงสารใครคนหนึ่งไม่ได้... ตอนที่ผมเห็นสายตาของเขา  มองคุณ...มันเหมือนพ่อ
ที่ผิดหวังในตัวลูก...ผมว่าคนที่ทนสายตาแบบนั้นได้...จิตใจเขาต้องเข้มแข็งมากๆ...เป็นผม...ผมคง
ละอายมาก ถ้ามีใครมามองผมแบบนั้น...คนที่ไม่รู้สึกอะไร จึงจะเป็นยอดคนอย่างแท้จริง...หึ...ๆ.."

เอกรู้สึกโกรธจนเกือบระงับอารมณ์ไม่อยู่  เขาเดินเข้าไปหาสิทธิชัย  จ้องในระยะสายตาที่มองกัน
ไม่เกิน ๑ ฟุต  สายตาทอประกายอำมหิตอย่างยิ่ง  สิทธิชัยจ้องตอบด้วยสายตาแบบกวนประสาท
ศิริศร ตะโกนขึ้นมา เนื่องจากเพิ่งเดินลงมา จึงเห็นทั้งสองเหมือนกำลังจะลงไม้ลงมือกัน

"พี่เอก คุณบูร์ มาถึง เมื่อไหร่คะ..."
ศิริศรรู้ทันทีว่าทั้งสองกำลังมีเรื่องกัน  จึงลงมาระงับเหตุไว้ก่อน สิทธิชัยเอ่ยขึ้นก่อน

"ไม่มีอะไรหรอกครับ...พอดีผมเจอคุณเอก...แล้วผมก็เลยถามถึงคุณธนู...คุณเอกก็เลยต้องการมา
อธิบายให้ผมทราบ...แบบใกล้ชิดนะครับ..."

เอกนั้นมือสั่นด้วยความโกรธ  เพราะนั่นคือคำขู่ของสิทธิชัยนั่นเอง...แน่นอนเอกคิดว่า ศิริศรคงไม่เชื่อ
ในเรื่องที่ สิทธิชัยบอกกับเธอ...แต่ทำไมเขาต้องเสี่ยงด้วย....เอกยิ้มอย่างจริงใจตบบ่าสิทธิชัยอย่าง
สนิทสนม....หันหน้าไปยังศิริศร กล่าวออกมา

"คุณสิทธิชัย...อยากทราบอาการของ อาเจ็กโดยละเอียดนะ  แต่พี่บอกไปแล้วว่าอาเจ็กไม่ได้
เป็นอะไรมาก...ไม่มีอะไรหรอกจะ..."

เอกถอยหลังออกห่างจาก สิทธิชัย แล้วเดินไปหาศิริศรพร้อมจับข้อมือของเธอทั้งสองข้าง
แน่นอน เอกแสดงให้สิทธิชัยเห็น  กล่าวออกมา

"ลูกศรเฮียรีบมาจากเชียงใหม่  เออแล้วดรุณีฝากจดหมายมาให้แหนะ...เพื่อนๆที่เชียงใหม่ เขาคิดถึง
เรามากรู้ไหม..."

เอกหยิกจมูก ศิริศรเหมือน พี่ชายหยอกน้องสาว  แน่นอนว่าสิทธิชัยทราบได้ว่า เอกมิได้คิดแค่นั้น
ภายในใจของสิทธิชัยนั้นร้อนดั่งไฟที่สุมอก แต่ก็ไม่แสดงอาการออกมา กล่าวอย่างสนิทสนมกับ
ศิริศรว่า

"ลูกศรนัดกับผม จะไปทานอาหารเที่ยง ที่สีลม...เออ!!...คุณเอกมีธุระที่ไหนหรือเปล่า...เราจะได้ไป
รับประทานอาหารกัน...ผมจะได้ปรึกษาเรื่องการเลี้ยงหนอนไหม เพราะผมกำลังจะขยายงานด้านนี้
ได้ข่าวว่าคุณรู้จักหนอนไหมดีที่สุด...คงไม่เป็นการรบกวนคุณเอกนะครับ..."

คำว่าหนอนคือคำ-ดันถึง เอกโดยตรง เพราะสิทธิชัยกำลัง บอกว่าเอกคือหนอน ที่คอยบ่อนทำลาย
ศิริศรอยู่ เอกนั้นแค้นจนปลายนิ้วสั่น แต่ก็เก็บอาการได้ดีเยี่ยม  ยิ้มตอบออกมาอย่างปกติ เอ่ยตอบโต้
สิทธิชัยไปบ้าง

"คุณสิทธิชัย คุณคงเข้าใจอะไรผิด ความจริงคุณต้องเรียก ตัวไหม ถ้าหนอนนั้นมันหมายถึง อาหารที่
นำไปป้อนให้ลูกนกกิน...ผมว่าคุณคงคุ้นเคยกับการป้อนอาหารลูกนก จึงใช้คำผิด...หึ..ๆ..ผมก็กำลัง
จะเลี้ยงลูกนก เพื่อเพาะพันธ์ขาย เห็นว่าคุณก็เชี่ยวชาญเรื่องนี้ไม่ใช่หรือ  เราจะได้แลกเปลี่ยนความรู้
ในด้านที่เราถนัดไงครับ...."
สิทธิชัยยิ้มอย่างกวนบาทา กล่าวออกมาอย่างอารมณ์ดี

"แน่นอนครับ...เราได้แชร์ประสบการณ์เรื่องที่เราถนัดกันอย่างแน่นอนครับ....ลูกศรไม่รังเกียจนะครับ
เพราะถ้าคุณเอกไม่ไปด้วย ผมคงเหงาปากแย่..."

แล้วทั้งสามก็เดินออกมา เพื่อไปขึ้นรถ  เอกจึงบอกให้ศิริศรไปนั่งรถของเขา  แต่ศิริศรกลับบอกว่า
ต้องไปนั่งรถของสิทธิชัย เพราะเธอมีเรื่องต้องคุยกัน  เอกเก็บความไม่พอใจเอาไว้ แต่ใบหน้ายัง
แย้มยิ้ม...เมื่อเอกนั่งที่ตำแหน่งขับรถ  เขาตีไปที่พวงมาลัยรถอย่างฉุนเฉียว สายตามองไปยังศิิริศร
ที่นั่งอยูบนรถยนต์ของสิทธิชัย  แต่ทันใดเขาเห็นรถเก๋งสีฟ้า  แบบสองประตู พุ่งออกมาขวางรถของ
สิทธิชัย!!!.....
..................................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่