เหนือตะวัน ตอนที่ 25

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 25  ซ่อน....อำมหิต

          เอกมีธุระต้องกลับไปเชียงราย เมื่อถึงที่บ้านพักที่ไร่ชา มีหญิงสาวมารอที่บ้านพัก เมื่อเดินเข้าไป
ภายในบ้าน หญิงสาวเข้ากอดเอวเขาจากด้านหลัง

"พี่เอก...ณีคิดถึงพี่เอกที่สุด... ทำไมพี่เอกไม่ไปหาณีที่เชียงใหม่บ้างคะ!!!..."
ที่แท้เป็นดรุณี เพื่อนสนิทของศิริศรที่เรียนด้วยกัน  แต่เธอเกิดไปมีความสัมพันธ์กับเอก ในคราวที่
ศิริศรเกิดเรื่องที่กรุงเทพเมื่อหลายเดือนก่อน เอกหันหน้ากลับมากอดเธออย่างอ่อนโยน

"ขอโทษนะจ๊ะ ที่พี่ไม่ได้ส่งข่าว...ตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย...ทั้งเรื่องของอาเจ็ก ทั้งเรื่องลูกศร
จนพี่ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะส่งข่าวให้ณีทราบ..."
ดรุณียิ้มทั้งน้ำตา เอ่ยออกมาอย่างดีใจ

"ตอนแรกณีคิดว่า...พี่เอกจะรังเกียจณี ที่เป็นผู้หญิงใจง่าย ยอมเป็นของพี่ก่อน เราจะ
แต่งงานกัน...แต่เป็นความสัตย์จริงนะคะ...ณีรักพี่เอกเพียงคนเดียว  รักมาตลอด..."
เอกดันตัวดรุณีออก พร้อมกับจ้องตา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

"พี่ก็รักณีมานานแล้ว  พี่ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น...แต่ตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย พี่เองก็อยากไป
หาน้องณีใจจะขาด...แต่ภาระกิจที่ได้รับมันใหญ่เกินกว่าพี่ จะละทิ้งไปได้...น้องณีให้อภัยพี่...นะครับ
คนดีของพี่..."
เอกใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาดรุณีอย่างแผ่วเบา ก่อนจะบรรจงจูบที่หน้าผากของเธอ  ดรุณีนั้นซบ
ลงที่อกของเอกอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกล่าวออกมา

"พี่เอกขา ถ้าณีจะมาอยู่กับพี่เอกที่นี่ พี่เอกจะว่าอะไรไหมคะ..."
เอกรู้สึกตกใจ ในเรื่องนี้ แต่พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ เขากรอกตาหาทางออก ที่จะไม่ทำให้
ดรุณีสงสัยในเรื่องนี้

"น้องณีครับ...พี่เองไม่ได้เรียนจบระดับมหาวิทยาลัย...พี่รู้ดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน   ที่เราพลาด
สิ่งนั้นในชีวิต...ตอนนี้ พี่อยากให้น้องณีเรียนให้จบก่อน...เพราะถ้าน้องณีจบมหาวิทยาลัย
พี่จะได้บอกอาเจ็ก ให้ไปสู่ขอน้องณี...มาเป็นเมียพี่  อย่างที่พี่เคยบอกไงจ๊ะ!!..."

ดารุณีคิดตาม ถึงจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่อยากขัดใจเอก...เพราะเธอนั้นเชื่อมั่นในชายผู้นี้
มากกว่าใคร...แล้วเธอเองยอมที่จะทำตามที่เขาบอกทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไข....

"ก็ได้ค่ะ...ณีจะพยายามเรียนให้จบ...ตามที่พี่เอกต้องการ...ก็เพราะณีรักพี่เอกเหลือเกิน
ถึงจะยากลำบากแค่ไหน...ณีจะทำตามที่พี่เอกแนะนำคะ..."

"แต่อีกอย่างที่พี่ต้องขอไว้...เรื่องนี้น้องณีต้องอย่าบอกให้ใครรู้  แม้แต่ลูกศร...เพราะถ้าเรื่องนี้ ไปถึง
อาเจ็ก ก็อาจจะทำให้  อาเจ็กเข้าใจในตัวณีผิด...อาเจ็กแกเป็นคนหัวโบราณ...ท่านอาจขัดขวางเรา
พี่จะรอให้น้องณี ได้ปริญญา...แล้วพี่จะรีบแจ้งอาเจ็ก เพื่อมาสู่ขอทันที...เราจะได้อยู่ครองคู่กันไงจ๊ะ!!..."

"ค่ะพี่เอก...ณีจะรอวันนั้น...วันที่เราได้ใช้ชีวิตคู่จริงๆ...จังๆ...สักที...

สายตาของดรุณีนั้นมีแต่แววตาของความสุข ผิดกับของเอกที่มีแต่ความเครียดขึงจนน่ากลัว...เพราะ
ความจริงเขานั้นต้องการให้ ดรุณีเป็นคนสอดแนมให้เขา ในเรื่องที่เกี่ยวกับศิริศร จึงทำเป็นหลงรักเธอ
แต่เอกกลับไปมีความสัมพันธ์เกินปกติ...เอกนึกเจ็บใจตัวเองที่ไปเผลอปล่อยใจ ไปมีอะไรกับดรุณี....
ตอนนี้เขาคงต้องถ่วงเวลาไปก่อน...เอกนั้นมีหญิงเดียวในดวงใจ...คือศิริศร...แน่นอนว่าเขาไม่ยอมให้
ใคร...หรืออะไรมาขวางความรักของเขา....อย่างแน่นอน....
..............................................

          หิรัญเมื่อได้รับรายงานว่า สิทธิชัยสามารถหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย  โดยรถที่จอดไว้ถูกนำ
ออกไปก่อน  แล้วใช้มอเตอร์ไซด์ที่เตรียมไว้อีกที่ ขับพาศิริศรหนีไปได้ อย่างลอยนวล  หิรัญรู้ได้ทันที
มันเป็นแผนของสิทธิชัย ตั้งแต่แรก เพื่อจะทำคะแนนต่อหน้าศิริศร...หิรัญนึกเจ็บใจตัวเอง ที่หลงกลให้
สิทธิชัยเช่นนี้   ตอนนี้ความแค้นที่เสียเหลี่ยมให้ศัตรูหัวใจ มันทำลายความสุขุมคัมภีรภาพไปหมดสิ้น  
หิรัญคิดอยู่อย่างเดียว คือทำอย่างไร จะจัดการสิทธิชัยออกไปให้พ้นทาง

"กล้า...ถ้าฉันอยากให้ไอ้จอม...ไปเก็บไอ้สิทธิชัย...แกเห็นว่าเป็นอย่างไร!!!..."
กล้าท่าพระจันทร์รู้สึกตื่นตระหนกที่ หิรัญคิดเช่นนั้น จึงกล่าวเตือนออกไป

"เจ้านายครับ...ผมว่าอย่าเพิ่งทำถึงขนาดนั้นเลย...เพราะถ้าเกิด ทางสมาพันธ์ห้ามังกรรู้ละก็...มันเป็น
เรื่องใหญ่มากนะครับ....อาจมี คำประกาศิตมังกรลงมา ก็เป็นได้...นี่ไม่รวมถึง กลุมของ นฤมลอีกกลุ่ม
เจ้านาย โปรดไตร่ตรองก่อน..."
หิรัญเหยียดยิ้มออกมา ก่อนจะเปิดเผยความในใจ  ให้กล้ารู้

"แกจะกลัวอะไร...ถ้าเก็บไอ้สิทธิชัย...อย่างมากก็โยนให้ ไอ้ธนูเป็นคนสั่งฆ่า...เพราะมันก็มีเรื่องกันอยู่...
แกไม่ต้องกลัวหรอก....แต่ถ้าสมาพันธ์ห้ามังกรไม่เชื่อ....มันก็ช่วยไม่ได้...แล้วฉันก็อยากรู้...ว่าจ้าวมังกร
มันมีปัญญาจะมาทำอะไรฉันได้....รวมทั้งนฤมลด้วย เพราะฉันไม่เคยกลัวใคร..."

กล้ายังคงทัดทาน เพื่อให้หิรัญเปลี่ยนใจ ในเรื่องนี้ เพราะเขานั้นเคยทราบถึงความร้ายกาจของ
จ้าวมังกร...ถึงแม้ไม่เคยเห็นด้วยตา...แต่กล้าก็เชื่อถึงความน่ากลัวของอำนาจที่ไร้ขีดจำกัด

"ผมว่าเราไม่ควรเสี่ยงกับจ้าวมังกรนะครับ...เพราะมันจะไร้ประโยชน์... ถึงแม้เราจะจัดการ สิทธิชัย
ไปได้ แต่มันอาจทำให้เราพินาศสิ้นเช่นกัน....แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรละครับ...ที่พวกเรา
ต้องถูกทำลาย หลังจากที่มันตาย...ไม่นาน..."
หิรัญตบโต๊ะเสียงดังสนั่น ตวาดกลับมาดังราวฟ้าผ่า

"ไอ้กล้า...แกอย่ามาสอนข้าในเรื่องนี้...ข้ารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่...ตอนนี้แกมีสิ่งเดียวที่จะต้องทำ...
และ...ต้อง...ทำ...ให้...ได้...คือให้ไอ้จอม....ไปเก็บ...ไอ้สิทธิชัย...ส่วนที่เหลือ...ข้ารับผิดชอบเอง...
ข้าอยากให้มันตาย...ภายในเดือนนี้...ชัดเจนใช่ไหม..."
กล้าก้มหน้า รับคำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"ได้ครับ...ถ้าเจ้านายต้องการแบบนั้น...ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก...ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว  ไปเตรียมการ
เรื่องนี้ก่อนนะครับ..."
กล้าเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบงัน ทิ้งให้หิรัญหัวเสีย อยู่ตรงนั้น

"ไอ้กล้า....แกนี่กลัวอะไร  ไม่เข้าเรื่อง....หึ..ๆ...จ้าวมังกรจะมีอะไร....มันโดนยิงแล้วมันไม่ตายหรือ...
ฉันไม่เคยเชื่อ  เรื่องนิทานปรัมปราแบบนั้นหรอก...เรื่องนี้อยู่ที่ใคร...ลงมือ...เร็วกว่ากัน...เท่านั้นเอง..."

หิรัญจ้องไปเบื้องหน้าสายตานั้น เต็มไปด้วยความอาฆาตอย่างยิ่ง...สิ่งที่คนปกติทั่วไปเป็นเหมือนกัน
ก็คือ... เมื่อถือครองอำนาจมานาน...ความคิดชนิดหนึ่งจะเข้ามา...มันคือ...ความประมาท...ที่คิดว่าใคร...
ก็ไม่สามารถโค่น ให้เรา...ล้มลงได้....
..........................................

กล้านำประวัติ รวมทั้งรูปถ่ายของสิทธิชัย มามอบให้ จอม หรือที่วงการนักเลงเรียกว่า  จอมเพชฌฆาต
เก้าชีวิต ผู้ที่ใครๆ ก็หวั่นเกรง เพราะเป้าหมายของจอม ไม่เคยมีใครรอดชีวิตไปได้ ใครที่ขวางทาง
เป้าหมายล้วนต้องตาย...เงินสดจำนวนมากใส่ในถุงปูนมัดปากไว้อย่างแน่นหนา  จอมนั้นหยิบถุงเงิน
โดยไม่นำออกมานับ  เพราะเขาเชื่อใจกล้า อีกอย่างถ้าเงินไม่ตรงตามจำนวน จอมอาจริบเงินไปเฉยๆ
แล้วไม่จัดการเป้าหมายที่มอบให้ เขานำเงินใส่กระเป๋าสะพาย ในมือซ้ายเขาหยิบถุงลูกชิ้นปิ้งออกมา
เอาออกมากินอย่าง เอร็ดอร่อย กล่าวออกมาทั้งที่ยังเคี้ยวลูกชิ้นอยู่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่