ผมว่าเพื่อไทยยุบสภาไปเลยก็ดี นะ project ของ ปชป.ถูกกว่า ดีกว่า ไม่ต้องเป็นหนี้50ปี มีเงินทอน^^

Share on facebook Share on twitter Share on google Share on email More Sharing Services
Home  ข่าวหน้า1  คอลัมน์ : ข่าวหน้า1  ปชป.ประชันไอเดียลงทุนรถไฟแค่แสนล.
Air conditioners
ปชป.ประชันไอเดียลงทุนรถไฟแค่แสนล.
วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฏาคม 2013 เวลา 10:35 น.     กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ     ข่าวหน้า1     - คอลัมน์ : ข่าวหน้า1
User Rating: / 2
แย่ดีที่สุด
นับถอยหลังเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรงวดเข้ามาเป็นลำดับ เวลานี้เพื่อไทยกับคนเสื้อแดงงัดข้อกันอยู่ว่า จะประเดิมด้วยร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับวรชัย เหมะ ที่รอในระเบียบวาระแล้ว หรือจะเอาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2556 ก่อนดี

    แต่รู้กันอยู่ว่าสมัยประชุมนี้ รัฐบาลหมายมั่นปั้นมือจะดันร่างพ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้านบาทเพื่อลงทุนยกเครื่องระบบคมนาคมขนส่ง โดยเน้นหนักระบบรางกันเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง"รถไฟความเร็วสูง" ที่ถูกขวางหนัก
    ทั้งคนที่เห็นว่าโครงการนี้แพงเกินจำเป็น เพราะต้องใช้ถึง 7-8 แสนล้านบาท จากยอดวงเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่ตั้งไว้ แถมยังได้แค่"รถไฟด้วน" แทนที่จะเป็นรถไฟด่วน เพราะแตกกิ่งจากกรุงเทพฯไปสี่เส้นสี่ภาค  ทางเหนือถึงแค่พิษณุโลก อีสานขึ้นไปแค่โคราช ใต้จอดหัวหิน มีเพียงตะวันออกที่ต่อแอร์พอร์ตลิงค์ไปถึงระยอง แถมโครงการแค่ฝัน ยังไม่ผ่านการศึกษาความคุ้มค่า ไม่ผ่านผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย
    หวั่นขาดทุนต้องแบกหนี้กลายเป็นภาระของลูกหลาน จากยอด 2 ล้านล้านบาท ต้องจ่ายดอกจ่ายต้นไปอีก 50 ปี รวมเป็นเงินกว่า 5 ล้านล้านบาท
    ทั้งที่เห็นว่าการดำเนินการขัดกฎหมายสารพัด ตั้งแต่รัฐธรรมนูญลงมายันกฎหมายเกี่ยวกับการเงินการคลัง การประมูล ขั้นตอนตามกฎหมายต่าง ๆ ประกาศจองกฐินผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติเมื่อไหร่ ยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดก่อนได้ใช้แน่
    แต่ฟากรัฐบาลยันเสียงแข็ง ล่าสุดกิตติรัตน์ ณ ระนอง ย้ำอีกครั้งในวงผู้บริหารมูดี้ส์ ให้ความมั่นใจรัฐบาลไทยมีแผนดูแลวินัยการคลังเข้ม ลงทุน 2 ล้านล้านบาทสร้างรายได้ยั่งยืนระยะยาว โดยหวังพัฒนาที่ดินขึ้นเมืองใหม่แนวรถไฟความเร็วสูง มาปั้นเม็ดเงินจ่ายคืนเงินกู้
    ร่างพ.ร.บ.กู้ครั้งมโหฬารจะดันผ่านออกมาใช้ได้หรือไม่ต้องตามลุ้นกันต่อ
    แต่เรื่องการลงทุนรถไฟไทยนั้น กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ สมาชิกแถวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ย้อนความหลังครั้งนั่งเป็นรองนายกฯ ต่อด้วยเลขาฯนายกรัฐมนตรี ยุคอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มี"เทพเทือก"สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นคนจุดพลุ"รถไฟความเร็วสูง"เวลานั้น ว่ารถไฟไทยที่ตั้งใจจะลงทุนกันใหม่นั้น ต้องเข้าใจว่าแบ่งเป็น 3 ระบบ 3 เรื่อง เรื่องแรก รถไฟไทยที่มีอยู่และทำมาแต่ดั้งเดิม เรียกว่าขนาดราง 1 เมตร ซึ่งต้องลงทุนและพัฒนาต่อ เช่น การลงทุนทางคู่ ให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้รถไฟแล่นสวนกันได้ระหว่างทาง ไม่ต้องรอสับหลีกที่สถานี จะช่วยเพิ่มความเร็วได้อีกมาก เพราะใช้ขนส่งภายในหรือกับเพื่อนบ้านที่ใช้ราง 1 เมตรเหมือนกัน
    เรื่องที่ 2 การเชื่อมทางรถไฟกับจีน ต้องลงทุนวางรางขนาด 1.46 เมตร ที่เรียกว่ารางมาตรฐาน เพราะเป็นขนาดที่รถไฟของจีนใช้อยู่ ซึ่งจากการเซ็นเอ็มโอยูให้จีนเข้ามาศึกษาแนวเส้นทาง เขาสนใจเชื่อมจากจีนตอนใต้ ผ่านลาวลงมาไทยที่หนองคาย แล้ววิ่งตามแนวรถไฟสายอีสานเหนือถึงกรุงเทพฯ เป็นเฟสแรก และมองอนาคตจะต่อลงไปทางใต้ถึงมาเลเซีย สิงคโปร์
    ส่วนเรื่องที่3 คือ รถไฟความเร็วสูง หรือรถไฟหัวจรวด ที่ต้องเร็วระดับ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งอาจจะวิ่งบนราง 1.46 เมตร หรือถ้าเทคโนโลยีล้ำหน้าวันนี้ไม่ต้องใช้ราง เป็นระบบแม่เหล็กยกตัวรถลอยจากพื้น
    กอร์ปศักดิ์ย้ำ แนวคิดประชาธิปัตย์ คือ ลงทุนราง 1.46 เมตร บนแนวเขตที่ดินการรถไฟฯที่มีอยู่ ไม่ต้องเวนคืนใหม่ ก่อสร้างได้ทันที เชื่อมต่อกับจีนผ่านลาว สร้างเสร็จมีรถไฟจีนพร้อมเข้ามาวิ่งได้ทันที ถ้าเรายังไม่ลงทุนตัวรถก็ให้รถไฟจีนมาเช่า วิ่งขนคนขนของ ใช้งบไม่เกิน 1 แสนล้านบาท และด้วยสเปกรางขนาดนี้ สามารถวิ่งด้วยความเร็วเป็นสองเท่าของรถไฟไทยปัจจุบัน หรือเฉียด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ถูกกว่า คุ้มกว่า ก่อนตบท้ายยืนยัน ปชป.ไม่คิดให้รัฐลงทุนรถไฟความเร็วสูงในแบบที่3 นี่คือความแตกต่าง ทราบแล้วเปลี่ยน!!!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,863 วันที่  21  - 24   กรกฎาคม  พ.ศ. 2556


READ : 474 TIMES

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่