ลูกชาย 5ขวบกว่าๆ นิสัยคือขี้เล่น ถามว่าซนมั้ย ซนค่ะแต่ไม่ถึงกับได้ถ้วย เพราะที่แบบ ซนได้ถ้วยคือ เวลาเจอคนไม่รู้จัก ก็ระรานเค้าไปหมดลูกเราไม่คุย กับคนที่เค้าไม่รู้จักค่ะ เวลาเจอคนข้างนอก จะเงียบ แต่อยู่ในบ้านและข้างบ้านรับรู้ว่า ช่างพูดแต่ไหนแต่ไร
เรื่องของเรื่องคือ ขึ้้น อนุบาลสาม ครูใหม่เพื่อนเก่า อาทิตย์แรก เราไปรับ
คุณครู : แม่ค้ะวันนี้ ครูแป้ะน้องไปทีนึงน้ะค้ะ ซนมาก เนี่ยะโดนกันสี่ห้าคนแก้งค์เค้าันั่นแหละ
เรา : ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าผิดก็ตีได้
แล้วก็คุยโน่นนี่นั่นไปเรื่อย เราเป็นคนชอบสัมพันธ์ กับครูของลูกเพราะอยากรู้ว่าลูกเราเป็นงัยและเพื่อนลูกนี่เวลาเจอเราเขิลเกือบทุกคน เพราะเราชอบเรียกชื่อดัง (เรานิสัยเด็กหน่อยนึงค่ะ)
พอกลับมาบ้านลูกบอกว่า ครูพาไปทาแซมบัค และก็เอาผ้ามาซับที่แผลโดนตี
เราก็งง ว่าเอ้ะ ทำยังกะยุงกัด ลูกบอกว่า ไปหาซื้อให้หน่อย ไม้ที่ครูตีน่ะ เป็นยางยาวๆ เล็ก แสบ สุดยอดเลยแม่ เราเลยขอดูแผลที่ครูตีค่ะ ปรากฎว่า เป็นทางยาวเลย มันนูนด้วย นี่ขนาดนานแล้วน้ะ แล้วใหม่ๆล่ะ หรือเป็นสาเหตุที่ต้องเอาผ้ามาซับ เอาแซมบัคมาทา??
และครูห้ามพายางลบ เด็ดขาด สีก็ต้องแหลม ถ้าไม่แหลมให้ไปยืนหน้าห้องแล้วตีทีละคน
เราก็คุยกับแฟน ๆถามว่าลองโทรไปถามครูคนเก่าดู (เค้ารู้ว่าเราเม้ามอยได้) ว่าครูคนนี้เป็นงัยชอบตีเด็กหรือเปล่า ต้องยอมรับว่า ครูประเภทที่ชอบตี ชอบด่าเด็ก ก็มี เราชอบครูคนเก่าลูกมาก เราเจอครูมาเยอะ รู้ว่า คนนี้(คนเก่า) มีความเป็นครู (หมายถึงจิตวิญญาณ) จริงๆ
***คิดว่าจุดนี้แหละค่ะ คือจุดเริ่มต้น***
เราโทรหาครูของลูกคนที่เราชอบ แต่ไม่ติดเลยโทรหาครูที่เคยสอนลูกอีกคน เค้ารู้จักนิสัยเด็กเค้าทุกคน รวมถึงลูกเรา ๆ ก็คุยให้ฟัง เค้าก็รู้สึกแปลก เค้าบอกว่า ครูแต่ละระดับชั้นจะไม่รุ้จักกัน ประมาณว่า อ.1 ก็ไม่สนิท กับ อ.2
เช้าอีกวัน เค้าเข้าไปถามครูประจำชั้นลูกเรา ว่า แม่น้อง.....โทรมาว่า เห็นว่าครูห้ามพายางลบ และเรื่องดินสอสีที่ต้องแหลมทุกวัน
ปรากฏว่า ครู ประจำชั้นโทรหาเราทันที บอกว่า ถ้าคุณแม่มีอะไรคุยกับเค้าตรงๆ เค้าไม่รู้จัก และสนิทกับครู (ชื่อครูคนที่เราโทรหา) เราก็เอ่อ ค่ะๆๆ คุณแม่กับครูคนนั้นเล่นline กันค่ะ ก็เลยคุยเรื่องลูกไปเรื่อยเปื่อย เรารู้สึกว่า ครูน้ำเสียงแข็งๆ
หลังจากนั้น เราจะคอยถามลูกแทบทุกวันว่า ครูตีมั้ย ช่วงแรกๆเค้าไม่พูดค่ะ หลังๆ (ลูกเราจะสนิทกับพ่อแม่) เค้าบอกว่า ครูสั่งว่า เด็กทุกคนห้ามไปบอกพ่อแม่ เราอึ้งเลย แล้วมีการใช้มือทุบหลังลูกบ่อยๆ เราถามลูกว่า ทำไมล่ะ เค้าบอกเค้าดื้อ เราว่า ลูกดื้อยังงัยเหรอ ลูกเราตอบว่า เค้าเขียน ตัวเลข กลับด้าน เราก็หัวเราะว่า สมควรแล้ว ที่นี้เรามีเพื่อนเป็นครูก็เล่าให้ฟัง เค้าบอกว่า เป็นปกติของเด็กวัยนี้ ลูกข้างบ้านเราโตกว่าก็เป็น แบบว่า เอามาแปลเป็นหวยกันเลย เพื่อนที่เป็นครูบอกว่า เดี๋ยวจะหายไปเองเมื่อขึ้น ป. ถ้าตีเรื่องนี้ก็คงได้ตีกันเหนื่อย เพราะมันเป็นวัยของเด็ก
เรารู้ว่า ครูเริ่มมีพฤติกรรม ไม่ค่อยสนลูกเรา แต่เราเก็บไว้ (คิดว่าตัวเองคิดมากไป) พยายามจะหาเรื่องให้ครูตลก เม้ามอย แต่ครูไม่เล่นด้วย
เราเลยคิดว่า อืม ช่างเหอะ ทนอีกหน่อย
วันนี้มีการบ้าน มีคอมเม้นท์ จากครูว่า ขอความร่วมมือผปค. ช่วยดูเรื่องการพูดกับลูกด้วย
*** ผู้ปกครองน้อง.... จากที่ครูสังเกตน้องพูดไพเราะดีแต่บางครั้งจะไม่รู้จักการฟังคนอื่น แม้เวลาครูสอนน้องก็มักจะชวนเพื่อนคุยบ่อยๆ และพูดแทรกเวลาครูสอน****
เอ่อ นีีเด็กอนุบาล มิใช่เหรอ เรานึกว่านี่เป็นเรื่องปกติ พอเราอ่านให้ลูกฟัง ลูกบอกว่ ครูบอกว่า จะไม่ยุ่งกับลูกแล้ว
เราสอบถามคนที่พอจะเข้าใจเรื่องพัฒนาการเด็กหน่อยค่ะ หรือว่า ลูกใครเจอประมาณเราบ้าง เรารู้สึก จิตตกกับครูคนนี้มาก ทำให้เราแทบจะคิดไปว่า ครูบางคน ก็ทำงานเพราะเงินเดือน(จำเป็น) ไม่ได้ทำเพราะใจรัก ไม่มีความเป็นครูโดนสันดาน และลักษณะครูคนนี้คือ ค่อนข้างไปทางอ้วน ปากหวาน (แต่ดูเชือดเฉือน) เราตระหนักและพูดกับคนอื่นเสมอว่า ขนาดเราลูกไม่เยอะ ยังเหนื่อยและปรี้ดแตก แล้วคนที่เป็นครูล่ะ ย้อนไปหาครูที่เราชอบนิดนึง ไปรับลูกทุกครั้ง ครูมีแต่รอยยิ้ม เล่าเรื่องตลกของเด็กที่ซน(ตามวัย) ให้เราฟังเสมอๆ ไม่เคยเห็นโกรธ หรือตีหนักๆ ในขณะที่คนใกล้ตัวเรา เคยเห็น ครูท่านนึง เขย่าเด็กแบบแรง มาก และเราเองเคยเห็นครู ด่าเด็กแบบโมโห และตี จนเราคิดว่า ถ้าเด็กนั้นเป็นลูกเรา จะมีการ กา โดด ตบ กลางอากาศมั้ยหนอ เหอะๆ
ลูกเราผิดปกติมั้ยนี่เป็นปัญหาหรือเปล่าหรือมันหายเองได้
เรื่องของเรื่องคือ ขึ้้น อนุบาลสาม ครูใหม่เพื่อนเก่า อาทิตย์แรก เราไปรับ
คุณครู : แม่ค้ะวันนี้ ครูแป้ะน้องไปทีนึงน้ะค้ะ ซนมาก เนี่ยะโดนกันสี่ห้าคนแก้งค์เค้าันั่นแหละ
เรา : ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าผิดก็ตีได้
แล้วก็คุยโน่นนี่นั่นไปเรื่อย เราเป็นคนชอบสัมพันธ์ กับครูของลูกเพราะอยากรู้ว่าลูกเราเป็นงัยและเพื่อนลูกนี่เวลาเจอเราเขิลเกือบทุกคน เพราะเราชอบเรียกชื่อดัง (เรานิสัยเด็กหน่อยนึงค่ะ)
พอกลับมาบ้านลูกบอกว่า ครูพาไปทาแซมบัค และก็เอาผ้ามาซับที่แผลโดนตี
เราก็งง ว่าเอ้ะ ทำยังกะยุงกัด ลูกบอกว่า ไปหาซื้อให้หน่อย ไม้ที่ครูตีน่ะ เป็นยางยาวๆ เล็ก แสบ สุดยอดเลยแม่ เราเลยขอดูแผลที่ครูตีค่ะ ปรากฎว่า เป็นทางยาวเลย มันนูนด้วย นี่ขนาดนานแล้วน้ะ แล้วใหม่ๆล่ะ หรือเป็นสาเหตุที่ต้องเอาผ้ามาซับ เอาแซมบัคมาทา??
และครูห้ามพายางลบ เด็ดขาด สีก็ต้องแหลม ถ้าไม่แหลมให้ไปยืนหน้าห้องแล้วตีทีละคน
เราก็คุยกับแฟน ๆถามว่าลองโทรไปถามครูคนเก่าดู (เค้ารู้ว่าเราเม้ามอยได้) ว่าครูคนนี้เป็นงัยชอบตีเด็กหรือเปล่า ต้องยอมรับว่า ครูประเภทที่ชอบตี ชอบด่าเด็ก ก็มี เราชอบครูคนเก่าลูกมาก เราเจอครูมาเยอะ รู้ว่า คนนี้(คนเก่า) มีความเป็นครู (หมายถึงจิตวิญญาณ) จริงๆ
***คิดว่าจุดนี้แหละค่ะ คือจุดเริ่มต้น***
เราโทรหาครูของลูกคนที่เราชอบ แต่ไม่ติดเลยโทรหาครูที่เคยสอนลูกอีกคน เค้ารู้จักนิสัยเด็กเค้าทุกคน รวมถึงลูกเรา ๆ ก็คุยให้ฟัง เค้าก็รู้สึกแปลก เค้าบอกว่า ครูแต่ละระดับชั้นจะไม่รุ้จักกัน ประมาณว่า อ.1 ก็ไม่สนิท กับ อ.2
เช้าอีกวัน เค้าเข้าไปถามครูประจำชั้นลูกเรา ว่า แม่น้อง.....โทรมาว่า เห็นว่าครูห้ามพายางลบ และเรื่องดินสอสีที่ต้องแหลมทุกวัน
ปรากฏว่า ครู ประจำชั้นโทรหาเราทันที บอกว่า ถ้าคุณแม่มีอะไรคุยกับเค้าตรงๆ เค้าไม่รู้จัก และสนิทกับครู (ชื่อครูคนที่เราโทรหา) เราก็เอ่อ ค่ะๆๆ คุณแม่กับครูคนนั้นเล่นline กันค่ะ ก็เลยคุยเรื่องลูกไปเรื่อยเปื่อย เรารู้สึกว่า ครูน้ำเสียงแข็งๆ
หลังจากนั้น เราจะคอยถามลูกแทบทุกวันว่า ครูตีมั้ย ช่วงแรกๆเค้าไม่พูดค่ะ หลังๆ (ลูกเราจะสนิทกับพ่อแม่) เค้าบอกว่า ครูสั่งว่า เด็กทุกคนห้ามไปบอกพ่อแม่ เราอึ้งเลย แล้วมีการใช้มือทุบหลังลูกบ่อยๆ เราถามลูกว่า ทำไมล่ะ เค้าบอกเค้าดื้อ เราว่า ลูกดื้อยังงัยเหรอ ลูกเราตอบว่า เค้าเขียน ตัวเลข กลับด้าน เราก็หัวเราะว่า สมควรแล้ว ที่นี้เรามีเพื่อนเป็นครูก็เล่าให้ฟัง เค้าบอกว่า เป็นปกติของเด็กวัยนี้ ลูกข้างบ้านเราโตกว่าก็เป็น แบบว่า เอามาแปลเป็นหวยกันเลย เพื่อนที่เป็นครูบอกว่า เดี๋ยวจะหายไปเองเมื่อขึ้น ป. ถ้าตีเรื่องนี้ก็คงได้ตีกันเหนื่อย เพราะมันเป็นวัยของเด็ก
เรารู้ว่า ครูเริ่มมีพฤติกรรม ไม่ค่อยสนลูกเรา แต่เราเก็บไว้ (คิดว่าตัวเองคิดมากไป) พยายามจะหาเรื่องให้ครูตลก เม้ามอย แต่ครูไม่เล่นด้วย
เราเลยคิดว่า อืม ช่างเหอะ ทนอีกหน่อย
วันนี้มีการบ้าน มีคอมเม้นท์ จากครูว่า ขอความร่วมมือผปค. ช่วยดูเรื่องการพูดกับลูกด้วย
*** ผู้ปกครองน้อง.... จากที่ครูสังเกตน้องพูดไพเราะดีแต่บางครั้งจะไม่รู้จักการฟังคนอื่น แม้เวลาครูสอนน้องก็มักจะชวนเพื่อนคุยบ่อยๆ และพูดแทรกเวลาครูสอน****
เอ่อ นีีเด็กอนุบาล มิใช่เหรอ เรานึกว่านี่เป็นเรื่องปกติ พอเราอ่านให้ลูกฟัง ลูกบอกว่ ครูบอกว่า จะไม่ยุ่งกับลูกแล้ว
เราสอบถามคนที่พอจะเข้าใจเรื่องพัฒนาการเด็กหน่อยค่ะ หรือว่า ลูกใครเจอประมาณเราบ้าง เรารู้สึก จิตตกกับครูคนนี้มาก ทำให้เราแทบจะคิดไปว่า ครูบางคน ก็ทำงานเพราะเงินเดือน(จำเป็น) ไม่ได้ทำเพราะใจรัก ไม่มีความเป็นครูโดนสันดาน และลักษณะครูคนนี้คือ ค่อนข้างไปทางอ้วน ปากหวาน (แต่ดูเชือดเฉือน) เราตระหนักและพูดกับคนอื่นเสมอว่า ขนาดเราลูกไม่เยอะ ยังเหนื่อยและปรี้ดแตก แล้วคนที่เป็นครูล่ะ ย้อนไปหาครูที่เราชอบนิดนึง ไปรับลูกทุกครั้ง ครูมีแต่รอยยิ้ม เล่าเรื่องตลกของเด็กที่ซน(ตามวัย) ให้เราฟังเสมอๆ ไม่เคยเห็นโกรธ หรือตีหนักๆ ในขณะที่คนใกล้ตัวเรา เคยเห็น ครูท่านนึง เขย่าเด็กแบบแรง มาก และเราเองเคยเห็นครู ด่าเด็กแบบโมโห และตี จนเราคิดว่า ถ้าเด็กนั้นเป็นลูกเรา จะมีการ กา โดด ตบ กลางอากาศมั้ยหนอ เหอะๆ