อาจจะเห็นต่างจากความเห็นต้นๆ นิดนึงครับ แต่ที่จะเสนอความเห็น
ก็อ้างอิงมาจากลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ และจะพยายามให้ความเห็นให้ใกล้เคียงหลักศาสนาอิสลามากที่สุด
ส่วนตามจริง คนคนหนึ่งหรือสังคมหนึ่ง จะปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหนก็คงต้องพิจารณากันเองครับ

1. เพื่อนสาวเพิ่งทราบว่าท้อง สามารถแต่งงานได้ไหมตามหลักศาสนาอิสลาม
- หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ จะไม่สามารถแต่งงานได้ครับ ต้องรอให้พ้นระยะของนาง คือต้องคลอดบุตรก่อน
จึงจะสามารถแต่งงานได้

2. ชายนับถือพุทธ(พ่อเด็ก) ถ้าต้องแต่งด่วนๆต้องเข้าพิธีขริบไหมในกรณีที่ฝ่ายชายเป็นโรคเบาหวาน+ความดัน(อันนี้ฝ่ายชายอยากรู้)
- หญิงผู้ศรัทธา (ในอิสลาม) ต้องแต่งงานกับชายผู้ศรัทธา เท่านั้น ดังนั้น
ชายดังกล่าวจำเป็นต้องเป็นผู้ศรัทธาในศาสนาอิสลามก่อนถึงจะแต่งงานได้
เมื่อศรัทธาแล้วก็ต้องยอมรับในหลักการศาสนาต่างๆ เช่นการทำละหมาด การถือศีลอด ฯลฯ

ทั้งนี้ผู้ป่วยเบาหวาน หรือความดันเลือดสูง สามารถขลิบได้ครับ
แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ครับ

* แก้ ขอลบข้อความเกี่ยวกับการขลิบก่อนนะครับ เพราะผมยังไม่ชัดเจนว่าเป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่อย่างไร

ส่วนการแต่งงานของทั้งสอง หลังจากผิดประเวณี ตามความเห็นของมัซฮับซาฟีอีย์
คือ ทำได้ แต่มักรุฮ์ คือน่ารังเกียจครับ

3. ถ้าจะแต่งเดือนสิงหาได้ไหมเพราะเพื่อนเค้าบอกว่าแต่งเดือนนี้ไม่ได้แต่เดือนสิงหาเค้าไม่แน่ใจค่ะทั้ง3คำถามนี้ดิฉันไม่สามารถตอบเพื่อนได้จริงๆรบกวนผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ
- อย่างข้อ 1 คือต้องหลังคลอดแล้วเท่านั้น ถึงจะถูกกฎครับ สิงหาคมนี่น่าจะยังไม่คลอดครับ

คำแนะนำเสริมคือ ไม่จำเป็นและไม่ควรที่จะแต่งงานกับชายคนนี้ครับ เพราะเขาไม่ถือว่าเป็นพ่อของเด็ก
เนื่องจากเกิดมาโดยการผิดประเวณี และเด็กไม่มีสิทธิ์จะได้รับมรดกจากเขา และเด็กต้องปฏิบัติตัวต่อเขาเหมือนชายทั่วๆ ไป
เช่นถ้าเป็นลูกสาวก็ต้องคลุมฮิญาบเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาครับ
ดังนั้นลูกในท้อง จึงเป็นของแม่ครับ ไม่ใช่ลูกเขา

ส่วนการทำแท้ง ก็ถือเป็นการฆ่าชีวิตคนๆ หนึ่ง เพราะวิญญาณจะเข้าอยู่ในตัวเด็กแล้วอายุครรภ์ครบ 40 วัน
การทำแท้งจึงถือเป็นข้อห้ามครับ

และสิ่งที่ดีกว่ากับผู้หญิงคนนี้ คือเขาควรยินยอมรับโทษตามหลักอิสลาม หากเขาสำนึกผิดและได้สารภาพแล้ว
(สารภาพว่าทำผิดจริง ในสถานที่ 4 แห่ง ไม่ซ้ำกัน และพยานทั้ง 4 ที่ไม่ซ้ำกัน)
โดยโทษของผู้ที่ยังไม่แต่งงาน คือ จำเป็นต้องถูกโบย 100 ที แล้วเนรเทศไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลา 1 ปี
แต่ทั้งนี้ จะลงโทษได้ก็ต่อเมื่อ หญิงคนนั้นได้คลอดบุตรแล้ว และได้เลี้ยงบุตรจนบุตรสามารถหย่านมได้ คือ
เด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไป แล้วจึงไปรับโทษดังกล่าว หากหญิงคนนั้นหวังการอภัยโทษอย่างสมบูรณ์จากอัลลอฮ์
และหวังจะไม่รับโทษดังกล่าวซ้ำในวันฟื้นคืนชีพครับ

แต่ถ้าไม่ ก็ขอให้กลับเนื้อกลับตัว และขออภัยโทษจากอัลลอฮ์อย่างจริงใจ เผื่อพระองค์อาจจะไม่เอาโทษในโลกหน้าครับ
ถ้าพระองค์ทรงประสงค์

ก็ฝากเท่านี้ก่อนครับ

http://almustofa.yiu.ac.th/index.php/forum/13-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/56-%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1

http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:xcsqcWKhYgQJ:www.mureed.com/article/mureed/NikahWhilePragnant.docx+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th

http://muslimchiangmai.net/index.php?topic=1913.0;wap2

http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=8386.0

http://the-truth-of-islamic.blogspot.com/2013/04/blog-post_1507.html

http://www.siamic.com/islam/index.php?title=%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B2