**********INTUCH *************


นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หุ้นตัวนี้ผมสรุปได้ดังนี้ครับ

DEFENSIVE  STOCK
DIVIDEN YIELD STOCK
GROWTH STOCK


ช่วงนี้เล่นข่าว TV digital  ก็ได้เล่นได้อีก
















***************************************************************************************




30 ปี อินทัช "เราจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด"
updated: 18 ก.ค. 2556 เวลา 15:47:07 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "อินทัช" ในปัจจุบัน ได้พัฒนาโครงข่ายระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อข้อมูล การก่อกำเนิดดาวเทียมสื่อสาร ดาวเทียมเชิงพาณิชย์ และระบบโทรคมนาคมไร้สายมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การศึกษาและวิจัยเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจแบบมืออาชีพ

ปีผ่านมา "อินทัช" ประกาศเป้าหมายการดำเนินธุรกิจครอบคลุม 5 Breakthroughs แต่สำหรับปี 2556 "อินทัช" เพิ่มอีก 3 ช่องทางธุรกิจใหม่ อันประกอบด้วย การก้าวเข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content), การต่อยอด 3G สู่เน็ตเวิร์กซึ่งมีความสามารถในการส่งเพิ่มขึ้นอย่าง 4G และการให้บริการเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงแบบมีสาย (Wired Broadband)

อินทัชŽ ในบริบทสังคม

การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ของบริษัทจาก "ชินคอร์ป" เป็น "อินทัช" เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีความหมายเป็นนัยว่าบริษัทดำเนินธุรกิจแบบโนคัลเลอร์ เพื่อหวังลดแรงเสียดทานทางการเมือง โดยเรื่องนี้ "สมประสงค์ บุญยะชัย" ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น หรืออินทัช กล่าวว่า การเปลี่ยนชื่อแบรนด์มีจุดประสงค์หลักเพื่อการเคลื่อนตัวไปข้างหน้าให้สอดคล้องกับยุคสมัย เพราะปัจจุบันการรับรู้และความเข้าใจของประชาชนเปลี่ยนไปมาก คือมีความเข้าใจที่ดีต่อบริษัทมากขึ้นเป็นลำดับ

อินทัชทำให้เกิดการระดมทุนเข้ามาจากต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีมูลค่าการตลาด (Market Cap) เกิน 2 ล้านล้านบาท อีกทั้งยังก่อให้เกิดการสร้างอาชีพอย่างเป็นลำดับ คือการสร้างอาชีพโดยบริษัทอินทัชเอง การสร้างอาชีพโดยบริษัทคู่ค้า การสร้างงานทำให้เกิดการเชื่อมโยงในสังคม

"โดยรายได้จะนำไปสู่การจับจ่ายใช้สอย และสิ่งที่ตามมาคือภาษีทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีของบริษัท และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สิ่งเหล่านี้จะผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดสภาพคล่อง"

นอกจากนั้น อินทัชไม่ได้ละเลยต่อประเทศและสังคม โดยได้ทำโครงการมากมายเพื่อประชาชนและสังคมต่อเนื่องมาหลายสิบปี เช่น โครงการแรลลี่สนับสนุนมูลนิธิสายใจไทย, โครงการสานรักคนเก่งหัวใจแกร่ง, โครงการถังน้ำใจเอไอเอสเพื่อคนไทยไม่ขาดน้ำ, โครงการสานรักสนับสนุนสถาบันครอบครัว, โครงการไทยคิดไทยคม ทำให้เกิดการศึกษาแพร่หลายไปในพื้นที่ และโครงการสร้างงานให้กับอดีตผู้ที่ต้องโทษและผู้พิการ

กลุ่มอินทัชภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า และภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนดูแลสังคมไทยให้เติบโตไปพร้อมกัน

ขยายธุรกิจดาวเทียม

"ศุภจี สุธรรมพันธุ์" กรรมการประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยคมมีผลประกอบการที่เป็นกำไรติดต่อกัน มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นจะสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไปอย่างยั่งยืน

"ตอนนี้ไทยคมสร้างดาวเทียมดวงที่ 6 ซึ่งจะสามารถปล่อยสู่วงโคจรได้ในปีนี้ ดาวเทียมไทยคม 6 เสริมศักยภาพในแง่ของฟุตพรินต์ ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการได้หลายประเทศ เพิ่มเติมการทำการตลาดนอกประเทศมากขึ้น เพราะไม่เพียงสามารถให้บริการในพื้นที่ของประเทศไทยและอินโดไชน่าเท่านั้น ยังสามารถให้บริการถึงแอฟริกาด้วย จึงได้ชื่อทางการตลาดว่า แอฟริคอม 1"

"ดาวเทียมอีกดวงหนึ่งที่กำลังดำเนินการก่อสร้างเพื่อขึ้นสู่วงโคจรในปี 2557 คือ ดาวเทียมไทยคมดวงที่ 7 จะอยู่ที่ตำแหน่ง 120 องศาตะวันออก ให้บริการในทวีปเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะตอกย้ำเสถียรภาพความเป็นผู้นำด้านดาวเทียมในทวีปเอเชีย-แปซิฟิกของไทยคม และยังมีแผนการดำเนินการสร้างดาวเทียมดวงที่ 8 และ 9 มาเสริมศักยภาพการให้บริการบรอดแคสต์ในประเทศไทย"

ทั้งนี้ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือไทยคม ยังมีความรับผิดชอบในการคิดค้นและพัฒนาธุรกิจที่อยู่ในพื้นฐานคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อมุ่งการให้บริการทุกที่ ทุกเวลา และทุกแพลตฟอร์ม

โดยเรื่องนี้ "ศุภจี" ทิ้งทายว่า ไทยคมยังเน้นการสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง โดยมีการจัดรูปแบบองค์กรให้สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกับภาคธุรกิจในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งการปรับวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับโลกยุคปัจจุบัน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับอนาคต

"เรามุ่งเน้น 4 เรื่องใหญ่ คือ มีความเป็นเลิศในเทคโนโลยี, มีความเต็มที่ในทุกความท้าทาย, มุ่งหมายเรื่องนวัตกรรมรูปแบบใหม่ ๆ, มุ่งเน้นให้คุณค่าและคุณธรรมเพื่อให้สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น"

ผู้นำบริการ 4G

"วิเชียร เมฆตระการ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า บริษัทมุ่งหมายสร้างความเป็นเลิศในบริการการสื่อสารไร้สาย เพราะตลอดระยะเวลาผ่านมาเอไอเอสเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย โดยเป็นผู้ริเริ่มนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในประเทศ เช่น 3G ซึ่งในช่วงเริ่มต้นอาจมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่เราพยายามเร่งแก้ไขอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันเอไอเอสต่อยอดระบบ 3G สู่เน็ตเวิร์ก ซึ่งมีความสามารถในการส่งข้อมูลเร็วขึ้นเป็นสิบเท่าอย่าง 4G เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการที่มีมากขึ้นในอนาคต รวมถึงศึกษาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการพัฒนาการให้บริการเครือข่ายบรอดแบรนด์ความเร็วสูงแบบมีสาย (Wired Broadband)

"ทุกครั้งที่มีโอกาส เราจะไม่ปล่อยโอกาสให้ว่างเปล่า เราจะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้บริการกับคนไทยได้ใช้อยู่เสมอ เพราะเราเชื่อมั่นว่าประเทศจะพัฒนาได้ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี มีโอกาสได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการนำมาช่วยพัฒนาประเทศ และเสริมให้ธุรกิจอื่นเติบโต ก้าวหน้า เพราะไม่ว่าเราจะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"

อันเป็นคำตอบของผู้บริหารระดับสูงของอินทัช กรุ๊ป ที่ส่งสัญญาณถึงการให้บริการในอนาคตอย่างยั่งยืน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่