ศาสนากับการพัฒนามนุษย์

ศาสนามิได้เป็นเรื่องของจิตใจเพียงอย่างเดียว แต่ศาสนาเป็นเรื่องของการใช้ปัญญาเพื่อค้นหาความจริงแห่งชีวิต เมื่อปัญญาพบความจริงแล้ว จิตใจจึงเกิดความเชื่อมั่นในความจริงและเกิดความสุขได้ แม้จะมีความทุกข์แวดล้อมอยู่ก็ตาม

ด้วยเหตุนี้คนที่มีสติปัญญาแต่ไม่ใช้สติปัญญา จึงไม่ต่างอะไรจากคนไม่มีศาสนา และคนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะไม่มีความสุขเท่านั้น แต่ยังทำให้คนอื่นไม่เป็นสุขไปด้วย

ปรกติเด็กทั่วไปไม่สนใจศาสนา ก็เพราะเด็กยังไม่บรรลุวุฒิภาวะทางสติปัญญา เด็กจะคิดแต่เรื่องกิน เรื่องเล่นและเรื่องเที่ยว แม้โตขึ้นเป็นหนุ่ม ส่วนใหญ่ก็จะคิดแต่เรื่องทำงานสร้างอนาคต เมื่อแก่จนหมดแรงทำบาปและมีเวลาพอจะใช้สติปัญญาได้บ้าง มนุษย์เราจึงเริ่มเห็นคุณค่าของศาสนา เข้าวัดเข้าวาปฏิบัติธรรมกัน ก็นับว่าโชคดีที่มีอายุยืนยาวพอได้เห็นธรรมและหันมาอยู่ในครรลองของศาสนา แต่ใครจะประกันได้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่จนถึงวัยชรา

เมื่อการปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งดีต่อชีวิต การปฏิบัติธรรมจึงน่าที่จะฝึกกันตั้งแต่ยังเด็ก

นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมพ่อแม่จึงมีหน้าที่ต้องให้ความรู้ทางศาสนาแก่ลูกของตัวเองตั้งแต่วัยที่จิตใจยังเหมือนแก้วเปล่าอยู่

นบีมุฮัมมัดได้บอกสาวกของท่านให้รู้ว่า “เด็กทุกคนเกิดมาในธรรมชาติที่สะอาดบริสุทธิ์ พ่อแม่ของเด็กเท่านั้นที่จะทำให้เขาเป็นชาวยิว ชาวคริสเตียนหรือผู้บูชาไฟ”

พูดง่ายๆก็คือ พ่อแม่หรือครอบครัวมีส่วนสำคัญในการหล่อหลอมและถ่ายทอดวัฒนธรรมความเชื่อให้แก่เด็ก ถ้าพ่อแม่ทะเลาะเบาะแว้งใช้วาจาหยาบคายหรือด่าทอกันเป็นประจำ เด็กก็จะซึมซับรับเอาพฤติกรรมและคำพูดของพ่อแม่ไว้ไปแสดงออกต่อคนอื่น เด็กจึงเป็นตัวสะท้อนถึงพฤติกรรมและความตั้งใจในการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากเด็กทุกคนบนโลกนี้เกิดมาในสภาพที่สะอาดบริสุทธิ์และสติปัญญายังไม่เจริญพอที่จะแยกแยะว่าอะไรผิดและอะไรถูก อิสลามจึงถือว่าหากเด็กคนใดตายก่อนบรรลุถึงวัยผู้ใหญ่ เด็กผู้นั้นตายในสภาพที่สะอาดบริสุทธิ์และพระเจ้าไม่เอาโทษเด็กผู้นั้น

(ขอทำความเข้าใจกับผู้อ่านเสียก่อนว่า วัยผู้ใหญ่ในอิสลามสำหรับเด็กผู้ชายนั้น เริ่มตั้งแต่เด็กเริ่มมีความรู้สึกทางเพศซึ่งจะสังเกตได้จาก “การฝันเปียก” และสำหรับเด็กผู้หญิงเริ่มตั้งแต่เด็กมีประจำเดือนครั้งแรก)

เมื่อพระเจ้าไม่เอาโทษ เพราะความเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุวุฒิภาวะทางสติปัญญา เด็กก็ไม่ต้องตกนรก เมื่อไม่ต้องตกนรก สถานที่ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลกหน้าก็คือ สวรรค์อันเป็นสถานบรมสุขที่พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกของตัวเองไปถึงที่นั่น พ่อแม่มุสลิมที่รู้ความจริงในเรื่องนี้จึงสามารถทำใจรับความสูญเสียได้ แม้จะเสียดายที่ลูกน้อยของตัวเองต้องจากไปตั้งแต่ยังเล็กก็ตาม ส่วนลูกที่เรียนจบปริญญานั้น พ่อแม่ยังไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้เข้าสวรรค์หรือไม่

สำหรับคนที่ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่และเจริญด้วยสติปัญญา โอกาสที่จะได้เข้าสวรรค์ง่ายๆอย่างเด็กนั้นไม่มีอีกแล้ว ถ้าอยากจะเข้าสวรรค์ก็ต้องหาทางกันเอาเองและไม่มีหนทางใดที่จะนำมนุษย์ไปสู่สวรรค์ในโลกหน้าได้นอกไปจากศาสนา

ถ้าจะมีหนทางอื่นที่อาจช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากนรกได้ก็คือ ต้องเป็นคนบ้าหรือไม่ก็เป็นสัตว์จริงๆไปเลย เพราะชีวิตสองประเภทนี้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองเพราะมันไม่มีสติปัญญา

เนื่องจากความรับผิดชอบต่อบาปบุญคุณโทษจะเริ่มต้นเมื่อเด็กก้าวเข้าสู่วัยที่มีวุฒิทางสติปัญญา อิสลามจึงกำหนดให้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่มุสลิมที่จะต้องให้การศึกษาทางด้านศาสนาแก่ลูกของตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการนมาซตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และเมื่อลูกถึงวัย 10 ขวบ พ่อแม่ต้องบังคับให้ลูกนมาซเหมือนกับที่ต้องบังคับให้ลูกกินอาหารดีๆ และให้ลูกได้เรียนหนังสือ

หากลูกไม่นมาซ พ่อแม่ต้องลงโทษเพื่อให้รู้ว่าการไม่นมาซนั้นมีโทษเช่นเดียวกับการไม่กินอาหารและไม่เรียนหนังสือ การทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ลูกสามารถนมาซด้วยตัวเองได้เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่และเพื่อให้การนมาซเป็นวัคซีนสร้างภูมิต้านทานความชั่วภายในจิตใจของเด็ก

เมื่อกำหนดหน้าที่แก่พ่อแม่เช่นนี้แล้ว อิสลามก็กำหนดให้การจัดการศึกษาทางด้านศาสนาเป็น “ข้อบังคับทางสังคม” ที่ชุมชนมุสลิมต้องจัดให้มีขึ้น สังคมมุสลิมใดที่ไม่จัดให้มีการศึกษาทางด้านศาสนาถือว่าคนในสังคมนั้นทั้งหมดต้องรับบาป

ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าศาสนาส่งเสริมการใช้สติปัญญาที่เป็นสิ่งมีค่าที่สุดสำหรับมนุษย์ เพราะวัตถุประสงค์หนึ่งที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาก็เพื่อทดสอบมนุษย์ว่าจะศรัทธาและเชื่อฟังพระองค์หรือไม่ เมื่อมนุษย์ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่จนถึงตาย มนุษย์ทุกคนจะเผชิญภาวะที่ต้องเลือกระหว่างผิดและถูก ดีและชั่ว มนุษย์จะเลือกอะไรก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาและจิตใจ

การตัดสินใจเลือกตรงนี้เองที่จะมีผลต่อชีวิตมนุษย์ทั้งในด้านส่วนตัวและส่วนรวม ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

ถ้ารัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคิดจะพัฒนาการศึกษาให้เด็กไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ตามที่โฆษณา กระทรวงศึกษาฯต้องค้นหาความหมายเสียก่อนว่ามนุษย์คืออะไร และอะไรที่จะทำให้มนุษย์มีความสมบูรณ์อย่างที่ต้องการ



บทความโดยอาจารย์บรรจง บินกาซัน ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม มูลนิธิสันติชน
http://www.oknation.net/blog/knowislam/2011/01/25/entry-1



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่