@ดอนเมือง เวลา 19.00 น. โดยประมาณ
ผมเดินทางมาถึงดอนเมือง เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเชียงใหม่ เวลา boarding ประมาณ 19.30 น.
พอมองดูแถวคนที่ต่อคิวเพื่อ check in เตรียมขึ้นเครื่อง ก็รู้สึกขอบคุณ internet ที่ทำให้ผมสามารถ check in on line ได้
ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวรอคิวยาวเหยียดเวลาเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์
ผมเดินผ่านเลยเข้าไป ผ่านจุด check กระเป๋าเรียบร้อย ก็แวะเข้าห้องน้ำคิดในใจว่าจะนั่งกิน Burger King ก่อนขึ้นเครื่องซักหน่อย
ออกจากห้องน้ำมา ผมก็เดินตรงไป Burger King ตอนกำลังจะสั่ง Whopper ก็รู้สึกว่า มือโล่งๆ
แล้วก็สะดุ้งเฮือก เพราะลืม IPAD ไว้ในห้องน้ำ ตรงที่วางของเหนือโถฉี่
หนักกว่านั้น คือผมเหน็บ Boarding Pass ไว้ใน IPAD ด้วย !!
ผมดิ่งกลับไปที่ห้องน้ำ พอไปถึงหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลยครับ มันไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
ผมวิ่งกลับออกมาถามเจ้าหน้าที่ตรงที่ตรวจกระเป๋า ว่ามีใครมาแจ้งว่าเจอ IPAD ในห้องน้ำชายบ้างมั้ย
เจ้าหน้าที่ก็วอถาม พนักงานทำความสะอาดตอบกลับมาว่า มีรปภ.เก็บได้เอาออกไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าต้องออกไปตรงแผนก Loss and Found อยู่ที่เดียวกันกับ Information หน้า Counter check in
ตอนนั้น เวลา 19.20 น.
ผมวิ่งกลับออกมาที่หน้า Counter Check in พอเจอพนักงานในห้อง Information ผมก็ถามหา IPAD ของผมที่มี Boarding Pass อยู่ด้วย
เดาอยู่แล้วว่าผมคงต้องมีหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็ไม่พ้นบัตรประชาชน เพราะยังไงชื่อก็ตรงกับใน Boarding Pass
ผมหยิบบัตรประชาชนมาถือไว้รอตั้งแต่ตอนก่อนจะมาถึงห้อง Information
พนักงานก็รับบัตรประชาชนผมไป ตรวจสอบกับ Boarding Pass แล้วหันมาคุยกับผม
เวลา 19.30 น.
พนักงาน : ขอบคุณค่ะ แต่เราต้องใช้สำเนาเก็บเป็นหลักฐานด้วยค่ะ
ผม : งั้นรบกวนคุณถ่ายเอกสารให้ผมหน่อยครับ
พนักงาน : ห้องนี้ไม่มีเครื่องถ่ายเอกสารค่ะ ต้องรีบหน่อยค่ะ วิ่งเลยก็ได้ค่ะ ไปตรงโรงแรม ลงลิฟท์ไปชั้นนึง
ข้ามสะพานลอยไปอีกฟาก จะมีห้องให้ถ่ายเอกสารได้ค่ะ
ผม : (กำลังอึ้ง) เอ่อ ผมมีบัตรประชาชน ยืนยันตัวได้แล้ว ยังต้องเอาสำเนาอีกเหรอครับ ? (พยายามต่อรอง)
พนักงาน : ค่ะ เป็นระเบียบ เราจำเป็นจริงๆค่ะ
ผมโอเค ยินดีทำตามระเบียบของเค้า แต่เซ็งๆเพราะกลัวตกเครื่อง แต่ช่วยไม่ได้
ก็วิ่งเลยครับ กว่าผมจะข้ามไปอีกฟากลงไป ไม่รู้ห้องอยู่ไหน ถามพนักงานโรงแรม เดินไปเจอห้องถ่ายเอกสาร
ถ่ายเสร็จ เซ็นต์รับรองสำเนา ถือวิ่งกลับมา
เวลา 19.50 น.
ผม : สำเนาครับ เซ็นต์รับรองสำเนาให้แล้ว (ยื่นให้พนักงาน)
พนักงาน : (ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งกลับมาให้ผม) รบกวนกรอกเอกสารนี้ด้วยนะคะ
มันคือเอกสารให้กรอกรายละเอียดตัวเรา ของที่หาย เวลาที่เจอ-มารับคืน และให้เซ็นต์ชื่อลงท้ายอีก
ผม : สำเนาผมก็ทำมาให้แล้ว ไม่พออีกเหรอครับ ?
พนักงาน : ค่ะ รบกวนช่วยกรอกเอกสารให้ด้วยนะคะ
ผมเลยตัดบทด้วยการ เซ็นต์ลงท้ายให้ โดยไม่กรอกรายละเอียด เพราะรายละเอียดทั้งหมดนั้น มีอยู่ในสำเนาบัตรฯที่ผมทำมาให้แล้ว
แล้วยื่นฟอร์มเปล่าที่มีแต่ลายเซ็นต์ผมอย่างเดียว กลับไปให้
ผม : งั้นผมรบกวนคุณช่วยกรอกรายละเอียดแทนผมด้วยนะครับ ข้อมูลดูจากสำเนาบัตรฯนั่นแหละครับ
พนักงาน : ไม่ได้นะคะ รบกวนกรอกให้ด้วยค่ะ
ผม : นี่คุณ (ผมขึ้นเสียงละ) ตำแหน่งที่ต้องใช้ลายเซ็นต์ที่ผมต้องเซ็นต์เอง ก็เซ็นต์ไปหมดแล้ว ข้อมูลพวกนั้น ผมรู้ว่าคุณกรอกแทนผมได้
ผมไม่พูดอะไรต่อ หยิบ IPAD ของผมออกมา ผมบอกขอบคุณพนักงานคนนั้น
พยายามให้น้ำเสียงชัดเจน และไม่กระแทกเท่าที่ทำได้ แต่ยอมรับว่ายังทำได้ไม่ดีนัก
พนักงาน : ทางเราอุตส่าเก็บไว้ให้นะคะ......
ตอนนั้นผมไม่สนใจละ ผมสนใจว่าผมจะตกเครื่องรึเปล่ามากกว่า เพราะต้องตรวจกระเป๋าที่ไม่รู้ว่าคิวเยอะแค่ไหน
และ gate ที่ขึ้นเครื่องก็อยู่ไม่ใกล้เลยด้วย
ผมมาถึงเครื่องตอน final call หย่อนก้นได้สักสิบกว่านาทีเครื่องก็ออก
สรุป....
เป็นความสะเพร่าส่วนบุคคลผมเองที่ไปลืมของไว้ในห้องน้ำ จริงๆถือว่าผมยังโชคดีที่ได้ของคืน
ซึ่งก็ขอขอบคุณ แผนก Loss & Found ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองมา ณ ที่นี้ครับ
ขอชมน้องพนักงานตรง Information บริการดี สุภาพ และเข้าใจความเร่งรีบของผมดี
อย่างเดียวที่อยากให้เสริม คือ รายละเอียดในระเบียบบางอย่าง ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ละๆไปบ้างก็ได้ครับ
เล่าสู่กันฟัง : เมื่อผมลืม IPAD ไว้ในห้องน้ำ ในนาทีที่ถึงเวลา Boarding@ดอนเมือง
ผมเดินทางมาถึงดอนเมือง เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเชียงใหม่ เวลา boarding ประมาณ 19.30 น.
พอมองดูแถวคนที่ต่อคิวเพื่อ check in เตรียมขึ้นเครื่อง ก็รู้สึกขอบคุณ internet ที่ทำให้ผมสามารถ check in on line ได้
ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวรอคิวยาวเหยียดเวลาเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์
ผมเดินผ่านเลยเข้าไป ผ่านจุด check กระเป๋าเรียบร้อย ก็แวะเข้าห้องน้ำคิดในใจว่าจะนั่งกิน Burger King ก่อนขึ้นเครื่องซักหน่อย
ออกจากห้องน้ำมา ผมก็เดินตรงไป Burger King ตอนกำลังจะสั่ง Whopper ก็รู้สึกว่า มือโล่งๆ
แล้วก็สะดุ้งเฮือก เพราะลืม IPAD ไว้ในห้องน้ำ ตรงที่วางของเหนือโถฉี่
หนักกว่านั้น คือผมเหน็บ Boarding Pass ไว้ใน IPAD ด้วย !!
ผมดิ่งกลับไปที่ห้องน้ำ พอไปถึงหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลยครับ มันไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
ผมวิ่งกลับออกมาถามเจ้าหน้าที่ตรงที่ตรวจกระเป๋า ว่ามีใครมาแจ้งว่าเจอ IPAD ในห้องน้ำชายบ้างมั้ย
เจ้าหน้าที่ก็วอถาม พนักงานทำความสะอาดตอบกลับมาว่า มีรปภ.เก็บได้เอาออกไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าต้องออกไปตรงแผนก Loss and Found อยู่ที่เดียวกันกับ Information หน้า Counter check in
ตอนนั้น เวลา 19.20 น.
ผมวิ่งกลับออกมาที่หน้า Counter Check in พอเจอพนักงานในห้อง Information ผมก็ถามหา IPAD ของผมที่มี Boarding Pass อยู่ด้วย
เดาอยู่แล้วว่าผมคงต้องมีหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็ไม่พ้นบัตรประชาชน เพราะยังไงชื่อก็ตรงกับใน Boarding Pass
ผมหยิบบัตรประชาชนมาถือไว้รอตั้งแต่ตอนก่อนจะมาถึงห้อง Information
พนักงานก็รับบัตรประชาชนผมไป ตรวจสอบกับ Boarding Pass แล้วหันมาคุยกับผม
เวลา 19.30 น.
พนักงาน : ขอบคุณค่ะ แต่เราต้องใช้สำเนาเก็บเป็นหลักฐานด้วยค่ะ
ผม : งั้นรบกวนคุณถ่ายเอกสารให้ผมหน่อยครับ
พนักงาน : ห้องนี้ไม่มีเครื่องถ่ายเอกสารค่ะ ต้องรีบหน่อยค่ะ วิ่งเลยก็ได้ค่ะ ไปตรงโรงแรม ลงลิฟท์ไปชั้นนึง
ข้ามสะพานลอยไปอีกฟาก จะมีห้องให้ถ่ายเอกสารได้ค่ะ
ผม : (กำลังอึ้ง) เอ่อ ผมมีบัตรประชาชน ยืนยันตัวได้แล้ว ยังต้องเอาสำเนาอีกเหรอครับ ? (พยายามต่อรอง)
พนักงาน : ค่ะ เป็นระเบียบ เราจำเป็นจริงๆค่ะ
ผมโอเค ยินดีทำตามระเบียบของเค้า แต่เซ็งๆเพราะกลัวตกเครื่อง แต่ช่วยไม่ได้
ก็วิ่งเลยครับ กว่าผมจะข้ามไปอีกฟากลงไป ไม่รู้ห้องอยู่ไหน ถามพนักงานโรงแรม เดินไปเจอห้องถ่ายเอกสาร
ถ่ายเสร็จ เซ็นต์รับรองสำเนา ถือวิ่งกลับมา
เวลา 19.50 น.
ผม : สำเนาครับ เซ็นต์รับรองสำเนาให้แล้ว (ยื่นให้พนักงาน)
พนักงาน : (ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งกลับมาให้ผม) รบกวนกรอกเอกสารนี้ด้วยนะคะ
มันคือเอกสารให้กรอกรายละเอียดตัวเรา ของที่หาย เวลาที่เจอ-มารับคืน และให้เซ็นต์ชื่อลงท้ายอีก
ผม : สำเนาผมก็ทำมาให้แล้ว ไม่พออีกเหรอครับ ?
พนักงาน : ค่ะ รบกวนช่วยกรอกเอกสารให้ด้วยนะคะ
ผมเลยตัดบทด้วยการ เซ็นต์ลงท้ายให้ โดยไม่กรอกรายละเอียด เพราะรายละเอียดทั้งหมดนั้น มีอยู่ในสำเนาบัตรฯที่ผมทำมาให้แล้ว
แล้วยื่นฟอร์มเปล่าที่มีแต่ลายเซ็นต์ผมอย่างเดียว กลับไปให้
ผม : งั้นผมรบกวนคุณช่วยกรอกรายละเอียดแทนผมด้วยนะครับ ข้อมูลดูจากสำเนาบัตรฯนั่นแหละครับ
พนักงาน : ไม่ได้นะคะ รบกวนกรอกให้ด้วยค่ะ
ผม : นี่คุณ (ผมขึ้นเสียงละ) ตำแหน่งที่ต้องใช้ลายเซ็นต์ที่ผมต้องเซ็นต์เอง ก็เซ็นต์ไปหมดแล้ว ข้อมูลพวกนั้น ผมรู้ว่าคุณกรอกแทนผมได้
ผมไม่พูดอะไรต่อ หยิบ IPAD ของผมออกมา ผมบอกขอบคุณพนักงานคนนั้น
พยายามให้น้ำเสียงชัดเจน และไม่กระแทกเท่าที่ทำได้ แต่ยอมรับว่ายังทำได้ไม่ดีนัก
พนักงาน : ทางเราอุตส่าเก็บไว้ให้นะคะ......
ตอนนั้นผมไม่สนใจละ ผมสนใจว่าผมจะตกเครื่องรึเปล่ามากกว่า เพราะต้องตรวจกระเป๋าที่ไม่รู้ว่าคิวเยอะแค่ไหน
และ gate ที่ขึ้นเครื่องก็อยู่ไม่ใกล้เลยด้วย
ผมมาถึงเครื่องตอน final call หย่อนก้นได้สักสิบกว่านาทีเครื่องก็ออก
สรุป....
เป็นความสะเพร่าส่วนบุคคลผมเองที่ไปลืมของไว้ในห้องน้ำ จริงๆถือว่าผมยังโชคดีที่ได้ของคืน
ซึ่งก็ขอขอบคุณ แผนก Loss & Found ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองมา ณ ที่นี้ครับ
ขอชมน้องพนักงานตรง Information บริการดี สุภาพ และเข้าใจความเร่งรีบของผมดี
อย่างเดียวที่อยากให้เสริม คือ รายละเอียดในระเบียบบางอย่าง ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ละๆไปบ้างก็ได้ครับ