(fantasy มีคนสนใจมั้ยครับ ถ้ามีฝากด้วยนะครับ) The Nearqualight : The Rise of The Lost Prince:จรัสแสงแห่งเจ้าชายที่สาบสูญ

กระทู้สนทนา
THE NEARQUALIGHT: THE RISE OF THE LOST PRINCE
อยากรบกวนพี่ๆเพื่อนๆน้องๆให้คำคอมเมนท์ วิจารณ์ เพื่อเป็นการพัฒนาการเขียนต่อไปในอนาคตครับ
และถ้าติดตามได้จะขอบคุณเป็นอย่างมากครับ..เป็นนิยายที่ให้ความเป็นแฟนตาซี และอบอวลด้วยกลิ่นอายของความรักในทุกแง่มุมครับ
ขอบคุณนะครับ


“ดัมบาดัมดา…ดาดัมบาดัมบาดา..”
เสียงฮัมเพลงดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดูสุขสันต์ภายในรถตู้สีขาวขนาดกะทัดรัดที่กำลังวิ่งผ่านถนนที่ขนาบข้างไปด้วยบรรดาต้นไม้ทึบ..ท้องฟ้ายามเย็นตอนนี้ให้แสงสว่างเพียงเล็กน้อย..ภายในรถมีผู้โดยสารอยู่สี่คน..ชายและหญิงวัยกลางคนหนึ่งคู่..เด็กหนุ่ม และ เด็กหญิงตัวเล็กที่กำลังยิ้มแป้นแล้นอยู่ที่เบาะหลังคนขับ

“พ่อคะ..ใกล้จะถึงหรือยัง” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงคนนั้นเอ่ยถามชายที่นั่งอยู่ข้างหน้าเธอ
“ไม่เกินครึ่งชั่วโมงลูก..เราจะได้ไปสนุกกันแล้ว” เค้ากล่าวพร้อมหันมายิ้มให้
“นานจัง..หนูหิวแล้วอ่า”
เด็กหญิงบ่นอุบพร้อมกับกุมท้องของเธอ หญิงสาวที่อยู่เบาะหน้าอีกฝั่งหันมามองและยิ้มเล็กๆกับความน่ารักของลูกสาว

“เซนทริคหยิบขนมที่อยู่หลังเบาะให้น้องหน่อยลูก”
“ครับ”
เด็กหนุ่มผมสีเทาเอ่ยรับ..เค้าพลิกตัวเอื้อม..แขนยาวๆของเค้าพยายามจะหยิบขนมที่อยู่เบาะหลัง.. สายตาและมือร่วมกันทำงานหาขนมที่น้องสาวเค้าต้องการ

“กินอะไรดีน้องสา..” ขณะเซนทริคกำลังจะเอ่ยถาม..สายตาเค้ามองตรงผ่านกระจกหลังเห็นรถจิ๊บสีดำเข้มขับไล่หลังมาอย่างรวดเร็ว..ชายลึกลับคนหนึ่งยื่นตัวออกมาจากกระจกข้างพร้อมปืนยาวหนึ่งกระบอก..

เซนทริคอ้าปากค้างด้วยความตกใจ หันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมตะโกนลั่น…

“พ่อ..แม่ ก้มลงครับ!!!!!!!!!!”
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เพล้งงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!

พริบตาที่เซนทริคตะโกนออกไป กระสุนนัดหนึ่งก็พุ่งตรงเข้ามาทะลุกระจกหลังรถจนแตกเป็นเสี่ยงๆ..เด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆเค้ากรี๊ดลั่นด้วยความตกใจถึงขีดสุด..เค้ารีบคว้าตัวเธอมากอดไว้แน่นพลางลูบหัว

“คุณก้มลงไป” ชายผู้ขับรถกล่าวพร้อมกดศรีษะของหญิงสาวข้างๆให้ต่ำลง

บรืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!
เค้ากล่าวก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิดเท้า..รถเร่งความเร็วขึ้นเป็นอีกเท่าตัว พยายามฉีกระยะห่างจากรถที่ไล่หลังมาให้เร็วที่สุด..

แต่ยิ่งเร่งหนีมันเท่าไหร่ มันก็ยิ่งตามมาเร็วขึ้นเท่านั้น..หญิงสาวที่นั่งข้างคนขับเริ่มร้องไห้ฟูมฟายออกมา น้ำตาของหล่อนไหลพรากไปทั่วใบหน้า

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงง!!!
กลุ่มชายลึกลับยิงกระสุนออกมาอีกครั้ง..กระจกข้างฝั่งขวาของหญิงสาวหลุดออกไป..เธอร้องกรี๊ดเสียงดังลั่น..

“ระ…เราจะต้องตายอยู่ที่นี่..เราจะตาย..มันจะฆ่าพวกเรา..”
เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและสะอึกสะอื้น ทั้งหวาดกลัวและสิ้นหวัง..ชายหนุ่มผู้ครองพวงมาลัยรถ กัดฟันแน่นก่อนจะเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นอีกจนแทบจะสุดเข็มวัดความเร็วของตัวรถ

บรืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!
เฟี้ยววววววววววววววววววว!!!!

รถตู้คันเล็กฉีกระยะห่างออกจารถจิ๊บลึกลับได้สำเร็จ..เค้าเหยียบคันเร่งเต็มเท้าไม่มียั้ง..มือกำพวงมาลัยแน่น เกร็งที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามควบคุมการทรงตัวของพาหนะนี้ให้ไปถึงที่ที่ปลอดภัย
“ไม่..เราจะไม่…”

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!
บึมมมมมมมมมมมมมม!!!!

             
เสียงระเบิดดังลั่น…รถส่ายตวัดอย่างรุนแรงทันที..กระสุนของกลุ่มคนลึกลับยิงเข้าที่ล้อหลังของรถตู้ที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูงทำให้ยางระเบิด และไม่สามารถควบคุมการทรงตัวของรถได้

เมื่อขับรถเข้ามาสู่ถนนที่ข้างทางเป็นป่าที่ทึบมากกว่าเดิม..รถจิ๊บสีดำอีกคันก็เลี้ยวเข้ามาในเส้นทาง..ถ้าคิดไม่ผิดพวกมันน่าจะเป็นโจรที่คอยดักปล้นเหล่าผู้คนที่ใช้เส้นทางนี้

“พ่อครับ..มันมีพวกมาด้วย..มาอีกคัน!!” เซนทริคตะโกนให้ผู้เป็นพ่อรู้
“บ้าเอ้ยยยยยย!!!!” เสียงสบถของชายหนุ่มผู้ขับรถดังลั่น เค้ากัดฟันกรอดพยายามฝืนพวงมาลัยจนถึงที่สุด..หญิงสาวข้างๆเค้าร้องไห้สะอึกสะอื้น..เอื้อมมือของเธอไปจับมือลูกสาวตัวน้อยที่ร่างกำลังสั่นเทาอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเซนทริค

โครมมม!!! “โอ้ยย!!”
ศรีษะของเซนทริคกระแทกเข้ากับเพดานรถอย่างแรงขณะที่รถตู้ที่มีเพียงสามล้อที่ใช้งานได้ขับผ่านเนินลูกระนาดโดยไม่ได้เหยียบเบรค..ด้วยแรงกระแทกที่รุนแรง..สายตาเริ่มฟ่าฟาง มองเห็นอะไรเลือนลางเต็มที

เซนทริคพยายามควบคุมสติสัมปชัญญะที่เหลือน้อยนิด หันไปมองรถจิ๊บสีดำที่ค่อยๆใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ..พวกมันยื่นตัวออกมานอกรถพร้อมปืนกระบอกยาวสีดำอีกแล้ว..ชีวิตของชั้น ของครอบครัว จะจบสิ้น..กัน..ที่ตรงนี้..อย่างนั้นหรอ..

แกร็กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!
เฟี้ยววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!!!!!!!!!!

เสียงของการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วดังขึ้นพร้อมกับเสียงที่ฟังดูเหมือนกับอะไรสังอย่างกำลังแตกหรือก่อตัว..เซนทริคมองไปยังรถจิ๊บสีดำที่อยู่ข้างหลัง..หากสติที่ลางเลือนของเค้ายังไม่สร้างภาพหลอนขึ้นมา สิ่งที่เห็นตรงหน้าคงเป็นอะไรที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ชีวิตเค้าเคยพบเจอ..

ชายหนุ่มผมสีขาว กับ หญิงสาวผมยาวดำคู่หนึ่งกำลังวิ่งขนาบข้างมากับรถจิ๊บคันที่ตามมาสมทบนั้นด้วยความเร็วที่สูสี เพียงแต่เส้นทางที่เค้าและเธอใช้ในการเคลื่อนที่กลับไม่ใช่ถนนที่บนอยู่พื้นดิน..แต่เป็นเหมือนกับเส้นทางพิเศษที่ยกลอยตัวขึ้น ลักษณะใสสะท้อนแสงและมีควันขึ้นบนเส้นทางนั้น..หนำซ้ำยังค่อยๆยืดยาวขึ้นทุกขณะที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า..

“นะ..นั่นมัน..อะไรกัน..??”

“ซวยล่ะ ทางลงเนิน..เซนทริค…ลูกเกาะรถไว้แน่นๆนะ”

ผู้เป็นพ่อตะโกนลั่นพร้อมรถที่ลอยตัวขึ้นกลางอากาศ เมื่อเริ่มเข้าสู่เส้นทางที่ลงเนินชัน…

โครมมมม!!!!
รถกระแทกลงอย่างแรง..การที่ไม่มีล้อหลังแล้วนั้น ทำให้สมดุลในการลงพื้นของรถสูญหายไป..รถเริ่มเสียการควบคุม..เซนทริคมองไปหลังรถ เห็นรถจิ๊บสีดำไล่ตามมาไม่ห่าง..เพียงแต่ว่ามีเพียงคันเดียว..คันที่สมทบมานั้นหายไปแล้ว..

กึงงง!!!!!โครมมมๆๆๆๆๆ!!!!
สุดท้ายก็ไม่อาจฝืนได้อีกต่อไป..รถค่อยเซถลาไปตามทางและพลิกคว่ำ กลิ้งลงเนินไปด้วยความเร็วสูง…เซนทริคกอดน้องสาวแน่น..ทุกๆคนในรถกัดฟันในทุกชั่วขณะที่รถของพวกเค้ากระแทกสัมผัสพื้นถนนด้วยความรุนแรง…

ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
เมื่อสุดทางลงเนิน รถตู้สีขาวไหลครืดไปกับถนน..ทิ้งรอยถลอกยาวไว้เป็นทางยาว..รถหยุดการเคลื่อนที่ลงอย่างช้าๆ..เซนทริคยังพอมีสติหลงเหลืออยู่..เค้ามองไปรอบๆเห็นพ่อ แม่ และน้องของเค้าสลบนอนนิ่ง..เด็กหนุ่มใจหายหล่นไปถึงตาตุ่ม..

“พะ…พ่อครับ..แม่ครับ” เค้าเอ่ยขึ้น น้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาเริ่มคลอเบ้า..เค้าไม่ใช่คนอ่อนแอ..แต่ในตอนนี้..ใจของเค้าเหมือนกำลังจะสลาย

รถจิ๊บสีดำค่อยๆขับเคลื่อนเข้ามาอย่างช้าๆ..เด็กหนุ่มรีบกุลีกุจอปลดเข็มขัดนิรภัยออก

กึกๆ กึกๆ!!
“เฮ้ย!! อะไรวะเนี่ยะ”
เข็มขัดนิรภัยของเค้านั้นได้รับการกระแทกอย่างแรงจนมันชำรุดไม่สามารถปลดออกได้ เด็กหนุ่มพยายามกดอยู่หลายทีแล้วแต่ก็ไม่เป็นประโยชน์..เค้าเอื้อมสุดมือไปสัมผัสที่จมูกของพ่อและแม่ที่นอนนิ่งอยู่ข้างหน้า..

น้ำตาไหลนองหน้าเด็กหนุ่ม..เค้ากัดฟันกรอด..มือกำแน่น
“ยัง..หายใจ..” เค้ารีบก้มลองมองน้องสาวที่อยู่ในอ้อมกอด..เช่นกัน..เธอยังหายใจ..’ทุกคนยังไม่ตาย..ทุกคนยังไม่ตาย!!’

ชายลึกลับชุดดำสวมโม่งเดินเข้ามาพร้อมปืนสองกระบอก..เด็กหนุ่มหายใจถี่รัว พลางพยายามกระชาดเข็มขัดนิรภัย และกดปลดล็อค..แต่ทุกอย่างไม่เป็นผลจริงๆ..

พวกโจรเดินเข้ามาพร้อมเอาเท้าปัดเศษกระจกที่แตกกระจายอยู่บริเวณรอบรถออกไปให้พ้นทาง
“ชั้นต้องไม่ตาย..ทุกคนต้องไม่ตาย..ต้องไม่ตาย ต้องไม่ตาย”
เด็กหนุ่มหายใจหอบรัว..กัดฟันกรอด..มือกำแน่น

โจรคนหนึ่งค่อยๆนั่งยองลงอย่างช้าๆ..เซนทริคผู้โกรธเกรี้ยว และเคียดแค้นไม่สามารถทำอะไรนอกจากกัดฟันกรอด พยายามกระชากเข็มขัดนิรภัยสุดแรง..
“ทุกคนยังไม่ตายนะ..ยังมีชีวิต..ยังหายใจ ยังอยากมีชีวิตต่อไป อยากหัวเราะ..อยากยิ้ม..อยากเห็นหน้ากัน..ชั้นจะไม่ยอม..ไม่ยอม”

โจรก้มลงมาเห็นเซนทริคที่กำลังพยายามกระชากเข็มขัดนิรภัยออก..มันค่อยๆเอาปืนสอดเข้ามาในรถ ใกล้เข้ามาที่ตัวเด็กหนุ่ม..

“จะไม่ยอม..”
“ชั้นจะไม่ยอม..”

ปลายกระบอกปืนเลื่อนเข้ามาถึงหน้าผากของเด็กหนุ่ม..นิ้วชี้ของโจรชุดดำแนบลงที่โก่งไกปืนพร้อมเหนี่ยว..

“ชั้นจะไม่ยอมมาตายง่ายๆแบบนี้หรอกเว้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!”

พรึ่บบบบบบบบบบบบบบบ!!!!!

…………………………………
……………………..
……………
…….

..

วันฟ้ามืด จันทราและดวงดาราต่างลาลับหายไปจากท้องฟ้ายามวิกาล..แสนมืดสนิทไร้ซึ่งแสงจากสิ่งใด ลมเย็นๆพัดกรีดผืนป่าชุ่มชื้นพร้อมกับ จั๊กจั่นที่ต่างพากันส่งเสียงเซ็งแซ่ไปทั่วอาณาบริเวณ..

ณ สุดเส้นทางลาดลงเนินบนถนนขนาดสองเลน..ถนนที่ไม่มีรถใดวิ่งสวนผ่าน..คาดว่าเป็นชายหนุ่มที่ใส่ชุดสีดำ..สวมโม่งเพื่อปกปิดใบหน้ายืนถือกระบอกปืนยาวอยู่..เหงื่อแตกซาซิกจนหยดออกมาผ่านทางขนตา..ดวงตาเบิกโพลงถึงขีดสุด..เมื่อบริเวณตรงนั้น..จิ๊บสีดำเป็นเพียงรถเพียงคันเดียวที่อยู่บนถนน..

……………………………….
………………………….
…………………
………….
…….



ถัดไปจากบริเวณนั้น…ฝีเท้าสองคู่กำลังวิ่งอย่างสุดความสามารถเพื่อพาตัวเองไปสู่จุดที่ปลอดภัย คนหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสมส่วน ผิวเข้ม ผมสีขาว ดวงตาสีดำขลับ อีกร่างที่อยู่ข้างหลังเป็นเด็กสาวผมยาวดำราวนภายามวิกาล ตัดกับผิวเนียนใสที่ขาวราวหิมะ..

ขาทั้งสองคู่สับกันไปมาผ่านต้นไม้ต้นแล้วต้นเล่าอย่างไม่หยุดหย่อน ทว่า..ความเหนื่อยล้าที่มีทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเค้าทั้งสองเชื่องช้าลง คงย่างก้าวอย่างรวดเร็วเช่นนั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

“ใช้พลังที่โลกนี้..เหนื่อยกว่าที่เมลโรทอว์มาก” เด็กหนุ่มกล่าวขณะวิ่งผ่านต้นไม้ต้นใหญ่ที่ผงาดอยู่เบื้องหน้า
“แล้วรถตู้คันนั้นที่โดนพวกมันไล่ตามล่ะ..จะทำยังไงดี?” เด็กสาวเอ่ยน้ำเสียงดูร้อนรนและเป็นห่วง

“ชั้นใช้พลังตามได้แค่คันเดียว..มันไม่ไหวจริงๆ..เราก็ทำสุดความสามารถแล้ว..แต่ชั้นโทรแจ้งตำรวจให้พวกเค้าแล้วนะ..บอกสถานที่ ตำแหน่ง..ถนน..ทุกอย่างให้อย่างชัดเจนแล้ว ได้แต่หวังว่าความช่วยเหลือจะไปถึงอย่างทันการ” เด็กหนุ่มเอ่ยขณะวิ่งตัดผ่านป่าไปเรื่อยๆ

“ขอให้ปลอดภัยทีเถอะ” เด็กสาวกล่าว
“เธอควรภาวนาให้พวกเราเองด้วยนะ”
เด็กหนุ่มกล่าวก่อนกดศรีษะเด็กสาวลงเพื่อวิ่งผ่านกิ่งไม้ใหญ่ที่ขวางอยู่เบื้องหน้า

“ก็นายน่ะแหละ ทำรถมันคว่ำได้..แต่พวกมันกลับไม่เป็นอะไรเลย..แถมยังจะไล่ฆ่าพวกเราอยู่เนี้ยะ”
“ความผิดชั้นหรอ!!?”
เด็กหนุ่มเหล่มองเด็กสาว..เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ยขึ้น

“ไม่ไหวแล้วนะ ขอใช้ได้มั้ย ไวท์”
เด็กสาวกล่าวในขณะที่แรงวิ่งจะหมดเต็มที
“ใช้เพื่อ..” เค้าถาม
“เล่นงานพวกมันไง”
“แต่การใช้เพื่อมุ่งร้ายคนอื่นที่โลกนี้..มันผิดกฎร้ายแรงนะ”
“แล้วที่นายใช้ไล่กวดพวกมันตะกี้ล่ะ..” เด็กสาวหันมาเขม่น
“ก็นั่นไง ชั้นใช้ไล่กวด..ที่เหลือก็ตัวตัวล้วนๆ”
“ตัวตัวแล้วดันเสียท่าเนี่ยะนะ” เด็กสาวกล่าว ไวท์เขม่น
“แต่จะทำไงได้..ตรงนี้ไม่มีใครเห็นหรอก แล้วอีกอย่าง ถ้าเราตายมันจะมีประโยชน์อะไร..ชั้นวิ่งไม่ไหวแล้ว..มันก็ตามมาใกล้มากแล้วด้วย”

เปรี้ยงงงงงงงงง!!!!
เสียงปืนดังขึ้นลั่นป่า..ได้ยินเสียงนกสยายปีกบินขึ้นฟ้าเพราะความตกใจได้เลย..เป็นกิ่งไม้ข้างตัวเด็กสาวที่ถูกกระสุนจนหักลงแทนตัวเธอที่วิ่งเลี้ยวไปทางขวาพอดี..

“นั่นไงล่ะ..”

เด็กสาวเอ่ยขึ้นพร้อมมองหน้าเค้า เด็กหนุ่มเงียบไปพักหนึ่งก่อนถอนหายใจออกมาและพยักหน้าลงเบาๆอย่างช่วยไม่ได้

เด็กสาวผงกหัวรับพร้อมหลับตาทำสมาธิในขณะที่เด็กหนุ่มดึงมือเธอไปหลบในพุ่มไม้หนาตาที่อยู่ด้านข้าง เสียงฝีเท้าที่ไล่หลังพวกเค้ามา ดังขึ้นเรื่อยๆจนสำเนียงเสียงลมหายใจของมันได้อย่างชัดเจน..เด็กสาวลืมตาขึ้นอีกครั้งพร้อมเอ่ยเบาๆด้วยเสียงที่เยือกเย็น

“ผืนป่า เศษหญ้าและน้ำค้างยามราตรี”
“โปรดมอบพลังแห่งพฤกษธาตุแก่ข้า ผู้เป็นบ่าวแห่งพระองค์”

มือข้างขวาของเธอวางลงบนผืนป่าอย่างช้าๆ
ดวงตาสีเขียวอ่อนมองไปยังเป้าหมาย

“สถานกักกันแห่งผืนป่า forest cage!!!”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่