มาตราฐาน 50 ppm ต่อข้าว 1 กก ของโคเด็กซ์ เพื่อการค้า ไม่ใช่เพื่อผู้บริโภค

กระทู้สนทนา
ที่เหลืออีก 34 ตัวอย่าง ตรวจพบการตกค้างมากน้อยต่างกัน โดยที่มากสุดมี 1 ตัวอย่างที่เกินกว่ามาตรฐาน ของ โคเด็กซ์ หรือของคณะกรรมการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (Codex Alimentarius Commission)


แต่ทว่ามาตรฐานของโคเด็กซ์ถูกวิจารณ์ว่าเป็นมาตรฐานขั้นต่ำ กำหนดเพื่อการค้าเป็นหลัก ไม่ใช่มาตรฐานขั้นสูงสำหรับการคุ้มครองผู้บริโภค จึงกำหนดการปนเปื้อนไม่เกิน 50 พีพีเอ็ม หรือมีการปนเปื้อนได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม ต่อข้าว 1 กิโลกรัม

ขณะเดียวกันยังมีบางประเทศกำหนดมาตรฐานขั้นสูงเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค อาทิ ไต้หวันกำหนดการปนเปื้อนไว้ที่ 1 พีพีเอ็ม สหภาพยุโรป 0.1 พีพีเอ็ม แม้กระทั่งจีนกำหนดไว้ที่ 5 พีพีเอ็ม หรืออินเดีย 25 พีพีเอ็ม

นั่นเป็นเรื่องแรกที่รัฐบาลต้องตอบว่าจะดูแลคนไทยอย่างไร ไม่ให้เสี่ยงกับการตายผ่อนส่ง

ถัดจากนั้นการส่งออกข้าวจะเกิดปัญหาตามมา เนื่องจากผลการสุ่มตัวอย่างพบสารตกค้างเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในหลายประเทศ

และหากคุณภาพข้าวส่งออกไม่แตกต่างไปจากผลสำรวจในประเทศ คุณภาพข้าวไทยจะถูกตั้งคำถามตัวโตๆ ถึงเรื่องความปลอดภัย

ตลาดข้าวไทยในต่างประเทศจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งแก้ไข ไม่ใช่ด้วยการขู่จะฟ้องร้องเล่นงานคนนั้นคนนี้ หรือด้วยการปิดปากห้ามพูด

แต่รัฐบาลต้องแก้ด้วยการกระทำที่สร้างการยอมรับ ทั้งการกำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนขึ้นมา และควบคุมคุณภาพการส่งออกอย่างใกล้ชิด

ไม่เช่นนั้นงานนี้จอดสนิท

ตัดตอนจากโพสต์ทูเดย์
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  รัฐบาล การเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่