คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 20
คำตอบคุณมีอยู่ในใจคุณอยู่แล้ว เพียงแต่คุณยังละอายใจที่จะทำจึงต้องหาคนมาช่วยสนับสนุน เพราะแนั้นคำตอบผมน่าจะไม่ตรงใจคุณ
1 ถ้านับถือเหมือนพ่อและแม่จริงก็คงไม่ต้องมาเสียเวลาคิด รีบส่งเงินไปให้ 200000 เลยทำใจไว้เลยว่าสูญ บอกท่านไปเลยว่าไม่ต้องห่วงเรื่องคืนเงินไม่มีก็ไม่ต้องคืน
2. หาเงิน20000 ไปโปะบ้านให้ท่าน เพื่อให้ท่านอยู่ได้สบายใจ ที่จริงควรช่วยตั้งแต่เริ่มมีงานทำแล้วนะครับ
ส่วนเรื่องการซื้อบ้านใหม่ก็พักไว้ก่อน ไม่มีบ้านแต่ ไม่มีใครเดือดร้อนก็ยังอยู่แบบสบายใจได้เทียบกับซื้อบ้านแล้วให้คุณป้าแก้ปัญหาเอง ถ้าทำแล้วสบายใจก็บอกป้าไปเลยว่าติดแบล็คลิสต์อยู่ ต่อไปอย่ามาพูดถึงเรื่องเงินทอง บุญคุณที่เลี้ยงดูมาไม่เคยลืม ขอตอบแทนในชาติหน้าแล้วกัน
ในเมื่อคุณวางแผนจะซื้อบ้าน 2 ล้านก็ต้องมีรายได้พอสมควร เคยคิดจะส่งเงินเลี้ยงดูลุงและป้าหรือเปล่า
- สิ่งที่ผมคิด เพื่อนๆคิดว่าผมทำถูกหรือไม่ครับ จะกลายเป็นว่าผมเนรคุณท่านหรือไม่ - คำตอบมันอยู่ในนั้นแล้วครับ เพราะถ้ามันถูกต้องตรงใจคุณคุณคงทำไปแล้วไม่ต้องมาถามเพื่อความสบายใจหรอก
ส่วนแม่ที่จะมาอยู่ด้วย ถ้าไม่ใช่บ้านที่คุณซื้อไว้เองแม่จะอยู่ไม่ได้หรือไง
มีอีกอย่างที่ทำแล้วคุณไม่เสียสิทธิในการกู้บ้านคือ บอกให้ลุงและป้าขายบ้านไป เก็บไว้ก็ไม่มีใครต้องการ ขายแล้ว ลุงกับป้าก็ย้ายไปอยู่กับจขกท.ที่บ้านที่จะซื้อที่โคราช ให้โอกาศ จขกท.ได้แสดงความกตัญญูด้วยการเลี้ยงดู ส่วนเงินบ้านที่ขายได้ก็ให้คุณลุงคุณป้าเอาไปปลดหนี้ของคุณลุงคุณป้าที่เหลือก็เก็บไว้ใช้เพื่อความสุขของคุณลุงคุณป้าเอง ถ้าเหลือเยอะก็ไปเที่ยวรอบโลก2คนหาความสุขในขณะที่ยังทำได้
คุณเองก็จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจกลัวว่าจะเป็นคนเนรคุณ ทุกคนก็มีความสุข
1 ถ้านับถือเหมือนพ่อและแม่จริงก็คงไม่ต้องมาเสียเวลาคิด รีบส่งเงินไปให้ 200000 เลยทำใจไว้เลยว่าสูญ บอกท่านไปเลยว่าไม่ต้องห่วงเรื่องคืนเงินไม่มีก็ไม่ต้องคืน
2. หาเงิน20000 ไปโปะบ้านให้ท่าน เพื่อให้ท่านอยู่ได้สบายใจ ที่จริงควรช่วยตั้งแต่เริ่มมีงานทำแล้วนะครับ
ส่วนเรื่องการซื้อบ้านใหม่ก็พักไว้ก่อน ไม่มีบ้านแต่ ไม่มีใครเดือดร้อนก็ยังอยู่แบบสบายใจได้เทียบกับซื้อบ้านแล้วให้คุณป้าแก้ปัญหาเอง ถ้าทำแล้วสบายใจก็บอกป้าไปเลยว่าติดแบล็คลิสต์อยู่ ต่อไปอย่ามาพูดถึงเรื่องเงินทอง บุญคุณที่เลี้ยงดูมาไม่เคยลืม ขอตอบแทนในชาติหน้าแล้วกัน
ในเมื่อคุณวางแผนจะซื้อบ้าน 2 ล้านก็ต้องมีรายได้พอสมควร เคยคิดจะส่งเงินเลี้ยงดูลุงและป้าหรือเปล่า
- สิ่งที่ผมคิด เพื่อนๆคิดว่าผมทำถูกหรือไม่ครับ จะกลายเป็นว่าผมเนรคุณท่านหรือไม่ - คำตอบมันอยู่ในนั้นแล้วครับ เพราะถ้ามันถูกต้องตรงใจคุณคุณคงทำไปแล้วไม่ต้องมาถามเพื่อความสบายใจหรอก
ส่วนแม่ที่จะมาอยู่ด้วย ถ้าไม่ใช่บ้านที่คุณซื้อไว้เองแม่จะอยู่ไม่ได้หรือไง
มีอีกอย่างที่ทำแล้วคุณไม่เสียสิทธิในการกู้บ้านคือ บอกให้ลุงและป้าขายบ้านไป เก็บไว้ก็ไม่มีใครต้องการ ขายแล้ว ลุงกับป้าก็ย้ายไปอยู่กับจขกท.ที่บ้านที่จะซื้อที่โคราช ให้โอกาศ จขกท.ได้แสดงความกตัญญูด้วยการเลี้ยงดู ส่วนเงินบ้านที่ขายได้ก็ให้คุณลุงคุณป้าเอาไปปลดหนี้ของคุณลุงคุณป้าที่เหลือก็เก็บไว้ใช้เพื่อความสุขของคุณลุงคุณป้าเอง ถ้าเหลือเยอะก็ไปเที่ยวรอบโลก2คนหาความสุขในขณะที่ยังทำได้
คุณเองก็จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจกลัวว่าจะเป็นคนเนรคุณ ทุกคนก็มีความสุข
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ปรึกษาปัญหาหนักใจ กับการกู้เงิน - ทางเลือกระหว่าง บุญคุณ กับ อนาคต
สวัสดีครับ
พอดีตอนนี้ผมมีปัญหาทุกข์ใจ อยากได้รับคำปรึกษาจากเพื่อนๆในพันทิป เหมือนเป็นทางแยกว่า ระหว่างบุญคุณ กับ อนาคตของผม ผมควรจะเลือกอะไรดี เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ครับ
สมัยเด็ก(อนุบาล) ผมได้รับการเลี้ยงดูโดยป้า และลุง (แกไม่มีลูก) ผมนับถือท่านเสมือนพ่อ และแม่ของผมเองจนผมเรียกท่านว่า "ป๊า และแม่" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
Background 1: บ้าน ป้า/ลุง (ป้าอายุ 59 ลุงอายุ 61ปี) อยู่ที่ กทมฯ แต่ปัจจุบัน ป้าผมลงไปอยู่ปัตตานีเพื่อทำการค้า ทำให้ที่ กทม ลุงผมอยู่คนเดียว และบ้านที่อาศัยอยู่นี้กำลังจะผ่อนหมด เหลืออีกประมาณ 20,000 บาท และผู้กู้ร่วม (ร่วมกับป้าผม) ในบ้านหลังนี้ติด blacklist อยู่ในขณะนี้
Background 2: ผมทำงานอยู่ที่โคราช (โสด) ปัจจุบันอายุ 27 ปี ตั้งใจว่าต้นปีหน้าจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ตั้งใจไว้ที่ราคาประมาณ 2 ล้านบาท
แต่ประเด็นเริ่มมาจาก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ป้า ของผมเล่นแชร์โดยที่ท่านเป็นท้าวแชร์ (ผมก็เล่นแชร์นี้ด้วย แต่ยังไม่เอาแชร์) เมื่อเที่ยงวันวันนี้ ได้รับโทรศัพท์จากป้าของผมว่า ต้องการเงินจำนวน 2 แสนบาท เนื่องจากลูกแชร์หนีแชร์ และแล้วปัญหานี้ก็เกิดขึ้น...
หลังจากป้าพบปัญหานี้ ท่านได้ไปขอให้ญาติช่วยกู้เงินให้ท่าน จำนวน 2 แสนบาท แต่ไม่มีใครกล้าที่จะทำเรื่องกู้ให้ และท่านเห็นผมเป็นที่พึ่งสุดท้าย จึงโทรมาหาเพื่อให้ผมช่วยกู้เงินให้ท่าน 2 แสน โดยท่านบอกว่าจะผ่อนประมาณเดือนละ 4,200 บาท โดยสัญญาว่าจะไม่ทำให้ผมเดือดร้อน และหลังจากบ้านของท่านผ่อนหมด ท่านจะใส่ชื่อผมเป็นเจ้าของบ้าน (ใจจริงๆ ได้เป็นเจ้าของบ้านหรือไม่ ผมไม่ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว)
หลังจากวางสาย ในหัวผมแตกความคิดเป็น 2 ส่วน คือ อยากช่วยเหลือท่านเพราะท่านเลี้ยงดูผมสมัยก่อน และสองคือ ผมกำลังคิดถึงอนาคตของผมที่ผมวาดเอาไว้ (ตั้งใจจะซื้อบ้านปีหน้า และหลังผ่อนบ้านไปซักระยะ จะซื้อรถยนต์)
1. ถ้าผมช่วยท่าน ด้วยการกู้เงินจำนวน 2 แสน กับการผ่อนเดือนละ 4,200 บาท เมื่อคำนวณคร่าวๆ กับดอกเบี้ย 8% แล้ว หนี้ก้อนนี้จะใช้เวลาทั้งหมด 5 ปี ครึ่ง
2. ตามที่ผมเข้าใจคือ ถ้าปีหน้าผมต้องการซื้อบ้าน อาจจะถูกริดรอนจำนวนเงินที่กู้ เนื่องจากยังมียอดเงินที่กู้เก่าอยู่ (สองแสนบาท) ผมจึงไม่อยากธุรกรรมทางการเงินใดๆทั้งสิ้น แม้แต่ทำบัตรเครดิต
ผมจึงอยากปรึกษาเพื่อนๆว่า ถ้าผมจ่ายเงินจำนวน 20,000 บาทเพื่อให้บ้านของท่านหมด ท่านจะสามารถนำบ้านไปจำนองได้หรือไม่ครับ (อายุป้า/ลุงตามที่บอกด้านบน) เนื่องจากท่านไม่ต้องการขายบ้านหลังนี้
สิ่งที่ผมคิด เพื่อนๆคิดว่าผมทำถูกหรือไม่ครับ จะกลายเป็นว่าผมเนรคุณท่านหรือไม่
ขอบคุณมากนะครับ ผมไม่รู้จะหันไปปรึกษาใครเหมือนกัน T_T
เพิ่มเติมครับ
สาเหตุที่ผมคิดหนัก เพราะว่า แม่(จริงๆ) ท่านเป็นมะเร็งปอด ตอนนี้ท่านอยู่คนเดียวที่ปัตตานี และท่านบอกผมว่าต้นปีหน้าท่านจะมาอยู่กับผมที่โคราช
ทำให้ผมวางแผนที่จะซื้อบ้านในปีหน้าน่ะครับ จึงกังวลว่าถ้าผมกู้ตรงนี้แล้ว ถึงเวลาจริงๆปีหน้าซื้อบ้าน จะไม่สามารถกู้ได้เต็มจำนวน
ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับ
ถ้าผมจ่ายค่าบ้านให้ป้า 20,000 บาท ป้าผมซึ่งตอนที่กู้เงินซื้อบ้านหลังนี้ ผู้กู้ร่วมติด black list ท่านจะสามารถจำนองบ้านได้หรือไม่ ประกอบกับอายุของท่าน 59 ปี ท่านจะสามารถจำนองบ้านได้หรือไม่ครับ