หลังจากเขียนบทความนี้ไปแล้ว ก็อย่ามาลองของกับผมนะครับ เพราะคนส่วนมากได้อ่านแล้วก็มักจะประมาณว่า เดี๋ยวหลอกโกงให้ดูเลย แต่ถ้าไม่เคยอ่านบทความนี้ก็รับรองได้ว่า หากคุณไม่เคยเจอบทความนี้มาก่อน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย มีสิทธิ์รอดพ้นจากการถูกโกงได้สูงมากครับ
เรื่อง...ก็มีอยู่ว่า ผมเริ่มสนใจสินค้าบางอย่าง ตั้งแต่รู้จักกับคอมพิวเตอร์มา ก็ไม่คิดจะเดินออกไปหาซื้อของเลย เพราะวันๆ ทำแต่งาน ก็เลยคิดว่า ถ้าหาซื้อตามเน็ตมาส่งได้ จะได้ไม่ปวดขาเดินลากไปตามตลาด คุณภาพสินค้าบางอย่างก็เหมือนกันหรือใกล้เคียงกันมาก ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ส่วนต่างอาจจะไปตกอยู่ที่ค่าเดินทาง แปรผันมาเป็นค่าจัดส่งให้เราแทนก็เท่านั้น
ปัญหาก็คือว่า ทำยังไงถึงจะไม่ให้ถูกโกงสินค้า ซึ่งการโกงก็คือ การที่จ่ายเงินแล้วไม่ได้รับสินค้า, สินค้าไม่ตรงกับที่ต้องการ, สินค้าไม่ครบ, หรือโดนประวิงเวลาออกไปเรื่อยๆ จนน่าหงุดหงิด จากคนที่เราไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า แล้วเราจะเชื่อใจเค้าได้อย่างไร มั่นใจได้อย่างไรว่าการโอนเงินไปนั้นจะไม่สูญเปล่า
ผมจะขอใช้ประสบการณ์โดยตรงของผมที่ซื้อสินค้าตามร้านต่างๆ ผ่านทางเว็บบอร์ด และเว็บไซต์ขายสินค้าทั่วไปมาประกอบนะครับ ซึ่งที่ผ่านมา ผมไม่เคยโดนโกงสินค้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว (ไม่ต้องมาอ้างว่าดวงดีนะ เพราะซื้อหวยไม่เคยถูก ดังนั้นโชคไม่เกี่ยวแน่นอน)
ร้านค้า เว็บไซต์และบุคคลที่เผยแพร่ต่อไปนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องผลประโยชน์กับเจ้าของกระทู้ใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับร้านค้าเปิดที่มีข้อมูลพร้อมเปิดเผยอยู่บนเว็บไซต์ของเจ้าของอยู่แล้ว ผมขอนำมาเผยแพร่เพื่อประกอบการทำข้อมูล (อันที่จริงยังไม่ได้ขอกับเจ้าของเป็นการส่วนตัว แต่เห็นว่าเป็นข้อมูลเปิดอยู่แล้ว ถ้ามัวแต่เบลอเดี๋ยวจะพากันดูไม่รู้เรื่องพอดี แล้วอีกอย่างข้อมูลเหล่านี้ก็สามารถสืบค้นได้จาก Google อยู่แล้ว ดังนั้นจะเบลอภาพไป ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนักหรอก) ส่วนข้อมูลที่เป็นส่วนบุคคลไม่ใช่ประเภทร้านเปิด ผมขอสงวนไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบค้นและเป็นตัวอย่างเท่านั้นครับ
ผมจะยกตัวอย่างหลายๆ กรณีให้เข้าใจ ดังนี้
ซื้อของออนไลน์ผ่านเว็บบอร์ดทั่วไป #1 บอร์ดรวมมิตร
เริ่มกันที่เว็บแรก
www.overclockzone.com แหล่งขายสินค้าหลากชนิดผ่านเว็บบอร์ด เน้นทางด้าน IT เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมเคยซื้อ Memory Card จากคนขายในนี้ที่กระทู้ของ Camera ที่ overclockzone.com/forums/showthread.php?t=1634210
สินค้าที่ผมซื้อคือ Sandisk SDHC Extreme Class10 45MB/s 16GB ราคา 790 บาท ณ.ตอนนั้น

เอาล่ะ ดูหน้าร้านเว็บบอร์ดก็มีสินค้าเยอะแยะเนอะ ราคาถูกกว่าตลาดบ้างร้านทั่วไปด้วยแหล่ะ ผมเริ่มตรวจสอบจาก

วันที่โพสต์ ดูทำไม ? ก็ดูเพื่อเชื่อมโยงกับวันที่แก้ไขข้อความล่าสุด เพราะหากเป็นร้านค้าที่ขายสินค้าสม่ำเสมอ เค้ามักจะต้องมีการอัพเดตสินค้าอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเพิ่มเข้าหรือลบออก ซึ่งจะบ่งบอกระยะเวลาการขายได้เป็นอย่างดีว่า เริ่มขายมานานเท่าไหร่แล้ว ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ

ดูจากวันที่แก้ไขล่าสุด แสดงว่าเจ้าของร้านยังสนใจร้านตัวเองอยู่นะ
ต่อไป ดูวันที่เข้ามาเป็นสมาชิก ก็ถือว่านานพอดู แต่อันนี้ก็เอาไว้แค่ประกอบการตัดสินใจพื้นฐาน เพราะถ้าหากเป็นสมาชิกหน้าใหม่ ยังไม่มีประวัติการซื้อขาย ผมก็จะขอผ่านไปก่อน
ดูจาก Verified Member ซึ่งพื้นฐานของเว็บบอร์ดซื้อขายที่นี่ก็คือ จะมีการยืนยันตัวตนร้านค้าที่ถูกต้อง ที่ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่า คงไม่ใช่พวกมั่วนิ่มมาโพสต์เล่นล่ะนะ
ต่อไป ตรวจสอบข้อมูลติดต่อของผู้ขาย หาให้ได้มากที่สุด

ไอที่ผมชี้ๆ ไว้นั่นอะ เอาไปสืบค้นข้อมูลให้หมด ทั้งชื่อ สกุล ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทร ที่อยู่ร้าน, ซึ่งร้านค้าที่ดำเนินกิจการโดยสุจริตมักจะไม่ปิดบังข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะต้องการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและสะดวกในการซื้อสินค้ามากที่สุด ในเมื่อเปิดเผยขนาดนี้ ก็เอาไปค้นเลย ค้นจากไหน? ไม่ต้องถึงกับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ DSI หรอกนะครับ เอาแค่ google ก็พอ
ค้นยังไง
ก็เอาชื่อไปค้นเลยอย่างแรก ซึ่งเทคนิคการหาจาก google ก็คือ ให้เราพิมพ์ Keyword ไปพร้อมกับข้อสงสัย เช่น

อุ้ย แรงไปป่าว ไม่โกรธนะครับ ผมพิมพ์โดยการใส่เครื่องหมาย Double Quote กำกับไว้ เพื่อต้องการกรอง Keyword ให้มีแต่คำนี้เท่านั้น พร้อมข้อสงสัยคือ โกง เพราะถ้าหากมีคดีอยู่ ก็มักจะต้องมีเจ้าทุกข์มาก่อน ซึ่งเจ้าทุกข์ก็มักจะไปบ่นตามเว็บบอร์ดเช่นกัน ทำให้ google สามารถเก็บ Cache ไว้ได้ และถ้ามีผู้ขายที่โกงจริงแน่นอนว่าผลลัพธ์มันก็จะเกิดขึ้นใน google เมื่อเราค้นหาชื่อของบุคคลเหล่านั้น ลองนำรายชื่อคนที่โกงการขายไปค้านหาดูตาม google สิครับ จะขึ้นยาวมาเป็นหางว่าวเลย ถ้าหากพบเช่นนั้น ก็อย่าไปซื้อเลยครับ ประวัติไม่ดีมีแต่เสีย แต่สำหรับข้อมูลของผู้ขายรายนี้ ผ่านครับ
ค้นต่อไป ถึงประวัติการขายสินค้าชนิดอื่นว่ามีหรือไม่ ผมก็สุ่มเอาเลขที่บัญชีไปสืบค้นต่อ

ขายเว็บอื่นเหมือนกันนะเนี่ย ผมก็จะไปดูต่อที่ดีลฟิช ดูซิ๊ว่าเค้าขายอะไรอีก

ดูท่าทางเจ้านี้จะขายสินค้าแนวไอทีเป็นส่วนมาก ผมก็อ่านข้อมูลต่อไปเรื่อยๆ

ก็ยังไม่ผิดปกติ ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลอื่นๆ ยังตรงกัน เพราะบางครั้งหากข้อมูลจากเว็บหนึ่งไม่ตรงกัน พอไปขายอีกเว็บหนึ่งก็เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนร้าน แต่บัญชีเดียวกัน อันนี้ก็ต้องตามไปสืบอีกว่า เพราะเหตุใดถึงไม่ตรงกัน มีการเปิดสาขาอื่น หรือร้านหุ้นส่วนหรือเปล่า แต่กรณีนี้สำหรับผม ผ่านครับ
หากมีเว็บอื่นๆ ที่ผู้ขาย ได้ขายสินค้าไว้ ก็ควรคลิกเข้าไปอ่านเพื่อตรวจสอบให้มากที่สุดเท่าที่จะอ่านได้นะ อย่าไปเชื่อแค่เว็บสองเว็บแล้วจบ พยายามหาให้ได้เยอะๆ อ่านมากๆ แล้วเก็บไว้เป็นข้อมูล
ยังไม่จบ ผมก็เอาอีเมลไปหาข้อมูลต่อ พร้อมสิ่งที่สงสัยแบบเดิม

เออะเห่อ ขายของไอทีอีกแล้ว

ก็น่าจะพอสรุปได้ว่า เจ้านี้เค้าขายของแนวนี้นั่นแหล่ะ
สิ่งที่เราต้องตรวจสอบก็มีอีก นั่นคือ Feedback จากลูกค้า อ่านให้เยอะครับ ดูว่าผลตอบรับเป็นอย่างไร ลูกค้าเข้ามาถามแล้วมีการตอบกลับหรือไม่ หรือมีแต่เชียร์สินค้าอย่างเดียว ไม่มีคอมเม้นท์อื่นเลย อันนี้อาจะเป็นหน้าม้าก็ได้ วิธีตรวจสอบคือ ให้นำคอมเม้นท์เหล่านั้น ซึ่งผมคัดเอาแต่คอมเม้นท์แนวชื่นชม หรือขอบคุณกับร้านค้า ไปค้นหาครับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับร้านหรือเปล่า

ตัวอย่างนี้ อาจจะเป็นเพื่อน พี่น้องกัน มาออกหน้าออกตาแทนกันก็ได้ว่า สั่งซื้อแล้วนะ ได้รับแล้วครับผม อะไรแนวนี้ ผมก็จะเอา Display name ของคนนี้ไปค้นหาต่อ

ซึ่งเท่าที่เข้าไปอ่านตามผลลัพธ์ก็พบว่า ลูกค้าคนนี้น่าจะเป็นคนที่ชอบเล่นกล้อง และมีประวัติการซื้อของในเน็ตมาบ้าง แต่ไม่มีรายงานการเชียร์สินค้าของร้านนี้ แสดงว่าก็น่าจะไม่ใช่หน้าม้า ซึ่งเมื่อผมอ่านผลลัพธ์ทั้งหมดจาก google แล้ว ผ่านครับ
แผนที่ร้าน ยิ่งถ้ามีมาให้ด้วยล่ะก็ หาเลยครับ แต่ว่า ผมอยู่ กทม. ส่วนร้านอยู่ตั้งเชียงใหม่ จะไปยังไง

ผมก็นั่ง Google Map ไปสิครับ ตั๋วฟรี

อ้าว กรรม เห็นห้างขนาดปานกลาง ร้านค้าอยู่ด้านในไม่สามารถมองเห็นได้ อันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้มากครับ แต่ถ้าเป็นร้านค้าทั่วไปที่อ้างว่ามีหน้าร้านเป็นของตนเอง สามารถใช้วิธีนี้ในการค้นหาหน้าร้านได้ครับว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่ง Google จะเก็บภาพย้อนหลังไปประมาณ 2 ปีนะ ถ้าร้านเค้าเพิ่งเปิดใหม่ก็อย่าไปโวยวายล่ะว่าหาร้านไม่เจอ
กรณีนี้ทำอย่างไรได้บ้างถ้าต้องการทราบว่าร้านนั้นมีอยู่จริง
A.โทรไปหาร้านนั้นเลย
b.โทรไปถามฝ่ายอาคาร
ก็ต้องเลือกโทรไปถามฝ่ายอาคารครับ ค้นหาจาก google เช่นเคยว่า อาคารดังกล่าวมีเบอร์ติดต่ออะไรได้บ้าง แล้วลองสอบถามชื่อร้านหรือเบอร์โทรร้านดูว่าสามารถตอบได้ไหม ถ้ามีชื่อร้านดังกล่าวระบุในโซนที่ถูกต้อง และเบอร์โทรตรงกัน ก็ถือว่าผ่าน อันนี้แล้วแต่ฝ่ายอาคารนะครับว่าเค้าจะให้ข้อมูลกับเราได้หรือไม่
เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้แล้ว ก็ทำการติดต่อไปยังร้านได้เลยครับ แล้วโทรสอบถามสินค้าก่อนว่ามีพร้อมจำหน่ายหรือไม่ ซึ่งการพูดคุยนั้นให้จับพฤติกรรมการพูดคุยด้วยนะ เช่น รีบรนขายสินค้าเกินไปหรือเปล่า หรือเร่งแต่จะโอนเงินอย่างเดียวหรือไม่ ถ้าต้องการขายสินค้า ผู้ขายมักจะให้ข้อมูลปกติตามที่เราถามไป เมื่อติดต่อกันเรียบร้อยแล้วให้ยืนยันจำนวนเงิน แล้วตรวจสอบว่าตรงกับที่ระบุไว้ในเว็บบอร์ดหรือไม่
เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งโอนเงิน ลองนั่งทบทวนดูอีกนิดนึงว่า มีอะไรที่เราน่าจะค้นหาได้อีกหรือไม่ อย่างเช่น มีคนอื่นเคยซื้อสินค้าไปบ้างแล้วหรือยัง อะ ถ้างั้นกลับไปอ่านเว็บบอร์ดใหม่อีกรอบ

พบว่ามีการจัดส่งสินค้าด้วยพัสดุ แต่ นี่เป็นการจัดฉากหรือเปล่า (คิดมากจัง จะซื้อได้ยังเนี่ย)
ก็เอารายชื่อลูกค้าที่เจ้าของร้านโพสต์นั่นแหล่ะครับ ไปหาข้อมูลจาก google ต่อเหมือนเดิม หรือลองสอบถาม PM ไปยังเจ้าตัวเลยก็ได้ว่าสินค้าเป็นอย่างไร เคยสั่งซื้อไหม แล้วถ้าเค้าตอบกลับมา ก็ขอให้อ่านด้วยมันสมอง อย่าหลงไปกับคำเชียร์สินค้าที่ลูกค้าคนอื่นบอกมา ผมก็จะลองเอาลูกค้าสักคนไปสืบค้นต่อดูว่า ลูกค้ารายนี้เป็นอะไรกับเจ้าของร้านรึเปล่า

นี่แหล่ะครับ พอได้ข้อมูลจาก google ออกมา ก็พยายามเข้าไปอ่านให้ได้มากที่สุด ว่าเคยมีประวัติการเชียร์สินค้าบ้างหรือเปล่า เพราะบางคนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่อง Username, Display name เลยนะครับจะบอกให้ กะว่าใช้ชื่อเดียวไปจนตาย ซึ่งถ้ามีข้อมูลเหล่านี้แสดงออกมาก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายว่า สมัครสมาชิกตามเว็บต่างๆ เพื่อเชียร์สินค้าอย่างเดียว แต่กรณีนี้ เท่าที่ผมอ่านดูจากผลลัพธ์ ผ่านครับ
เป็นอันว่า ร้านนี้ก็น่าเชื่อถือครับ ผมก็จัดการโอนเงินไปให้แล้วก็ได้รับสินค้าเรียบร้อยไม่มีปัญหา
มีต่อนะ...
ซื้อของออนไลน์ ทำอย่างไรไม่ให้ถูกโกง จากประสบการณ์คนรอดโกง
เรื่อง...ก็มีอยู่ว่า ผมเริ่มสนใจสินค้าบางอย่าง ตั้งแต่รู้จักกับคอมพิวเตอร์มา ก็ไม่คิดจะเดินออกไปหาซื้อของเลย เพราะวันๆ ทำแต่งาน ก็เลยคิดว่า ถ้าหาซื้อตามเน็ตมาส่งได้ จะได้ไม่ปวดขาเดินลากไปตามตลาด คุณภาพสินค้าบางอย่างก็เหมือนกันหรือใกล้เคียงกันมาก ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ส่วนต่างอาจจะไปตกอยู่ที่ค่าเดินทาง แปรผันมาเป็นค่าจัดส่งให้เราแทนก็เท่านั้น
ปัญหาก็คือว่า ทำยังไงถึงจะไม่ให้ถูกโกงสินค้า ซึ่งการโกงก็คือ การที่จ่ายเงินแล้วไม่ได้รับสินค้า, สินค้าไม่ตรงกับที่ต้องการ, สินค้าไม่ครบ, หรือโดนประวิงเวลาออกไปเรื่อยๆ จนน่าหงุดหงิด จากคนที่เราไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า แล้วเราจะเชื่อใจเค้าได้อย่างไร มั่นใจได้อย่างไรว่าการโอนเงินไปนั้นจะไม่สูญเปล่า
ผมจะขอใช้ประสบการณ์โดยตรงของผมที่ซื้อสินค้าตามร้านต่างๆ ผ่านทางเว็บบอร์ด และเว็บไซต์ขายสินค้าทั่วไปมาประกอบนะครับ ซึ่งที่ผ่านมา ผมไม่เคยโดนโกงสินค้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว (ไม่ต้องมาอ้างว่าดวงดีนะ เพราะซื้อหวยไม่เคยถูก ดังนั้นโชคไม่เกี่ยวแน่นอน)
ร้านค้า เว็บไซต์และบุคคลที่เผยแพร่ต่อไปนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องผลประโยชน์กับเจ้าของกระทู้ใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับร้านค้าเปิดที่มีข้อมูลพร้อมเปิดเผยอยู่บนเว็บไซต์ของเจ้าของอยู่แล้ว ผมขอนำมาเผยแพร่เพื่อประกอบการทำข้อมูล (อันที่จริงยังไม่ได้ขอกับเจ้าของเป็นการส่วนตัว แต่เห็นว่าเป็นข้อมูลเปิดอยู่แล้ว ถ้ามัวแต่เบลอเดี๋ยวจะพากันดูไม่รู้เรื่องพอดี แล้วอีกอย่างข้อมูลเหล่านี้ก็สามารถสืบค้นได้จาก Google อยู่แล้ว ดังนั้นจะเบลอภาพไป ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนักหรอก) ส่วนข้อมูลที่เป็นส่วนบุคคลไม่ใช่ประเภทร้านเปิด ผมขอสงวนไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบค้นและเป็นตัวอย่างเท่านั้นครับ
ผมจะยกตัวอย่างหลายๆ กรณีให้เข้าใจ ดังนี้
ซื้อของออนไลน์ผ่านเว็บบอร์ดทั่วไป #1 บอร์ดรวมมิตร
เริ่มกันที่เว็บแรก
www.overclockzone.com แหล่งขายสินค้าหลากชนิดผ่านเว็บบอร์ด เน้นทางด้าน IT เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมเคยซื้อ Memory Card จากคนขายในนี้ที่กระทู้ของ Camera ที่ overclockzone.com/forums/showthread.php?t=1634210
สินค้าที่ผมซื้อคือ Sandisk SDHC Extreme Class10 45MB/s 16GB ราคา 790 บาท ณ.ตอนนั้น
เอาล่ะ ดูหน้าร้านเว็บบอร์ดก็มีสินค้าเยอะแยะเนอะ ราคาถูกกว่าตลาดบ้างร้านทั่วไปด้วยแหล่ะ ผมเริ่มตรวจสอบจาก
วันที่โพสต์ ดูทำไม ? ก็ดูเพื่อเชื่อมโยงกับวันที่แก้ไขข้อความล่าสุด เพราะหากเป็นร้านค้าที่ขายสินค้าสม่ำเสมอ เค้ามักจะต้องมีการอัพเดตสินค้าอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเพิ่มเข้าหรือลบออก ซึ่งจะบ่งบอกระยะเวลาการขายได้เป็นอย่างดีว่า เริ่มขายมานานเท่าไหร่แล้ว ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ
ดูจากวันที่แก้ไขล่าสุด แสดงว่าเจ้าของร้านยังสนใจร้านตัวเองอยู่นะ
ต่อไป ดูวันที่เข้ามาเป็นสมาชิก ก็ถือว่านานพอดู แต่อันนี้ก็เอาไว้แค่ประกอบการตัดสินใจพื้นฐาน เพราะถ้าหากเป็นสมาชิกหน้าใหม่ ยังไม่มีประวัติการซื้อขาย ผมก็จะขอผ่านไปก่อน
ดูจาก Verified Member ซึ่งพื้นฐานของเว็บบอร์ดซื้อขายที่นี่ก็คือ จะมีการยืนยันตัวตนร้านค้าที่ถูกต้อง ที่ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่า คงไม่ใช่พวกมั่วนิ่มมาโพสต์เล่นล่ะนะ
ต่อไป ตรวจสอบข้อมูลติดต่อของผู้ขาย หาให้ได้มากที่สุด
ไอที่ผมชี้ๆ ไว้นั่นอะ เอาไปสืบค้นข้อมูลให้หมด ทั้งชื่อ สกุล ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทร ที่อยู่ร้าน, ซึ่งร้านค้าที่ดำเนินกิจการโดยสุจริตมักจะไม่ปิดบังข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะต้องการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและสะดวกในการซื้อสินค้ามากที่สุด ในเมื่อเปิดเผยขนาดนี้ ก็เอาไปค้นเลย ค้นจากไหน? ไม่ต้องถึงกับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ DSI หรอกนะครับ เอาแค่ google ก็พอ
ค้นยังไง
ก็เอาชื่อไปค้นเลยอย่างแรก ซึ่งเทคนิคการหาจาก google ก็คือ ให้เราพิมพ์ Keyword ไปพร้อมกับข้อสงสัย เช่น
อุ้ย แรงไปป่าว ไม่โกรธนะครับ ผมพิมพ์โดยการใส่เครื่องหมาย Double Quote กำกับไว้ เพื่อต้องการกรอง Keyword ให้มีแต่คำนี้เท่านั้น พร้อมข้อสงสัยคือ โกง เพราะถ้าหากมีคดีอยู่ ก็มักจะต้องมีเจ้าทุกข์มาก่อน ซึ่งเจ้าทุกข์ก็มักจะไปบ่นตามเว็บบอร์ดเช่นกัน ทำให้ google สามารถเก็บ Cache ไว้ได้ และถ้ามีผู้ขายที่โกงจริงแน่นอนว่าผลลัพธ์มันก็จะเกิดขึ้นใน google เมื่อเราค้นหาชื่อของบุคคลเหล่านั้น ลองนำรายชื่อคนที่โกงการขายไปค้านหาดูตาม google สิครับ จะขึ้นยาวมาเป็นหางว่าวเลย ถ้าหากพบเช่นนั้น ก็อย่าไปซื้อเลยครับ ประวัติไม่ดีมีแต่เสีย แต่สำหรับข้อมูลของผู้ขายรายนี้ ผ่านครับ
ค้นต่อไป ถึงประวัติการขายสินค้าชนิดอื่นว่ามีหรือไม่ ผมก็สุ่มเอาเลขที่บัญชีไปสืบค้นต่อ
ขายเว็บอื่นเหมือนกันนะเนี่ย ผมก็จะไปดูต่อที่ดีลฟิช ดูซิ๊ว่าเค้าขายอะไรอีก
ดูท่าทางเจ้านี้จะขายสินค้าแนวไอทีเป็นส่วนมาก ผมก็อ่านข้อมูลต่อไปเรื่อยๆ
ก็ยังไม่ผิดปกติ ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลอื่นๆ ยังตรงกัน เพราะบางครั้งหากข้อมูลจากเว็บหนึ่งไม่ตรงกัน พอไปขายอีกเว็บหนึ่งก็เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนร้าน แต่บัญชีเดียวกัน อันนี้ก็ต้องตามไปสืบอีกว่า เพราะเหตุใดถึงไม่ตรงกัน มีการเปิดสาขาอื่น หรือร้านหุ้นส่วนหรือเปล่า แต่กรณีนี้สำหรับผม ผ่านครับ
หากมีเว็บอื่นๆ ที่ผู้ขาย ได้ขายสินค้าไว้ ก็ควรคลิกเข้าไปอ่านเพื่อตรวจสอบให้มากที่สุดเท่าที่จะอ่านได้นะ อย่าไปเชื่อแค่เว็บสองเว็บแล้วจบ พยายามหาให้ได้เยอะๆ อ่านมากๆ แล้วเก็บไว้เป็นข้อมูล
ยังไม่จบ ผมก็เอาอีเมลไปหาข้อมูลต่อ พร้อมสิ่งที่สงสัยแบบเดิม
เออะเห่อ ขายของไอทีอีกแล้ว
ก็น่าจะพอสรุปได้ว่า เจ้านี้เค้าขายของแนวนี้นั่นแหล่ะ
สิ่งที่เราต้องตรวจสอบก็มีอีก นั่นคือ Feedback จากลูกค้า อ่านให้เยอะครับ ดูว่าผลตอบรับเป็นอย่างไร ลูกค้าเข้ามาถามแล้วมีการตอบกลับหรือไม่ หรือมีแต่เชียร์สินค้าอย่างเดียว ไม่มีคอมเม้นท์อื่นเลย อันนี้อาจะเป็นหน้าม้าก็ได้ วิธีตรวจสอบคือ ให้นำคอมเม้นท์เหล่านั้น ซึ่งผมคัดเอาแต่คอมเม้นท์แนวชื่นชม หรือขอบคุณกับร้านค้า ไปค้นหาครับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับร้านหรือเปล่า
ตัวอย่างนี้ อาจจะเป็นเพื่อน พี่น้องกัน มาออกหน้าออกตาแทนกันก็ได้ว่า สั่งซื้อแล้วนะ ได้รับแล้วครับผม อะไรแนวนี้ ผมก็จะเอา Display name ของคนนี้ไปค้นหาต่อ
ซึ่งเท่าที่เข้าไปอ่านตามผลลัพธ์ก็พบว่า ลูกค้าคนนี้น่าจะเป็นคนที่ชอบเล่นกล้อง และมีประวัติการซื้อของในเน็ตมาบ้าง แต่ไม่มีรายงานการเชียร์สินค้าของร้านนี้ แสดงว่าก็น่าจะไม่ใช่หน้าม้า ซึ่งเมื่อผมอ่านผลลัพธ์ทั้งหมดจาก google แล้ว ผ่านครับ
แผนที่ร้าน ยิ่งถ้ามีมาให้ด้วยล่ะก็ หาเลยครับ แต่ว่า ผมอยู่ กทม. ส่วนร้านอยู่ตั้งเชียงใหม่ จะไปยังไง
ผมก็นั่ง Google Map ไปสิครับ ตั๋วฟรี
อ้าว กรรม เห็นห้างขนาดปานกลาง ร้านค้าอยู่ด้านในไม่สามารถมองเห็นได้ อันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้มากครับ แต่ถ้าเป็นร้านค้าทั่วไปที่อ้างว่ามีหน้าร้านเป็นของตนเอง สามารถใช้วิธีนี้ในการค้นหาหน้าร้านได้ครับว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่ง Google จะเก็บภาพย้อนหลังไปประมาณ 2 ปีนะ ถ้าร้านเค้าเพิ่งเปิดใหม่ก็อย่าไปโวยวายล่ะว่าหาร้านไม่เจอ
กรณีนี้ทำอย่างไรได้บ้างถ้าต้องการทราบว่าร้านนั้นมีอยู่จริง
A.โทรไปหาร้านนั้นเลย
b.โทรไปถามฝ่ายอาคาร
ก็ต้องเลือกโทรไปถามฝ่ายอาคารครับ ค้นหาจาก google เช่นเคยว่า อาคารดังกล่าวมีเบอร์ติดต่ออะไรได้บ้าง แล้วลองสอบถามชื่อร้านหรือเบอร์โทรร้านดูว่าสามารถตอบได้ไหม ถ้ามีชื่อร้านดังกล่าวระบุในโซนที่ถูกต้อง และเบอร์โทรตรงกัน ก็ถือว่าผ่าน อันนี้แล้วแต่ฝ่ายอาคารนะครับว่าเค้าจะให้ข้อมูลกับเราได้หรือไม่
เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้แล้ว ก็ทำการติดต่อไปยังร้านได้เลยครับ แล้วโทรสอบถามสินค้าก่อนว่ามีพร้อมจำหน่ายหรือไม่ ซึ่งการพูดคุยนั้นให้จับพฤติกรรมการพูดคุยด้วยนะ เช่น รีบรนขายสินค้าเกินไปหรือเปล่า หรือเร่งแต่จะโอนเงินอย่างเดียวหรือไม่ ถ้าต้องการขายสินค้า ผู้ขายมักจะให้ข้อมูลปกติตามที่เราถามไป เมื่อติดต่อกันเรียบร้อยแล้วให้ยืนยันจำนวนเงิน แล้วตรวจสอบว่าตรงกับที่ระบุไว้ในเว็บบอร์ดหรือไม่
เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งโอนเงิน ลองนั่งทบทวนดูอีกนิดนึงว่า มีอะไรที่เราน่าจะค้นหาได้อีกหรือไม่ อย่างเช่น มีคนอื่นเคยซื้อสินค้าไปบ้างแล้วหรือยัง อะ ถ้างั้นกลับไปอ่านเว็บบอร์ดใหม่อีกรอบ
พบว่ามีการจัดส่งสินค้าด้วยพัสดุ แต่ นี่เป็นการจัดฉากหรือเปล่า (คิดมากจัง จะซื้อได้ยังเนี่ย)
ก็เอารายชื่อลูกค้าที่เจ้าของร้านโพสต์นั่นแหล่ะครับ ไปหาข้อมูลจาก google ต่อเหมือนเดิม หรือลองสอบถาม PM ไปยังเจ้าตัวเลยก็ได้ว่าสินค้าเป็นอย่างไร เคยสั่งซื้อไหม แล้วถ้าเค้าตอบกลับมา ก็ขอให้อ่านด้วยมันสมอง อย่าหลงไปกับคำเชียร์สินค้าที่ลูกค้าคนอื่นบอกมา ผมก็จะลองเอาลูกค้าสักคนไปสืบค้นต่อดูว่า ลูกค้ารายนี้เป็นอะไรกับเจ้าของร้านรึเปล่า
นี่แหล่ะครับ พอได้ข้อมูลจาก google ออกมา ก็พยายามเข้าไปอ่านให้ได้มากที่สุด ว่าเคยมีประวัติการเชียร์สินค้าบ้างหรือเปล่า เพราะบางคนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่อง Username, Display name เลยนะครับจะบอกให้ กะว่าใช้ชื่อเดียวไปจนตาย ซึ่งถ้ามีข้อมูลเหล่านี้แสดงออกมาก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายว่า สมัครสมาชิกตามเว็บต่างๆ เพื่อเชียร์สินค้าอย่างเดียว แต่กรณีนี้ เท่าที่ผมอ่านดูจากผลลัพธ์ ผ่านครับ
เป็นอันว่า ร้านนี้ก็น่าเชื่อถือครับ ผมก็จัดการโอนเงินไปให้แล้วก็ได้รับสินค้าเรียบร้อยไม่มีปัญหา
มีต่อนะ...