สะท้อนค่านิยมของพ่อแม่
เห็นเด็กที่ท่าทางเรียบร้อย เรียนเก่ง โปรไฟล์ดี อยากเป็น "หมอ" แล้วตัดสินจากสิ่งเหล่านี้ว่า "คนนั้นเป็นเด็กดี" "จะฝากอนาคตลูกสาวไว้ได้"
การเลี้ยงลูก(ไม่ได้หมายความว่าเลี้ยงแบบไหนดีกว่ากัน)
เปรียบเทียบระหว่าง แบบดาวกับแม่ดาว สไปรท์กับแม่สไปรท์
จะเห็นว่า สไปรท์มีความรับผิดชอบและสามารถดูแลแม่ เข้าใจแม่ มีมุมมองที่กว้างพอจะคุยปัญหาของแม่และเข้าใจปัญหาของตัวเอง และสามารถอยู่กับปัญหาเหล่านั้นได้ดีกว่าดาวมาก ซึ่งทั้งสองก็อยู่ในวัยมัธยมแท้ๆ
ส่วนดาว แม่เลี้ยงมาแบบปกป้องลูก คิดแทนลูก(พ่อแม่เด็กไทยเป็นแบบนี้เยอะ โดยเฉพาะสังคมเมือง) เนี้ยบทุกกระเบียด ทำให้ดาวเป็นเด็กอยู่ในโอวาท และอยู่ในจินตนาการ เห็นเงียบๆ แต่อยากรู้อยากลอง และคิดอะไรเองไม่ทันคน ตัดสินคนเหมือนกับแม่ พอมีปัญหาก็กลุ้มแต่ยังดีที่แก้ปัญหาได้ดี แม้จะตัดสินใจผิดไปแต่ก็แค่เกือบพลาดและมีสำนึกคิดได้
สไปรท์รู้จักการป้องกัน แถมยังพูดกับแม่เรื่องป้องกัน
ดาวรู้หน้าคนแต่หยั่งใจคนไม่ถึง ไม่รอบคอบที่จะป้องกัน และไม่สามารถพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ได้ ถึงแม่จะรักและถนุถนอมมากกกกกกกกกกกแค่ไหน กอดและหอมแก้มกันก่อนนอนทุกคืน สนิทกันจะตาย แต่เรื่องเพศหรือกินเหล้าเมายา อะไรที่เสี่ยงมากในวัยรุ่น และพบได้บ่อยในสังคม ดาวไม่สามารถพูดกับแม่ได้เลย
พอคุยไม่ได้ ก็หาทางระบายความเครียด หรือความสงสัย จินตนาการทางเพศของตัวเองกับนิยาย กับรูปวาด
ตอนนี้ดีมาก สะท้อนและให้แง่คิดกับผู้ปกครองมากกว่ากับเด็กอีกนะ (ในความเห็นของเรา)
เพราะสังคมไทยยังหล่อหลอมให้ผู้ปกครอง คิดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องต้องห้าม ห้ามที่จะปรึกษา ห้ามที่จะคุยถึง ห้ามที่จะล่วงรู้ก่อนวัยอันควร ทั้งที่มันถึงวัยอันควรและเด็กต้องเผชิญแน่ๆ ไม่ที่บ้าน ก็ข้างนอกบ้าน แต่เด็กไม่สามารถถามคนเป็นพ่อแม่ได้เลย เพราะกลัวพ่อแม่ไม่ยอมรับ
ถ้าเราเปิดใจกับลูกหลานตรงๆ และแนะนำในสิ่งที่เหมาะสม ไม่ดูถูกว่าเด็กเป็นเด็ก รับรู็เรื่องเหล่านี้ไม่ได้
ไม่จริงหรอก ที่พ่อแม่ชอบคิดแบบนี้เพราะกลัวจะอธิบายลูกไม่ได้รึเปล่า หรือไม่ยอมรับความจริงในสังคม หรือยอมรับแต่ไม่อยากให้ลูกเห็นทั้งๆ ที่ลูกเห็นอยู่เต็มตา
เด็กแต่ละวัยมีวุฒิภาวะในการรับรู้เรื่องราวไม่เหมือนกัน แต่ละวัยถ้าพ่อแม่ไปอ่านหนังสือจิตวิทยาจะพบว่าทุกช่วงวัยเด็กสนใจเรื่องเพศ
แต่เราจะเข้าถึงเขาอย่างไร ให้เขารู้เรื่องนี้ตามความเหมาะสมของวัยเขา
อย่าพยายามปกปิด หรือเบี่ยงเบนธรรมชาติของเด็ก เพราะเด็กสนใจเรื่องเพศทุกคนทุกวัย เด็กอายุ 4-5 ขวบก็มีช่วยตัวเองเป็น และเด็กพวกนั้นก็รู้ว่าการช่วยตัวเอง หรืออารมณ์ทางเพศของตัวเองจะให้พ่อแม่รู้ไม่ได้เด็ดขาด
Hormone#8 ฝากข้อคิดถึงพ่อแม่มากกว่าให้เด็กคิด
เห็นเด็กที่ท่าทางเรียบร้อย เรียนเก่ง โปรไฟล์ดี อยากเป็น "หมอ" แล้วตัดสินจากสิ่งเหล่านี้ว่า "คนนั้นเป็นเด็กดี" "จะฝากอนาคตลูกสาวไว้ได้"
การเลี้ยงลูก(ไม่ได้หมายความว่าเลี้ยงแบบไหนดีกว่ากัน)
เปรียบเทียบระหว่าง แบบดาวกับแม่ดาว สไปรท์กับแม่สไปรท์
จะเห็นว่า สไปรท์มีความรับผิดชอบและสามารถดูแลแม่ เข้าใจแม่ มีมุมมองที่กว้างพอจะคุยปัญหาของแม่และเข้าใจปัญหาของตัวเอง และสามารถอยู่กับปัญหาเหล่านั้นได้ดีกว่าดาวมาก ซึ่งทั้งสองก็อยู่ในวัยมัธยมแท้ๆ
ส่วนดาว แม่เลี้ยงมาแบบปกป้องลูก คิดแทนลูก(พ่อแม่เด็กไทยเป็นแบบนี้เยอะ โดยเฉพาะสังคมเมือง) เนี้ยบทุกกระเบียด ทำให้ดาวเป็นเด็กอยู่ในโอวาท และอยู่ในจินตนาการ เห็นเงียบๆ แต่อยากรู้อยากลอง และคิดอะไรเองไม่ทันคน ตัดสินคนเหมือนกับแม่ พอมีปัญหาก็กลุ้มแต่ยังดีที่แก้ปัญหาได้ดี แม้จะตัดสินใจผิดไปแต่ก็แค่เกือบพลาดและมีสำนึกคิดได้
สไปรท์รู้จักการป้องกัน แถมยังพูดกับแม่เรื่องป้องกัน
ดาวรู้หน้าคนแต่หยั่งใจคนไม่ถึง ไม่รอบคอบที่จะป้องกัน และไม่สามารถพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ได้ ถึงแม่จะรักและถนุถนอมมากกกกกกกกกกกแค่ไหน กอดและหอมแก้มกันก่อนนอนทุกคืน สนิทกันจะตาย แต่เรื่องเพศหรือกินเหล้าเมายา อะไรที่เสี่ยงมากในวัยรุ่น และพบได้บ่อยในสังคม ดาวไม่สามารถพูดกับแม่ได้เลย
พอคุยไม่ได้ ก็หาทางระบายความเครียด หรือความสงสัย จินตนาการทางเพศของตัวเองกับนิยาย กับรูปวาด
ตอนนี้ดีมาก สะท้อนและให้แง่คิดกับผู้ปกครองมากกว่ากับเด็กอีกนะ (ในความเห็นของเรา)
เพราะสังคมไทยยังหล่อหลอมให้ผู้ปกครอง คิดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องต้องห้าม ห้ามที่จะปรึกษา ห้ามที่จะคุยถึง ห้ามที่จะล่วงรู้ก่อนวัยอันควร ทั้งที่มันถึงวัยอันควรและเด็กต้องเผชิญแน่ๆ ไม่ที่บ้าน ก็ข้างนอกบ้าน แต่เด็กไม่สามารถถามคนเป็นพ่อแม่ได้เลย เพราะกลัวพ่อแม่ไม่ยอมรับ
ถ้าเราเปิดใจกับลูกหลานตรงๆ และแนะนำในสิ่งที่เหมาะสม ไม่ดูถูกว่าเด็กเป็นเด็ก รับรู็เรื่องเหล่านี้ไม่ได้
ไม่จริงหรอก ที่พ่อแม่ชอบคิดแบบนี้เพราะกลัวจะอธิบายลูกไม่ได้รึเปล่า หรือไม่ยอมรับความจริงในสังคม หรือยอมรับแต่ไม่อยากให้ลูกเห็นทั้งๆ ที่ลูกเห็นอยู่เต็มตา
เด็กแต่ละวัยมีวุฒิภาวะในการรับรู้เรื่องราวไม่เหมือนกัน แต่ละวัยถ้าพ่อแม่ไปอ่านหนังสือจิตวิทยาจะพบว่าทุกช่วงวัยเด็กสนใจเรื่องเพศ
แต่เราจะเข้าถึงเขาอย่างไร ให้เขารู้เรื่องนี้ตามความเหมาะสมของวัยเขา
อย่าพยายามปกปิด หรือเบี่ยงเบนธรรมชาติของเด็ก เพราะเด็กสนใจเรื่องเพศทุกคนทุกวัย เด็กอายุ 4-5 ขวบก็มีช่วยตัวเองเป็น และเด็กพวกนั้นก็รู้ว่าการช่วยตัวเอง หรืออารมณ์ทางเพศของตัวเองจะให้พ่อแม่รู้ไม่ได้เด็ดขาด