สโมสรจังหวัดระยอง
๒/๔ ถ.ศรีเมือง ต.ท่าประดู่
อ.เมือง จ.ระยอง ๒๑๐๐๐
๑๒ กรกฏาคม ๒๕๕๖
เรื่อง ขอให้ปกป้องอธิปไตยของชาติ
เรียน ท่านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย
ตามที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พยายามแก้ไข กฏ ระเบียบ ข้อบังคับของสมาคมฯโดยอ้างว่าเป็นธรรมนูญที่ฟีฟ่ากำหนดอีกทั้งฟีฟ่ามีหนังสือสั่งการบังคับให้สมาคมฟุตบอลฯปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้นจนสร้างความสับสนให้คนไทยทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ตามความที่ทราบแล้วนั้น ข้าพเจ้านายภีมเดช อมรสุคนธ์ นายกสโมสรจังหวัดระยอง ในฐานะสโมสรสมาชิกของสมาคมฟุตบอลฯ ขอเรียนว่า
ในการแก้ไขกฏ ระเบียบ ข้อบังคับ ของสมาคมฟุตบอลฯนอกจากจะต้องผ่านมติ ๒ ใน ๓ ของที่ประชุมใหญ่แล้ว กฏ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่แก้ไขใหม่นั้นจะต้องไม่ขัดต่อกฏหมายของประเทศ อันถือเป็นสาระสำคัญที่สุดด้วย มิฉะนั้นจะบังคับใช้ไม่ได้ตาม ปพพ.มาตรา ๘๒ วรรค สามที่บัญญัติไว้ว่า “ถ้านายทะเบียนเห็นว่าไม่อาจรับจดทะเบียนได้เนื่องจากวัตถุประสงค์ของสมาคม ขัดต่อกฏหมาย..............หรือผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนไม่แก้ไขหรือเปลี่ยน แปลงให้ถูกต้องภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่งของนายทะเบียน ให้นายทะเบียนมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนและแจ้งคำสั่งพร้อมด้วยเหตุผลที่ไม่รับจดทะเบียนไปยังผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนโดยไม่ชักช้า” ซึ่งหากพิจารณาธรรมนูญใหม่ของสมาคมที่คณะผู้บริหารผู้รักษาการกำลังผลักดันให้ใช้นั้น จะมีหลายข้อมากที่ขัดต่อบทบัญญัติของกฏหมายแห่งประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ ๒๑ ของธรรมนูญใหม่ที่ลดจำนวนสมาชิกที่มีสิทธิ์เลือกตั้งนายกฯจากจำนวน๑๘๔สโมสรสมาชิกให้เพียง ๗๒ สโมสรโดยผู้มีสิทธิ์เลือกนายกไม่จำเป็นต้องเป็นสโมสรสมาชิก ซึ่งการกำหนด ๗๒ เสียงดังกล่าวนั้นจะฝ่าฝืน ปพพ.มาตรา ๘๒ วรรคสองที่บัญญัติไว้ว่า “สมาชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน”อย่างน้อย สองประเด็นคือ ประเด็นที่๑ ในจำนวน ๗๒ เสียงนั้น บางสโมสรไม่ได้เป็นสมาชิก จึงไม่ได้สิทธิ์ลงคะแนนตามนัยยะแห่งกฏหมายนี้ และประเด็นที่.๒ คือจำนวน ๗๒ เสียงนั้นทำให้สมาชิกสโมสรบางสโมสรเสียสิทธิ์หนึ่งเสียงที่ตนเองมีสิทธิ์ไป จึงไม่สามารถบังคับใช้ได้เช่นกัน
อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นข้าพเจ้าจึงใคร่ร้องขอมายังท่าน ขอท่านได้โปรดสั่งการโดยเด็ดขาดให้คณะกรรมการรักษาการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯหยุดการกระทำใดๆที่เป็นการผ่าฝืนกฏ ระเบียบ ข้อบังคับและกฏหมายแห่งราชอาณาจักรไทยในทันทีอีกทั้งขอให้ท่านทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยทางกฏหมายของรัฐไทยโดยทำหนังสือแจ้งไปยัง “ฟีฟ่า”ว่า กฏ ระเบียบ หรือข้อบังคับใดๆของ “ฟีฟ่า”นั้น ไม่อาจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฏหมายของรัฐอธิปไตยอย่างเช่นประเทศไทยนี้ได้ ในทุกกรณี
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามหนังสือร้องขอนี้ด้วย
ขอแสดงความนับถือ
(นายภีมเดช อมรสุคนธ์)
นายกสโมสรจังหวัดระยอง
ตอบโต้คนขายชาติ
๒/๔ ถ.ศรีเมือง ต.ท่าประดู่
อ.เมือง จ.ระยอง ๒๑๐๐๐
๑๒ กรกฏาคม ๒๕๕๖
เรื่อง ขอให้ปกป้องอธิปไตยของชาติ
เรียน ท่านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย
ตามที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พยายามแก้ไข กฏ ระเบียบ ข้อบังคับของสมาคมฯโดยอ้างว่าเป็นธรรมนูญที่ฟีฟ่ากำหนดอีกทั้งฟีฟ่ามีหนังสือสั่งการบังคับให้สมาคมฟุตบอลฯปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้นจนสร้างความสับสนให้คนไทยทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ตามความที่ทราบแล้วนั้น ข้าพเจ้านายภีมเดช อมรสุคนธ์ นายกสโมสรจังหวัดระยอง ในฐานะสโมสรสมาชิกของสมาคมฟุตบอลฯ ขอเรียนว่า
ในการแก้ไขกฏ ระเบียบ ข้อบังคับ ของสมาคมฟุตบอลฯนอกจากจะต้องผ่านมติ ๒ ใน ๓ ของที่ประชุมใหญ่แล้ว กฏ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่แก้ไขใหม่นั้นจะต้องไม่ขัดต่อกฏหมายของประเทศ อันถือเป็นสาระสำคัญที่สุดด้วย มิฉะนั้นจะบังคับใช้ไม่ได้ตาม ปพพ.มาตรา ๘๒ วรรค สามที่บัญญัติไว้ว่า “ถ้านายทะเบียนเห็นว่าไม่อาจรับจดทะเบียนได้เนื่องจากวัตถุประสงค์ของสมาคม ขัดต่อกฏหมาย..............หรือผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนไม่แก้ไขหรือเปลี่ยน แปลงให้ถูกต้องภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่งของนายทะเบียน ให้นายทะเบียนมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนและแจ้งคำสั่งพร้อมด้วยเหตุผลที่ไม่รับจดทะเบียนไปยังผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนโดยไม่ชักช้า” ซึ่งหากพิจารณาธรรมนูญใหม่ของสมาคมที่คณะผู้บริหารผู้รักษาการกำลังผลักดันให้ใช้นั้น จะมีหลายข้อมากที่ขัดต่อบทบัญญัติของกฏหมายแห่งประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ ๒๑ ของธรรมนูญใหม่ที่ลดจำนวนสมาชิกที่มีสิทธิ์เลือกตั้งนายกฯจากจำนวน๑๘๔สโมสรสมาชิกให้เพียง ๗๒ สโมสรโดยผู้มีสิทธิ์เลือกนายกไม่จำเป็นต้องเป็นสโมสรสมาชิก ซึ่งการกำหนด ๗๒ เสียงดังกล่าวนั้นจะฝ่าฝืน ปพพ.มาตรา ๘๒ วรรคสองที่บัญญัติไว้ว่า “สมาชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน”อย่างน้อย สองประเด็นคือ ประเด็นที่๑ ในจำนวน ๗๒ เสียงนั้น บางสโมสรไม่ได้เป็นสมาชิก จึงไม่ได้สิทธิ์ลงคะแนนตามนัยยะแห่งกฏหมายนี้ และประเด็นที่.๒ คือจำนวน ๗๒ เสียงนั้นทำให้สมาชิกสโมสรบางสโมสรเสียสิทธิ์หนึ่งเสียงที่ตนเองมีสิทธิ์ไป จึงไม่สามารถบังคับใช้ได้เช่นกัน
อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นข้าพเจ้าจึงใคร่ร้องขอมายังท่าน ขอท่านได้โปรดสั่งการโดยเด็ดขาดให้คณะกรรมการรักษาการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯหยุดการกระทำใดๆที่เป็นการผ่าฝืนกฏ ระเบียบ ข้อบังคับและกฏหมายแห่งราชอาณาจักรไทยในทันทีอีกทั้งขอให้ท่านทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยทางกฏหมายของรัฐไทยโดยทำหนังสือแจ้งไปยัง “ฟีฟ่า”ว่า กฏ ระเบียบ หรือข้อบังคับใดๆของ “ฟีฟ่า”นั้น ไม่อาจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฏหมายของรัฐอธิปไตยอย่างเช่นประเทศไทยนี้ได้ ในทุกกรณี
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามหนังสือร้องขอนี้ด้วย
ขอแสดงความนับถือ
(นายภีมเดช อมรสุคนธ์)
นายกสโมสรจังหวัดระยอง