ช่วยวิเคราะห์การลาออกจากงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับกฏหมายในกรณีนี้หน่อยครับ

อันนี้มีคนเค้ามาปรึกษาครับ ผมไม่รู้จะหาคำตอบให้เค้ายังไง อ่านในเนทแล้วเอามา Match กับสถานการณ์ของเพื่อนคนนี้ก็ไม่ตรงซะทีเดียว เลยอยากมาปรึกษา เกี่ยวกับการฟ้องร้องจากบริษัทกับพนักงานที่ลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้า 30 วัน

ก่อนอื่นขอโทษด้วยที่เรื่องอาจจะยาวซักหน่อย เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ผมเห็นว่ามันเป็นประเด็น

อันนี้ผมขอแยกเป็นข้อๆตามด้านล่างนี้นะครับ

สาเหตุที่ออก
- พี่คนนี้ อายุงานประมาณ เกือบ 3 ปี
- โดนขอร้องแกมบังคับให้ทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ มาเป็นเวลาเกือบสองปี (ได้หยุดเป็นครั้งคราว + ไม่ได้โอที หรือค่าทำงานล่วงเวลา + บางครั้งทำงานติดต่อกัน 4 อาทิตย์ไม่ได้หยุดเลย)
- ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 21:00 จันทร์ - เสาร์
- วันอาทิตย์ ทำงานเฉพาะตอนเช้า
- ทนการพูดจาเสียดสีจากหัวหน้าไม่ไหว
- ทนการบิดเบือนความจริงจากหัวหน้าไม่ไหว เช่น เวลามีงานนอกสถานที่ ไม่ได้ออกค่าอะไรให้เลย แต่กลับไปพูดกับคนอื่นว่าออกค่าใช้จ่ายให้พี่คนนี้ทุกอย่าง


ซึ่งในวันที่ทำการลาออก ทางหัวหน้าได้พูดจาอย่างรุนแรง (ผมว่าน่าจะแรงทั้งสองฝ่าย) ในสถานการณ์ตึงเครียดส่งผลให้พี่เค้าขอหัวหน้าให้มีผลการลาออกทันที และหัวหน้าก็ไล่ว่าอย่ากลับมาให้เค้าเห็นหน้าอีก + สาปแช่งต่างๆนานา.... (ไม่มีพยาน เพราะอยู่ในห้องปิดสองคน) แต่ไม่ได้รับใบอนุมัติให้ลาออกจากงานอย่างเป็นทางการ ....อันนี้ผมค่อนข้างเชื่อจากที่เล่าจากพี่คนนี้เค้า เพราะผมเองก็พอจะรู้จักกับคนที่เป็นหัวหน้าอยู่บ้าง และพอทราบว่าเค้าเป็นคนอย่างไร

ด้วยเหตุการณ์ข้างต้น จากพี่เค้าวิเคราะห์แล้วว่าจะไม่มีผลกระทบใดใดกับบริษัท เพราะตอนนั้นทางบริษัทได้จ้างคนมาเพิ่มให้มาทำตำแหน่งเดียวกันมาล่วงหน้าแล้วประมาณหนึ่งเดือน พูดง่ายๆคือเป็นการจงใจบีบให้ลาออกเองอย่างกลายๆ เค้าเลยไม่กลับไปทำงานอีกเลยนับจากวันนั้น


ทีนี้ เรื่องมันมาเกิดว่า หัวหน้าคนนี้กับพี่ที่ลาออก มีเพื่อนที่รู้จักทั้งสองฝ่ายเยอะ แล้วเพื่อนเกือบทั้งหมดก็มักจะอยู่สนับสนุนพี่ที่ลาออกเพราะทุกคนรู้ว่าหัวหน้าคนนี้เป็นอย่างไร (เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแต้นอย่างรุนแรง) ทำให้ฝั่งหัวหน้าขู่ผ่านเพื่อนไปอีกทีว่าจะฟ้องร้องพี่ที่ลาออกเพราะสร้างความเสียหายให้บริษัทเค้าจากการลาออกไม่แจ้งล่วงหน้า

ทางพี่ที่ลาออกไปแล้วก็ไม่อยากมีเรื่อง แต่ก็เป็นคนเงียบๆมากถึงมากที่สุด ก็เลยกลัวว่าจะมีปัญหาทีหลัง เลยอยากทราบว่าในสถานการณ์นี้ทางบริษัทเค้าสามารถฟ้องร้องได้จริงหรือไม่ และมีขั้นตอนอย่างไรครับ แล้วทางพี่เค้าเองสามารถปกป้องตัวเองอย่างไรบ้าง

Note:
- หัวหน้าที่เอ่ยข้างต้น เป็นเจ้าของบริษัทครับ
- ทุกวันนี้หัวหน้ายังพูดจาแย่ๆ และสาปแช่งพี่ที่ออกนี่อยู่เลยครับ
- บริษัทนี้เป็น SME ครับ ไม่มีแผนก HR และไม่มีนิติ
- ขอtag สุขภาพจิต กับ มนุษย์เงินเดือน ด้วยนะครับ พอดีผมว่าจะเป็นประโยชน์กับคนทำงานคนอื่นๆด้วย
- ผมไม่เกี่ยวในเหตุการณ์นี้ครับ แต่เห็นใจพี่ที่ลาออกนี้ อยากหาทางช่วยครับ
- ที่พี่คนนี้ทนอยู่ได้เกือบสามปี เพราะเดิมทีเค้าเป็นเพื่อนกันมาก่อนครับ ก่อนจะมาเป็นเจ้าของกับลูกจ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
จับความได้ว่า
1.ทำล่วงเวลา ทำงานวันหยุด โดยไม่ได้รับค่าจ้างส่วนนี้เป็นเวลา 2ปี
2.มีการปะทะอารมณ์กันและ นายจ้างกล่าวด้วยวาจาว่า ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า แล้วออกจากงาน

ตอบ.
1.เชื่อว่า นายจ้างไม่ฟ้องแน่นอน แค่ขู่ ตามประสาหมาชอบเห่า เพราะฟ้องไปมีแต่เสียกับเสีย เรื่องที่กล่าวด้วยวาจา ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า แม้จะไม่มีพยาน หาก นายจ้างฟ้องจริง ก็ให้ยกเรื่องนี้ขึ้นต่อสู้ บรรยากาศหน้าบัลลังก์ ที่ต้องสาบานต่อสิ่งศักดิ์ตอนสืบพยานนั้น คนปากดีพวกนี้ ส่วนใหญ่จะหน้าซีดขาสั่น ไม่กล้าโกหก และแม้ว่า จะกล้าโกหกโดยไม่รู้สึกละอาย ว่าไม่ได้ไล่ออก แต่มูลฟ้องที่จะทำให้ศาลเชื่อว่าเสียหาย ต้องบรรยายเป็นภาพชัดเจนว่า เสียหายอะไร เป็นเงินเท่าไร รับรองว่าถึงตอนนี้ศาลไล่หงายท้อง  สรุปคือ ไม่ต้องกลัวมัน มันไม่ฟ้องหรอก

2.แนะนำว่า ให้ฟ้องค่าชดเชยการเลิกจ้าง ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า แม้คำพูดนั้น จะไม่มีพยาน ลองดูปฏิกิริยาคนพวกนี้ที่หน้าบัลลังก์ศาลแรงงาน จะกล้าพลิกลิ้นหรือไม่ โดยสามัญสำนึก ไม่มีลูกจ้างคนใหนอยากตกงาน เพราะกระทบต่อการยังชีพ ตรงนี้ศาลมีดุลยพินิจในหลายคดี เป็นบรรทัดฐานอยู่แล้ว  คำพูดของนายจ้างที่บอกว่าไม่ได้ไล่ออก และลูกจ้างคนนี้ทำงานมาเกือบ 3 ปี ถ้าออกจากงานแล้วไม่ได้ไปทำที่ใหม่ทันที ส่วนใหญ่ศาลจะหาเหตุจูงใจว่าทำไมลูกจ้างถึงยอมตกงาน หากลูกจ้างออกจากงานแล้วว่างงานอยู่ เห็นมีแต่นายจ้าง นั่นแหละต้องจ่ายค่าชดเชย เพราะฉะนั้น ฟ้องครับ อย่าได้ช้า

3.แนะนำให้ฟ้องเรียกค่าทำงานวันหยุด ค่าล่วงเวลา ทั้งหลายทั้งปวงที่สะสมมา ฟ้องเรียกเอามาเป็นของเราให้หมด 2ปีเศษนี่ หลายแสนอยู่  ฟ้องอย่างเร็วอย่าได้ช้า เงินทั้งนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่