สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
ตลกจังครับสังคมนี้
คนหมู่น้อย ทำความลำบากให้คนหมู่มาก
คนหมู่มาก ต้องป้องกันตัวเอง
ไม่สบาย 1 คน อีก 100 คนมีหน้าที่ปิดปากป้องดัน
สู้คนเดียวปิดไม่ดีกว่าหรือ
จริงครับ เราควรป้องกันตัวเอง
จริงครับ ผมพูดในนี้ คนที่ผมกล่าวถึงอาจจะไม่ได้ยิน
แต่ผมแค่ต้องการรณรงค์ให้คนที่ป่วย รับผิดชอบต่อสังคม ง่ายๆ แค่ใส่ผ้าปิดปาก
คนในพันทิปได้อ่านตรงนี้ อาจจะช่วยไปเตือนคนรู้จัก
อาจจะไม่เยอะ แต่สังคมดีขึ้นมานิดนึงก็ยังดี
ผมถึงบอกไงครับ
ผมป้องกันโดยอุ้มลูกไปนั่งไกลๆ
ลูกผมเพิ่ง 1 ขวบ เด็กไม่ยอมใส่ผ้าปิดปากหรอกครับ
ประเทศที่เจริญ
คนป่วยมีหน้าที่ป้องกันให้ตัวเอง ไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น
เค้าทำจนเป็นนิสัย ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก
เหมือนกับการที่เรารณรงค์
ทานอาหารใน foodcourt เสร็จแล้วให้รีบลุกให้คนอื่นนั่ง
ขึ้นบันไดเลื่อนให้ชิดขวา ฯลฯ
มารยาททสังคม และ จิตสำนึกทั้งนั้นครับ
คนหมู่น้อย ทำความลำบากให้คนหมู่มาก
คนหมู่มาก ต้องป้องกันตัวเอง
ไม่สบาย 1 คน อีก 100 คนมีหน้าที่ปิดปากป้องดัน
สู้คนเดียวปิดไม่ดีกว่าหรือ
จริงครับ เราควรป้องกันตัวเอง
จริงครับ ผมพูดในนี้ คนที่ผมกล่าวถึงอาจจะไม่ได้ยิน
แต่ผมแค่ต้องการรณรงค์ให้คนที่ป่วย รับผิดชอบต่อสังคม ง่ายๆ แค่ใส่ผ้าปิดปาก
คนในพันทิปได้อ่านตรงนี้ อาจจะช่วยไปเตือนคนรู้จัก
อาจจะไม่เยอะ แต่สังคมดีขึ้นมานิดนึงก็ยังดี
ผมถึงบอกไงครับ
ผมป้องกันโดยอุ้มลูกไปนั่งไกลๆ
ลูกผมเพิ่ง 1 ขวบ เด็กไม่ยอมใส่ผ้าปิดปากหรอกครับ
ประเทศที่เจริญ
คนป่วยมีหน้าที่ป้องกันให้ตัวเอง ไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น
เค้าทำจนเป็นนิสัย ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก
เหมือนกับการที่เรารณรงค์
ทานอาหารใน foodcourt เสร็จแล้วให้รีบลุกให้คนอื่นนั่ง
ขึ้นบันไดเลื่อนให้ชิดขวา ฯลฯ
มารยาททสังคม และ จิตสำนึกทั้งนั้นครับ
ความคิดเห็นที่ 18
เห็นด้วยนะคะ ทำไมคนสุขภาพดีๆ ทำไมต้องใส่ผ้าปิดปากด้วยอ่ะ คนป่วยต้องมีจิตสำนึกสิ
ผ้าปิดปากน่ะ ใส่มันรำคาญนะคะ ยิ่งเราใส่แล้วสิวขึ้นอีก
สมมติ คน 30 คน นั่้งด้วยกัน มีหวัดหนึ่งคน ทำไม 29 คนที่เหลือต้องเปลืองทรัพยากรเพื่อความไร้สำนึก มักง่าย เห็นแก่ตัวของคนเดียวด้วย
แค่ใส่ผ้าปิดปากแคต่คนเดียว
ผ้าปิดปากน่ะ ใส่มันรำคาญนะคะ ยิ่งเราใส่แล้วสิวขึ้นอีก
สมมติ คน 30 คน นั่้งด้วยกัน มีหวัดหนึ่งคน ทำไม 29 คนที่เหลือต้องเปลืองทรัพยากรเพื่อความไร้สำนึก มักง่าย เห็นแก่ตัวของคนเดียวด้วย
แค่ใส่ผ้าปิดปากแคต่คนเดียว
แสดงความคิดเห็น
ไป รพ (โดยเฉพาะคนเป็นแม่ หรือว่าที่แม่) แค่ผ้าปิดปาก...รบกวนมีสามัญสำนึกต่อสังคมนะครับ
วันอาทิตย์ เด็กเยอะมากๆๆๆ ต้องพาลูกออกมารอข้างนอก
ได้คิวแล้ว ค่อยพาเข้าไป
เพราะตอนนี้ทั้งหวัด ทั้งมือเท้าปาก ทั้งไข้เลือดออก ระบาดหนักเหลือเกิน
พอฉีดวัคซีนเสร็จ ก็ขึ้นไปทำธุระบางอย่างที่แผนกฝากครรภ์ (ไม่รู้ว่าจะเรียกแผนกอะไร)
ในแผนกนั้น ก็จะมีแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ นั่งรอพบหมอเต็มไปหมด
มีชายหญิงคู่หนึ่ง แต่งตัวดี เล่น smart phone กันคิกคักๆ
ผู้หญิงน่าจะท้องอ่อน พยาบาลเดินเข้ามาคุย ได้ความว่า "เป็นหวัด จึงมาพบแพทย์"
เวงกำ คุณท้อง และ เป็นหวัด มาพบแพทย์
แล้วทำไมไม่รู้จักหาที่ผ้ามาปิดปาก???
เห็นทำจมูกฟุดฟัด มีน้ำมูก
แล้วไม่คิดว่า หวัดที่เป็นอยู่ จะไปแพร่ใส่คนอื่นหรือ
โดยเฉพาะตรงนั้น เป็นแผนกฝากครรภ์
คนที่เคยตั้งครรภ์ หรือกำลังตั้งครรภ์จะรู้ดีว่า การที่ตัวเองกำลังตั้งครรภ์ สิ่งหนึ่งที่จะต้องระวังมากที่สุดคือ "ร่างกายต้องแข็งแรง"
เพราะถ้าไม่สบายหรือป่วยขึ้นมา มันจะมีผลต่อลูกในท้อง ไหนจะการกินยาที่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ถัดไปข้างหลัง
ผู้ชายต่างชาติเป็นเอเชีย ภรรยาคนไทยตั้งท้อง มาพร้อมกับลูกชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 2-3 ขวบ
ลูกชายไอค้อกแค้กๆๆๆเสียงดังตลอดเวลา
คนเป็นแม่นั่งอ่านหนังสือ คนเป็นพ่อนั่งเล่นมือถือ
ผ้าปิดปากก็ไม่มี ปล่อยให้ไอตลอดเวลา (ย้ำว่า ตลอดเวลา+เสียงดังมาก)
นี่มันอะไรกัน ความรับผิดชอบต่อสังคมหายไปไหนกันหมด
เป็นผม ต้องฝึกให้ลูกใช้ผ้าปิดปาก
หรือถ้าไม่มี ก็เดินไปขอจากพยาบาลหน้าเคาน์เตอร์
หรือถ้าลูกไม่ยอมใส่ ผมอุ้มออกเลยครับ ไปโซนอื่นที่ไม่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ
สุดท้าย
ผมทำได้แต่พาแฟนกับลูกไปนั่งห่างๆไกลๆ
เพราะกลัวลูกติดหวัด
คนเป็นพ่อเป็นแม่จะรู้ดี ถ้าลูกเป็นหวัดหรือไม่สบาย
ทั้งเหนื่อยใจ เหนื่อยกาย ทั้งสงสารลูก
ขอเถอะครับ
ผ้าปิดปาก ผืนนึง 5-10 บาท
เวลาอยู่ในสังคมหมู่มาก ถ้ารู้ตัวว่าไม่สบาย
ปิดปากเสียเถอะครับ อย่าให้เชื้อมันแพร่กระจายมาสู่คนอื่น
พอขึ้นรถ หรือ ถึงบ้าน จะเอาผ้าออก จูบปากกัน แพร่กระจายกันในครอบครัวก็เชิญ