วันที่ 7 กรกฎาคม 2556 12:00
โดย : จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ : บลจ.แอสเซท พลัส จำกัด
สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างวินัยในการออมเงินให้กับผู้ลงทุนในกองทุนรวม และรองรับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาจัดแผนการลงทุนด้วยตัวเอง
กองทุนรวมถือเป็นช่องทางการลงทุน และการออมเงิน ที่ช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าเงินฝาก โดยที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวม จะได้รับยกเว้นไม่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการทยอยลงทุนใน หุ้น ผ่านกองทุนรวม การจับจังหวะการลงทุนได้ถูกต้อง คือ ซื้อในราคาถูก และขายในราคาที่แพง อาจเป็นเรื่องยาก หากผู้ลงทุนไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลหรือติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด หรือข้อมูลไม่เพียงพอ อาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือเสียโอกาสที่จะได้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยต่าง ๆ ของตลาดได้
ยิ่งในสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง จากระดับ SET Index ที่ประมาณ 1,390 จุด เมื่อปลายปี 55 ได้ปรับตัวขึ้นกว่า 15% ไปที่ระดับประมาณ 1,600 จุด ในช่วงเดือน มี.ค. โดยมีปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินไหลเข้าจากต่างชาติจากความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อมาตลาดปรับตัวผันผวนจนลงมาอยู่ที่ระดับ 1,470 จุด ในช่วงก่อนสงกรานต์ หลังจากนั้น ดัชนีค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาที่ประมาณ 1,640 จุด ในช่วงเดือน พ.ค. 56
อย่างไรก็ตาม หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณดีขึ้น ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้สัญญาณชัดเจนว่าจะมีการลดการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงเดือน ก.ย. ถึง ต.ค. นี้ และจะหยุดทำ QE ในช่วงไตรมาส 2 ปี 57 ทำให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค รวมถึง SET Index ปรับตัวลดลง และเคลื่อนไหวผันผวนจนยืนอยู่ที่ระดับประมาณ 1,440-1,470 จุด หรือได้ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดไปประมาณ 10%
ดังนั้น ในสภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนเป็นแบบฟันปลา หรือตัว W เช่นนี้ บริษัทฯ จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นด้วยการทยอยลงทุน อย่างสม่ำเสมอ และลงทุนในระยะยาว อย่างน้อย 1 ปี ขึ้นไป เพื่อลดความผันผวนของตลาด หรือที่เรียกว่า การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน (Dollar cost averaging) ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในระยะยาว ซึ่งสำหรับบริษัทจัดการ (บลจ.) ต่าง ๆ มักจะเรียกโปรแกรมการลงทุนนี้ว่า Savings Plan
Savings Plan เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างวินัยในการออมเงินให้กับผู้ลงทุนในกองทุนรวม และรองรับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาจัดแผนการลงทุนด้วยตัวเอง ด้วยการลงทุนโดยวิธีหักบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติในจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน อย่างสม่ำเสมอ และระบุวันที่ต้องการจะตัดบัญชี ซึ่งแต่ละบลจ.จะมีวันให้เลือก เช่น ทุกวันที่ 25 ของเดือน ผู้ลงทุนยินยอมให้หักบัญชีเพื่อซื้อกองทุน LTF จำนวนเงิน 5,000 บาท โดยไม่ต้องดูว่า SET Index ขึ้นหรือลง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดขั้นตอนในการลงทุนในกองทุนรวม ที่จะต้องมีการส่งคำสั่งซื้อ และการโอนเงินผ่านธนาคาร ซึ่งวิธีการลงทุนแบบนี้ในระยะยาวแล้วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในแต่ละช่วงเวลาการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนหุ้น โดยผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลกับจังหวะ หรือ ราคาในแต่ละครั้ง รวมถึงช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยของการลงทุนให้ต่ำลงสำหรับการลงทุนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุนแบบ Savings plan เป็นการลงทุนระยะยาวบางครั้งอาจไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนสูงมากนัก แต่ก็ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลกับการหาจังหวะในการซื้อขาย ผู้ลงทุนยังคงต้องคำนึงถึงระดับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ลงทุนในกองทุนหุ้น จะต้องทราบว่าการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงในการขาดทุน ตามการเคลื่อนไหวของตลาด ปัจจัยพื้นฐานของตัวหุ้นแต่ละตัว และปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ด้วย ดังนั้น ผู้ลงทุนจะต้องตระหนักไว้เสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ลงทุนแบบ Savings Plan ในช่วงตลาดผันผวน
โดย : จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ : บลจ.แอสเซท พลัส จำกัด
สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างวินัยในการออมเงินให้กับผู้ลงทุนในกองทุนรวม และรองรับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาจัดแผนการลงทุนด้วยตัวเอง
กองทุนรวมถือเป็นช่องทางการลงทุน และการออมเงิน ที่ช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าเงินฝาก โดยที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวม จะได้รับยกเว้นไม่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการทยอยลงทุนใน หุ้น ผ่านกองทุนรวม การจับจังหวะการลงทุนได้ถูกต้อง คือ ซื้อในราคาถูก และขายในราคาที่แพง อาจเป็นเรื่องยาก หากผู้ลงทุนไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลหรือติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด หรือข้อมูลไม่เพียงพอ อาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือเสียโอกาสที่จะได้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยต่าง ๆ ของตลาดได้
ยิ่งในสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง จากระดับ SET Index ที่ประมาณ 1,390 จุด เมื่อปลายปี 55 ได้ปรับตัวขึ้นกว่า 15% ไปที่ระดับประมาณ 1,600 จุด ในช่วงเดือน มี.ค. โดยมีปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินไหลเข้าจากต่างชาติจากความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อมาตลาดปรับตัวผันผวนจนลงมาอยู่ที่ระดับ 1,470 จุด ในช่วงก่อนสงกรานต์ หลังจากนั้น ดัชนีค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาที่ประมาณ 1,640 จุด ในช่วงเดือน พ.ค. 56
อย่างไรก็ตาม หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณดีขึ้น ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้สัญญาณชัดเจนว่าจะมีการลดการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงเดือน ก.ย. ถึง ต.ค. นี้ และจะหยุดทำ QE ในช่วงไตรมาส 2 ปี 57 ทำให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค รวมถึง SET Index ปรับตัวลดลง และเคลื่อนไหวผันผวนจนยืนอยู่ที่ระดับประมาณ 1,440-1,470 จุด หรือได้ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดไปประมาณ 10%
ดังนั้น ในสภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนเป็นแบบฟันปลา หรือตัว W เช่นนี้ บริษัทฯ จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นด้วยการทยอยลงทุน อย่างสม่ำเสมอ และลงทุนในระยะยาว อย่างน้อย 1 ปี ขึ้นไป เพื่อลดความผันผวนของตลาด หรือที่เรียกว่า การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน (Dollar cost averaging) ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในระยะยาว ซึ่งสำหรับบริษัทจัดการ (บลจ.) ต่าง ๆ มักจะเรียกโปรแกรมการลงทุนนี้ว่า Savings Plan
Savings Plan เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างวินัยในการออมเงินให้กับผู้ลงทุนในกองทุนรวม และรองรับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาจัดแผนการลงทุนด้วยตัวเอง ด้วยการลงทุนโดยวิธีหักบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติในจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน อย่างสม่ำเสมอ และระบุวันที่ต้องการจะตัดบัญชี ซึ่งแต่ละบลจ.จะมีวันให้เลือก เช่น ทุกวันที่ 25 ของเดือน ผู้ลงทุนยินยอมให้หักบัญชีเพื่อซื้อกองทุน LTF จำนวนเงิน 5,000 บาท โดยไม่ต้องดูว่า SET Index ขึ้นหรือลง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดขั้นตอนในการลงทุนในกองทุนรวม ที่จะต้องมีการส่งคำสั่งซื้อ และการโอนเงินผ่านธนาคาร ซึ่งวิธีการลงทุนแบบนี้ในระยะยาวแล้วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในแต่ละช่วงเวลาการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนหุ้น โดยผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลกับจังหวะ หรือ ราคาในแต่ละครั้ง รวมถึงช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยของการลงทุนให้ต่ำลงสำหรับการลงทุนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุนแบบ Savings plan เป็นการลงทุนระยะยาวบางครั้งอาจไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนสูงมากนัก แต่ก็ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลกับการหาจังหวะในการซื้อขาย ผู้ลงทุนยังคงต้องคำนึงถึงระดับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ลงทุนในกองทุนหุ้น จะต้องทราบว่าการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงในการขาดทุน ตามการเคลื่อนไหวของตลาด ปัจจัยพื้นฐานของตัวหุ้นแต่ละตัว และปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ด้วย ดังนั้น ผู้ลงทุนจะต้องตระหนักไว้เสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน