ขออนุญาติ คุณ KikLaruku เอามาแชร์นะค่ะ ชอบความคิดคุณมากๆ ค่ะ โพสไว้ในกระทู้แนะนำ เราอ่านแล้วเห็นว่าวิเคราะห์ได้หลายมุม และเป็นกลางดี
"พอจะสรุปได้แล้วรึเปล่าว่ามันน่าจะเป็นโฆษณา งานนี้เห็นใจหมดทุกฝ่าย ยกเว้น แบรนด์เจ้าของโฆษณา
เห็นใจจขกท. ก็ในเมื่อคุณเห็นข้อเท็จจริงมาแบบนั้น แล้วเอามาเล่าให้เพื่อนๆสมาชิกฟัง แล้วมันผิดตรงไหน ใครจะมานั่งคิดว่ามันจะเป็นการเตี๊ยมกันมา มันจะผิดก็ต่อเมื่อเจ้าของกระทู้เป็น"ม้า"ตัวนึงของแบรนด์นี้ ที่มาโพสต์กระทู้เพื่อเรียกกระแส แต่ถ้าไม่ใช่ เราก็ไม่คิดว่าจขกท.จะผิดหรือจะเงิบอะไรตรงไหนเลย
เห็นใจแฟนคลับ มันเป็นปกตินะ เรารักใครเราก็ต้องปกป้อง แต่บอกได้สั้นๆแค่ว่า จะปกป้องยังไงก็ใช้สติให้มากๆ ใช้เหตุและผลให้มากกว่าอารมณ์ เพราะสุดท้ายคนที่จะถูกเกลียดไม่ใช่พวกคุณ แต่เป็น"ออม"ต่างหาก
เห็นใจออม สำหรับหลายคนที่ตั้งคำถามว่าทำไมถึงมารับงานแบบนี้ ก็ต้องบอกว่า "งานโฆษณามันเป็นงานในวงการที่ได้เงินมากที่สุดและเร็วที่สุด" ชีวิตการทำงานมันก็โหดร้ายแบบนี้แหละ บางทีเราก็ต้องรับงานที่เราไม่อยากทำ แต่ก็ต้องทำ คุณจะเลือกรับงานได้อย่างอิสระก็ต่อเมื่อคุณดังระดับซุปเปอร์สตาร์แล้วเท่านั้นแหละ ซึ่งก็ต้องพูดกันตามตรงว่าออมยังไม่ใช่ระดับนั้น และออมเองก็คงรู้ดีอยู่แล้วว่ารับงานแบบนี้ยังไงก็ต้องมีผลกระทบถึงตัวเองแน่นอน สมมติถ้าออมเลือกไม่รับงานนี้ กระทู้นี้ประเด็นนี้ก็คงไม่เกิด แต่ในสายตาของบรรดาผู้ว่าจ้างทั้งหลาย มันจะกลายเป็นว่าเธอเป็นพวกเรื่องเยอะ เลือกเยอะไปรึเปล่าน่ะสิ
ฉะนั้นเรื่องนี้ถ้าจะมีคนผิด ก็คงเป็นแบรนด์เจ้าของโฆษณานั่นแหละ วิธีทำการตลาดนั้นมันมีเป็นร้อยเป็นพันวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่แย่ที่สุดแบบนี้ สินค้าแบรนด์อื่นๆเค้าก็ขายกันดีได้โดยไม่ต้องใช้วิธีนี้ โอเคว่ามันอาจจะประสบความสำเร็จ เพราะตอนนี้ก็แชร์กันไปทั่วSocial Networkแล้ว แต่มันจะเป็นความสำเร็จเพียงชั่วข้ามคืนรึเปล่า พอเรื่องราวถูกเฉลย ทุกคนก็แยกย้าย จะมีซักกี่คนที่คิดจะเดินไปซื้อสินค้าของคุณ อย่าลืมว่าคนไทยไม่ชอบการ"ถูกหลอก"นะ เหมือนพวกกรณีท้องก่อนแต่งทั้งหลาย ทุกคนรับได้ถ้าคุณท้องก่อนแต่ง แต่รับไม่ได้ถ้าคุณหน้าด้านหลอกว่าตัวเองไม่ได้ท้อง การตลาดแบบนี้สุดท้ายมันจะได้แต่กระแส แต่ไม่ได้ยอดขายรึเปล่า?
แล้วถ้าคุณไม่อยากให้สินค้าตัวไหนมาใช้วิธีทางการตลาดที่งี่เง่าแบบนี้อีก ก็จง"แบน"สินค้าตัวนี้ซะตั้งแต่วันนี้ ให้รู้กันไปว่าอย่าได้มาทำการตลาดแบบเห็นแก่ตัวอย่างนี้อีก เพราะงานนี้เสียกันทุกฝ่าย แต่ถ้าสุดท้ายสินค้ามันดันขายดีขึ้นมา ไอ้วิธีการแบบนี้ก็จะมีแบรนด์อื่นเอาไปใช้ต่ออีก
ป.ล. หิวก็กินข้าวดีกว่านะ"
ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับข้อความข้างบนนี้ทุกอย่าง
แต่เพิ่มอีกนิด คือ ผู้จัดการออม อยากให้สกรีนงานให้ดีกว่านี้ ภาพลักษณ์สำหรับดาราเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ มันจะติดตัวดาราไปตลอดและมีผลกับ งานอื่นๆด้วย นอกจากนี้ ควรคิดด้วยว่างานนั้นทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยหรือไม่ กระทบจิตใจแฟนคลับมั๊ย สำหรับงานนี้คิดน้อยไปจริงๆ มันไม่คุ้มเลยจริงๆ
แต่คนเราก็พลาดกันได้ เป็นกำลังใจให้ออมต่อไปค่ะ อย่างน้อยก็โล่งใจที่ออมไม่ได้เป็นแบบในคลิปนั้นจริงๆ
ตั้งแต่อ่านกระทู้ คลิป ออม สุชาร์ ชอบความเห็นนี้ที่สุด วิเคราะห์ให้เห็นในหลายมุม และเป็นกลางดี
"พอจะสรุปได้แล้วรึเปล่าว่ามันน่าจะเป็นโฆษณา งานนี้เห็นใจหมดทุกฝ่าย ยกเว้น แบรนด์เจ้าของโฆษณา
เห็นใจจขกท. ก็ในเมื่อคุณเห็นข้อเท็จจริงมาแบบนั้น แล้วเอามาเล่าให้เพื่อนๆสมาชิกฟัง แล้วมันผิดตรงไหน ใครจะมานั่งคิดว่ามันจะเป็นการเตี๊ยมกันมา มันจะผิดก็ต่อเมื่อเจ้าของกระทู้เป็น"ม้า"ตัวนึงของแบรนด์นี้ ที่มาโพสต์กระทู้เพื่อเรียกกระแส แต่ถ้าไม่ใช่ เราก็ไม่คิดว่าจขกท.จะผิดหรือจะเงิบอะไรตรงไหนเลย
เห็นใจแฟนคลับ มันเป็นปกตินะ เรารักใครเราก็ต้องปกป้อง แต่บอกได้สั้นๆแค่ว่า จะปกป้องยังไงก็ใช้สติให้มากๆ ใช้เหตุและผลให้มากกว่าอารมณ์ เพราะสุดท้ายคนที่จะถูกเกลียดไม่ใช่พวกคุณ แต่เป็น"ออม"ต่างหาก
เห็นใจออม สำหรับหลายคนที่ตั้งคำถามว่าทำไมถึงมารับงานแบบนี้ ก็ต้องบอกว่า "งานโฆษณามันเป็นงานในวงการที่ได้เงินมากที่สุดและเร็วที่สุด" ชีวิตการทำงานมันก็โหดร้ายแบบนี้แหละ บางทีเราก็ต้องรับงานที่เราไม่อยากทำ แต่ก็ต้องทำ คุณจะเลือกรับงานได้อย่างอิสระก็ต่อเมื่อคุณดังระดับซุปเปอร์สตาร์แล้วเท่านั้นแหละ ซึ่งก็ต้องพูดกันตามตรงว่าออมยังไม่ใช่ระดับนั้น และออมเองก็คงรู้ดีอยู่แล้วว่ารับงานแบบนี้ยังไงก็ต้องมีผลกระทบถึงตัวเองแน่นอน สมมติถ้าออมเลือกไม่รับงานนี้ กระทู้นี้ประเด็นนี้ก็คงไม่เกิด แต่ในสายตาของบรรดาผู้ว่าจ้างทั้งหลาย มันจะกลายเป็นว่าเธอเป็นพวกเรื่องเยอะ เลือกเยอะไปรึเปล่าน่ะสิ
ฉะนั้นเรื่องนี้ถ้าจะมีคนผิด ก็คงเป็นแบรนด์เจ้าของโฆษณานั่นแหละ วิธีทำการตลาดนั้นมันมีเป็นร้อยเป็นพันวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่แย่ที่สุดแบบนี้ สินค้าแบรนด์อื่นๆเค้าก็ขายกันดีได้โดยไม่ต้องใช้วิธีนี้ โอเคว่ามันอาจจะประสบความสำเร็จ เพราะตอนนี้ก็แชร์กันไปทั่วSocial Networkแล้ว แต่มันจะเป็นความสำเร็จเพียงชั่วข้ามคืนรึเปล่า พอเรื่องราวถูกเฉลย ทุกคนก็แยกย้าย จะมีซักกี่คนที่คิดจะเดินไปซื้อสินค้าของคุณ อย่าลืมว่าคนไทยไม่ชอบการ"ถูกหลอก"นะ เหมือนพวกกรณีท้องก่อนแต่งทั้งหลาย ทุกคนรับได้ถ้าคุณท้องก่อนแต่ง แต่รับไม่ได้ถ้าคุณหน้าด้านหลอกว่าตัวเองไม่ได้ท้อง การตลาดแบบนี้สุดท้ายมันจะได้แต่กระแส แต่ไม่ได้ยอดขายรึเปล่า?
แล้วถ้าคุณไม่อยากให้สินค้าตัวไหนมาใช้วิธีทางการตลาดที่งี่เง่าแบบนี้อีก ก็จง"แบน"สินค้าตัวนี้ซะตั้งแต่วันนี้ ให้รู้กันไปว่าอย่าได้มาทำการตลาดแบบเห็นแก่ตัวอย่างนี้อีก เพราะงานนี้เสียกันทุกฝ่าย แต่ถ้าสุดท้ายสินค้ามันดันขายดีขึ้นมา ไอ้วิธีการแบบนี้ก็จะมีแบรนด์อื่นเอาไปใช้ต่ออีก
ป.ล. หิวก็กินข้าวดีกว่านะ"
ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับข้อความข้างบนนี้ทุกอย่าง
แต่เพิ่มอีกนิด คือ ผู้จัดการออม อยากให้สกรีนงานให้ดีกว่านี้ ภาพลักษณ์สำหรับดาราเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ มันจะติดตัวดาราไปตลอดและมีผลกับ งานอื่นๆด้วย นอกจากนี้ ควรคิดด้วยว่างานนั้นทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยหรือไม่ กระทบจิตใจแฟนคลับมั๊ย สำหรับงานนี้คิดน้อยไปจริงๆ มันไม่คุ้มเลยจริงๆ
แต่คนเราก็พลาดกันได้ เป็นกำลังใจให้ออมต่อไปค่ะ อย่างน้อยก็โล่งใจที่ออมไม่ได้เป็นแบบในคลิปนั้นจริงๆ