เรื่องีอยู่ว่าเด็กนักเรียนมาปรึกษาเรื่องการไว้ผมยาวของระดับ ม.ต้น และเด็กถามถึงกฏใหม่ที่ออกมาใช้ว่าให้ไว้ผมยาวได้แล้วแต่ที่โรงเรียนผมนั้นครูฝ่ายปกครอง ( ผุ้ช่วยผู้อำนวยการ ) นั้นไม่ยอมให้ไว้ยาว จึงเป็นปัญหามาตั้งแต่เทอมที่แล้ว เด็กเข้ามาปรึกษาผมซึ่งเป็นครูประจำชั้นว่าอยากไว้ยาวเหมือนโรงเรียนอื่นเขา และมันดูขัดกับข่าวที่ออกมาใหม่เรื่องทรงผมไว้ยาวได้ แต่ทำไมโรงเรียนถึงยังไม่ให้ไว้
ผมเองได้คุยและแนะนำเด็กไปว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหาเรื่องไว้ผมยาวเพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับการเรียนและดู ม.ต้น ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับ ม.ปลายเหตุใด ม.ปลายยังไว้ยาวได้เหมือนกัน ม.ต้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรที่จะต้องตัดเกรียน ผมจึงบอกเด็กไปว่าสิ่งที่เราจะทำได้คือต้องช่วยกันรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ทำเรื่องเสนอฝ่ายผู้อำนวยการอย่างประเทศประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ ที่เราพึงมีโดยการล่ารายชื่อนักเรียน ม.ต้นที่เห็นด้วยกับการไว้ผมยาวและครูอาจารย์ประจำชั้นที่เห็นด้วย และเขียนจดหมายแนบรายชื่อไปด้วยว่า ขอไว้ผมยาวตามที่เด็กควรจะได้สิทธิ์พร้อมทั้งเขียนนำเสนอทรงผมไปด้วยว่าจะขอไว้ยาวแล้วรวบผมแบบ ม.ปลาย หรือไว้ยาวแล้วถักเปียแบบเด็กประถม หากไม่ได้รับการอนุมัติขอทราบเหตุผลที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับว่าเพราะเหตุใดจึงให้ไว้ไม่ได้ คร่าวๆตามนี้ เพื่อเป็นการใช้สิทธิ์ของตนเองเพราะทางกระทรวงนั้นเปิดทางให้ได้ไว้ยาวแล้วแต่ไม่ได้บังคับว่าต้องทำตามเลยแล้วแต่ผู้บริหารจะมีดุลพินิจอย่างไร
จากการที่ได้คุยเห็นว่าเด็กนั้นไม่กล้าที่จะเรียกร้องเพราะกลังถูกครูตี ถูกหักคะแนนความประพฤติ และถุกฝ่ายปกครองเล่นงานมีผลกับการเรียนจึงไม่เคยมีใครกล้าทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ผมเองเห็นว่ามันไม่ถูกเพราะทำการเรียกร้องอย่างผู้มีการศึกษาไม่ได้ก่อม๊อบประท้วงหรือใช้ความรุนแรง ทำไปตามขั้นตอนและเป็นการนำเสนอขออนุญาตเท่านั้น ไม่มีเหตุให้ต้องถูกลงโทษ แต่เหมือนเด็กจะกลัวในการเรียกร้องสิทธิ์ตัวเอง
แต่จากการที่ได้พูดคุยกันซักพักใหญ่ๆ ก็ได้รับฟังว่าเด็กจะไปพูดคุยกันในหมู่ ม.ต้นกันก่อนหาแกนนำที่จะกล้านำเรื่องไปเสนอ และหารายชื่อนักเรียนที่เห็นด้วยก่อนในวงของเขา ถ้ามีรายชื่อทั้งระดับ ม.ต้นมากพอสัก 70% ของจำนวน ม.ต้นทั้งหมด จึงจะไปขอรายชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละห้องที่เห็นด้วยลงชื่อให้ ( ผมเองจะลงให้คนแรกเลย ) แล้วจึงนำเสนอขั้นต่อไป แต่หากไม่มีนักเรียนร่วงแรงลงชื่อกันตามเป้าเด็กบอกว่าคงต้องยอมรับกันไป
ผมอยากทราบความเห้นหลายๆท่านว่าผมทำผิดไปหรือไม่กับการแนะนำเด็กไปแบบนั้น หรือมีข้อเสนอแนะอย่างไรกันบ้าง
ผมเป็นครูที่ผิดหรือไม่กับการที่แนะนำให้เด็กรักษาสิทธิ์ของตัวเองเรื่องการตัดผม ?
ผมเองได้คุยและแนะนำเด็กไปว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหาเรื่องไว้ผมยาวเพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับการเรียนและดู ม.ต้น ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับ ม.ปลายเหตุใด ม.ปลายยังไว้ยาวได้เหมือนกัน ม.ต้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรที่จะต้องตัดเกรียน ผมจึงบอกเด็กไปว่าสิ่งที่เราจะทำได้คือต้องช่วยกันรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ทำเรื่องเสนอฝ่ายผู้อำนวยการอย่างประเทศประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ ที่เราพึงมีโดยการล่ารายชื่อนักเรียน ม.ต้นที่เห็นด้วยกับการไว้ผมยาวและครูอาจารย์ประจำชั้นที่เห็นด้วย และเขียนจดหมายแนบรายชื่อไปด้วยว่า ขอไว้ผมยาวตามที่เด็กควรจะได้สิทธิ์พร้อมทั้งเขียนนำเสนอทรงผมไปด้วยว่าจะขอไว้ยาวแล้วรวบผมแบบ ม.ปลาย หรือไว้ยาวแล้วถักเปียแบบเด็กประถม หากไม่ได้รับการอนุมัติขอทราบเหตุผลที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับว่าเพราะเหตุใดจึงให้ไว้ไม่ได้ คร่าวๆตามนี้ เพื่อเป็นการใช้สิทธิ์ของตนเองเพราะทางกระทรวงนั้นเปิดทางให้ได้ไว้ยาวแล้วแต่ไม่ได้บังคับว่าต้องทำตามเลยแล้วแต่ผู้บริหารจะมีดุลพินิจอย่างไร
จากการที่ได้คุยเห็นว่าเด็กนั้นไม่กล้าที่จะเรียกร้องเพราะกลังถูกครูตี ถูกหักคะแนนความประพฤติ และถุกฝ่ายปกครองเล่นงานมีผลกับการเรียนจึงไม่เคยมีใครกล้าทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ผมเองเห็นว่ามันไม่ถูกเพราะทำการเรียกร้องอย่างผู้มีการศึกษาไม่ได้ก่อม๊อบประท้วงหรือใช้ความรุนแรง ทำไปตามขั้นตอนและเป็นการนำเสนอขออนุญาตเท่านั้น ไม่มีเหตุให้ต้องถูกลงโทษ แต่เหมือนเด็กจะกลัวในการเรียกร้องสิทธิ์ตัวเอง
แต่จากการที่ได้พูดคุยกันซักพักใหญ่ๆ ก็ได้รับฟังว่าเด็กจะไปพูดคุยกันในหมู่ ม.ต้นกันก่อนหาแกนนำที่จะกล้านำเรื่องไปเสนอ และหารายชื่อนักเรียนที่เห็นด้วยก่อนในวงของเขา ถ้ามีรายชื่อทั้งระดับ ม.ต้นมากพอสัก 70% ของจำนวน ม.ต้นทั้งหมด จึงจะไปขอรายชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละห้องที่เห็นด้วยลงชื่อให้ ( ผมเองจะลงให้คนแรกเลย ) แล้วจึงนำเสนอขั้นต่อไป แต่หากไม่มีนักเรียนร่วงแรงลงชื่อกันตามเป้าเด็กบอกว่าคงต้องยอมรับกันไป
ผมอยากทราบความเห้นหลายๆท่านว่าผมทำผิดไปหรือไม่กับการแนะนำเด็กไปแบบนั้น หรือมีข้อเสนอแนะอย่างไรกันบ้าง