ตามรายงานของสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของจีน (CISA) ระบุว่า อุตสาหกรรมเหล็กจีนยังคงเผชิญกับปัญหากำลังการผลิตล้นตลาดต่อไป โดยมีสาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ความต้องการใช้เหล็กในระดับต่ำ ราคาวัตถุดิบระดับสูง และปริมาณผลผลิตเหล็กในระดับสูง ซึ่งรายงานยังได้ระบุว่า อุตสาหกรรมนี้จะยังคงเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่ย่ำแย่ต่อไปในเดือนกรกฎาคมนี้
รายงานของ IMF ได้ปรับลดการคาดการณ์ GDP ของจีนลงจาก 8% เป็น 7.75% ในปีนี้ ซึ่งสะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แม้ว่า แผนการพัฒนาพื้นที่ชนบทของรัฐบาลกลางยังคงอยู่ แต่ก็คาดว่าจะยังไม่ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมในระยะสั้น ขณะที่รายงานตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ยอดผลผลิตเหล็กล่าสุดเดือนพฤษภาคมขยายตัวที่ 11.3% ปริมาณ 91.19 ล้านตัน และยอดการผลิตห้าเดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 10.8% มาอยู่ที่ 426.16 ล้านตัน
ทางประธานบริษัท Hebei Iron and Steel Group แสดงความเห็นว่า ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินอาจต้องกินเวลาอย่างน้อย 5-10 ปี เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งการศึกษาของทางสหภาพยุโรปสำหรับอุตสาหกรรมเหล็กระบุว่า ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่สภาพเศรษฐกิจขยายตัวในระดับสูง และยุโรปเองต้องใช้เวลากว่า 20 ปีในการแก้ปัญหาดังกล่าว
**
มีรายงานว่า ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนในเมืองจีนยังคงปรับลดลงช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วจากสภาพจิตวิทยาตลาดที่ยังคงอ่อนตัว และทางกลุ่มผู้ค้ายังคงไม่หันกลับมาสต็อกเหล็ก นอกจากนี้ทาง Hebei I&S และ Shogang I&S ยังประกาศจ่ายเงินชดเชยประมาณ 80-150 หยวนต่อตันสำหรับผู้ค้าของทางบริษัทในสินค้าที่ส่งเดือนมิถุนายน ขณะที่ตลาด Shanghai พบว่า ราคา spot เหล็กแผ่นรีดร้อนยังยืนอยู่ที่ประมาณ 560 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน รวม VAT
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าบางรายคาดว่า ราคาอาจลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบนี้แล้ว เนื่องจากโรงงานใหญ่อาจหยุดการปรับราคาลงตามสภาวะตลาดส่งออกสำหรับเดือนสิงหาคมที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น โดยราคาส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนเกรด SS400B จากจีนไปยังเกาหลีใต้โดยโรงงานใหญ่ยืนที่ระดับ 515 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน fob เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5 เหรียญสหรัฐฯ จากช่วงต้นเดือนมิถุนายน
อ้างอิงจาก:
http://www.isit.or.th/modules.php?mod=News&file=view&ID=5632
กลุ่มเหล็กต้องอดทน ดอยชั้นบนต้องไม่ตาย
ยามเมื่อศัตรูเยอะย่อมต้องมีผู้จากไป ผู้อยู่รอดเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะ Maonoi~
แนวโน้มเหล็กในจีน
ตามรายงานของสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของจีน (CISA) ระบุว่า อุตสาหกรรมเหล็กจีนยังคงเผชิญกับปัญหากำลังการผลิตล้นตลาดต่อไป โดยมีสาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ความต้องการใช้เหล็กในระดับต่ำ ราคาวัตถุดิบระดับสูง และปริมาณผลผลิตเหล็กในระดับสูง ซึ่งรายงานยังได้ระบุว่า อุตสาหกรรมนี้จะยังคงเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่ย่ำแย่ต่อไปในเดือนกรกฎาคมนี้
รายงานของ IMF ได้ปรับลดการคาดการณ์ GDP ของจีนลงจาก 8% เป็น 7.75% ในปีนี้ ซึ่งสะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แม้ว่า แผนการพัฒนาพื้นที่ชนบทของรัฐบาลกลางยังคงอยู่ แต่ก็คาดว่าจะยังไม่ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมในระยะสั้น ขณะที่รายงานตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ยอดผลผลิตเหล็กล่าสุดเดือนพฤษภาคมขยายตัวที่ 11.3% ปริมาณ 91.19 ล้านตัน และยอดการผลิตห้าเดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 10.8% มาอยู่ที่ 426.16 ล้านตัน
ทางประธานบริษัท Hebei Iron and Steel Group แสดงความเห็นว่า ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินอาจต้องกินเวลาอย่างน้อย 5-10 ปี เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งการศึกษาของทางสหภาพยุโรปสำหรับอุตสาหกรรมเหล็กระบุว่า ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่สภาพเศรษฐกิจขยายตัวในระดับสูง และยุโรปเองต้องใช้เวลากว่า 20 ปีในการแก้ปัญหาดังกล่าว
**
มีรายงานว่า ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนในเมืองจีนยังคงปรับลดลงช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วจากสภาพจิตวิทยาตลาดที่ยังคงอ่อนตัว และทางกลุ่มผู้ค้ายังคงไม่หันกลับมาสต็อกเหล็ก นอกจากนี้ทาง Hebei I&S และ Shogang I&S ยังประกาศจ่ายเงินชดเชยประมาณ 80-150 หยวนต่อตันสำหรับผู้ค้าของทางบริษัทในสินค้าที่ส่งเดือนมิถุนายน ขณะที่ตลาด Shanghai พบว่า ราคา spot เหล็กแผ่นรีดร้อนยังยืนอยู่ที่ประมาณ 560 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน รวม VAT
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าบางรายคาดว่า ราคาอาจลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบนี้แล้ว เนื่องจากโรงงานใหญ่อาจหยุดการปรับราคาลงตามสภาวะตลาดส่งออกสำหรับเดือนสิงหาคมที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น โดยราคาส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนเกรด SS400B จากจีนไปยังเกาหลีใต้โดยโรงงานใหญ่ยืนที่ระดับ 515 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน fob เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5 เหรียญสหรัฐฯ จากช่วงต้นเดือนมิถุนายน
อ้างอิงจาก: http://www.isit.or.th/modules.php?mod=News&file=view&ID=5632
กลุ่มเหล็กต้องอดทน ดอยชั้นบนต้องไม่ตาย
ยามเมื่อศัตรูเยอะย่อมต้องมีผู้จากไป ผู้อยู่รอดเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะ Maonoi~