มีเรื่องจริงเรื่องนึงที่ผมได้ยินมา มีศิษยาภิบาลคนหนึ่งมีลูกชายที่เพิ่งเกิด ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง วันที่ลูกชายของท่านมีนัดเพื่อทำการผ่าตัด พ่อที่เป็นศิษยาภิบาลนี้ได้อธิษฐานกับพระเจ้าว่า
"ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อายุเกือบจะ 30 ปีแล้ว แต่ลูกชายของข้าพระองค์มีอายุเพียง 3 เดือนเท่านั้น ทำไมพระองค์ไม่เอาวันเวลาที่เหลือของข้าพระองค์ไปมอบให้กับลูกของข้าพระองค์ เล่า"
ลึกๆในใจของพ่อคนนี้ เขาได้ยินเสียงพระเจ้าตรัสว่า
"เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น" เมื่อพ่อคนนี้ได้ยินอย่างนั้น เขาตระหนักได้ในทันทีว่า ความเจ็บป่วยของลูกชายของท่านไม่ได้มาจากพระเจ้า เขายังนึกขึ้นได้ว่าเขาพลาดไป พระเจ้าต้องการให้เด็กชายคนนั้นมีสุขภาพที่ดีมากกว่าเขาเสียอีก เขาจึงเปลี่ยนคำอธิษฐานใหม่ว่า
"พระบิดาเจ้าข้า ลูกมาเพื่อปฏิเสธความเจ็บป่วยนี้ และลูกขอให้พระองค์รักษาลูกชายของลูกด้วย"
ในวันนั้นที่เตียงผ่าตัด ศัลยแพทย์ไม่พบชิ้นเนื้อมะเร็งในเด็กคนนั้นเลย!!!
วันนี้ พระเจ้าต้องการให้คุณรู้ว่า พระองค์ไม่ใช่พ่อที่ต้องการให้ลูกเจ็บป่วยและอยู่ในความพ่ายแพ้ หรือทำให้ลูกยากจน หรือลูกของพระองค์ต้องกังวลเรื่องการจัดเตรียมสิ่งต่างๆ หรือปฏิเสธที่จะอวยพรคุณ
เมื่อลูกสาวของผมยังเป็นเด็ก ผมซื้อเท็ดดี้แบร์ตัวนึงที่สวยมากให้เธอ เท็ดดี้แบร์ตัวนั้นเป็นของเล่นชิ้นโปรดของเธอ และผมรอไม่ได้เลยที่จะเห็นเธอเล่นกับของเล่นนั้นอย่างมีความสุข ความสุขของผมคือ เมื่อเห็นเธอมีความสุข เมื่อเธอเจ็บป่วยและนอนไม่หลับในคืนไหน ผมจะเจ็บปวดมากที่ได้ยินเสียงเธอร้องไห้ เมื่อเธอกำลังร้องไห้ ผมไม่สามารถเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้นั้นได้ ผมจะเข้าไปหาเธอ เวลาที่เธอไม่สบาย หรือกำลังเจ็บ แม้ผมจะรู้ว่าความเจ็บป่วยนั้นเดี๋ยวก็หายไปเองก็ตาม เมื่อเธอเจ็บ ผมก็เจ็บด้วย เมื่อเธอเศร้า ผมก็เศร้าด้วย
ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงให้ตัวอย่างเรื่องเด็กๆนี้เพื่อช่วยให้เราเข้าใจหัวใจ ของพระบิดาว่าเป็นอย่างไร ความสุขความชื่นชมยินดีของพระองค์คือเมื่อเห็นเรามีความสุข ความชื่นชมยินดี หากเป็นคุณผู้ซึ่งเป็นคนบาป ยังรู้จักให้ของดีกับลูกๆของคุณ ยิ่งกว่านั้นพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ก็จะประทานสิ่งดีของพระองค์
เมื่อคุณขอต่อพระองค์เราจำเป็นต้องรู้ว่าพระบิดารักเรามากเพียงใด
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
พระทัยพระบิดา
"ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อายุเกือบจะ 30 ปีแล้ว แต่ลูกชายของข้าพระองค์มีอายุเพียง 3 เดือนเท่านั้น ทำไมพระองค์ไม่เอาวันเวลาที่เหลือของข้าพระองค์ไปมอบให้กับลูกของข้าพระองค์ เล่า"
ลึกๆในใจของพ่อคนนี้ เขาได้ยินเสียงพระเจ้าตรัสว่า
"เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น" เมื่อพ่อคนนี้ได้ยินอย่างนั้น เขาตระหนักได้ในทันทีว่า ความเจ็บป่วยของลูกชายของท่านไม่ได้มาจากพระเจ้า เขายังนึกขึ้นได้ว่าเขาพลาดไป พระเจ้าต้องการให้เด็กชายคนนั้นมีสุขภาพที่ดีมากกว่าเขาเสียอีก เขาจึงเปลี่ยนคำอธิษฐานใหม่ว่า
"พระบิดาเจ้าข้า ลูกมาเพื่อปฏิเสธความเจ็บป่วยนี้ และลูกขอให้พระองค์รักษาลูกชายของลูกด้วย"
ในวันนั้นที่เตียงผ่าตัด ศัลยแพทย์ไม่พบชิ้นเนื้อมะเร็งในเด็กคนนั้นเลย!!!
วันนี้ พระเจ้าต้องการให้คุณรู้ว่า พระองค์ไม่ใช่พ่อที่ต้องการให้ลูกเจ็บป่วยและอยู่ในความพ่ายแพ้ หรือทำให้ลูกยากจน หรือลูกของพระองค์ต้องกังวลเรื่องการจัดเตรียมสิ่งต่างๆ หรือปฏิเสธที่จะอวยพรคุณ
เมื่อลูกสาวของผมยังเป็นเด็ก ผมซื้อเท็ดดี้แบร์ตัวนึงที่สวยมากให้เธอ เท็ดดี้แบร์ตัวนั้นเป็นของเล่นชิ้นโปรดของเธอ และผมรอไม่ได้เลยที่จะเห็นเธอเล่นกับของเล่นนั้นอย่างมีความสุข ความสุขของผมคือ เมื่อเห็นเธอมีความสุข เมื่อเธอเจ็บป่วยและนอนไม่หลับในคืนไหน ผมจะเจ็บปวดมากที่ได้ยินเสียงเธอร้องไห้ เมื่อเธอกำลังร้องไห้ ผมไม่สามารถเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้นั้นได้ ผมจะเข้าไปหาเธอ เวลาที่เธอไม่สบาย หรือกำลังเจ็บ แม้ผมจะรู้ว่าความเจ็บป่วยนั้นเดี๋ยวก็หายไปเองก็ตาม เมื่อเธอเจ็บ ผมก็เจ็บด้วย เมื่อเธอเศร้า ผมก็เศร้าด้วย
ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงให้ตัวอย่างเรื่องเด็กๆนี้เพื่อช่วยให้เราเข้าใจหัวใจ ของพระบิดาว่าเป็นอย่างไร ความสุขความชื่นชมยินดีของพระองค์คือเมื่อเห็นเรามีความสุข ความชื่นชมยินดี หากเป็นคุณผู้ซึ่งเป็นคนบาป ยังรู้จักให้ของดีกับลูกๆของคุณ ยิ่งกว่านั้นพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ก็จะประทานสิ่งดีของพระองค์
เมื่อคุณขอต่อพระองค์เราจำเป็นต้องรู้ว่าพระบิดารักเรามากเพียงใด
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ