ร้องปปช.ฟัน“โต้ง”
เซ็นกู้น้ำ3.5แสนล.
เอ็นจีโอบุกชงลงดาบ
ปลอดเล่นแง่ทำEIA
โวทำถูกทุกขั้นตอน
เย้ยท่วมอีกอย่าโวย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 กรกฎาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. โดยมี นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับเรื่อง
โดยหนังสือดังกล่าวได้ขอให้ดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมการกระทำของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในกรณีที่นายกิตติรัตน์ ได้มอบอำนาจให้นายพงษ์ภาณุ กระทำการลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคาร 4 แห่ง ได้แก่ ธ.ออมสิน ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธ.กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ ธ.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) รวมเป็นวงเงิน 324,606 ล้านบาท ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามีคำพิพากษาอันเป็นคำสั่งของศาลปกครองกลาง อันเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของหน่วยงานผู้บังคับบัญชาของบุคคลทั้ง 2 การกระทำดังกล่าวจึงไม่มีเหตุผล ความจำเป็นใด ที่จะต้องเร่งรีบลงนามกู้เงินดังกล่าวมาใช้ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาระทางการเงินของประเทศ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ในครั้งนี้เป็นการยื่นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 275 เนื่องจาก การกระทำของบุคคลทั้ง 2 เข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อันเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 165 อีกทั้งยังรู้ จึงขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 250 (2) และ (3) ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2554 ภายใน 49 วัน โดยเทียบเคียงกับกระบวนการไต่สวนของศาลปกครองกลาง หาก ป.ป.ช. ไม่ดำเนินการหรือดำเนินการล่าช้า ทางสมาคมฯจะยื่นเรื่องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระ
วันเดียวกันที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคจะรวบรวมรายชื่อ ส.ส.จำนวน 1 ใน 4 เพื่อยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยกคณะ สืบเนื่องจากการประมูลงานในโครงการบริหารจัดการน้ำจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่มีความชัดเจนในเรื่องการปรับ ครม.แล้ว ประกอบกับในสัปดาห์ก่อน ทางภาคประชาชน ได้ยื่นร้องเรื่องการบริหาร จัดการน้ำที่เปิดการประมูลงานให้ 4 บริษัทได้งานต่อศาลปกครองกลาง ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า ต้องให้ภาคประชาชนและคนในพื้นที่นั้นๆ ต้องมีส่วนร่วม โดยการทำประชาพิจารณ์ด้วย และยังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงการคลัง ยังดันทุรังเดินหน้ากู้เงิน จาก 4 สถาบันการเงิน ต่อไป ในวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันหมดอายุของ พ.ร.ก.เงินกู้ ทั้งที่ศาลปกครองกลาง ได้วินิจฉัยไปแล้ว
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคจะนำข้อมูลทั้งหมดนี้มาประกอบในคำร้องเพื่อยื่นถอดถอน โดยอาจจะมีการหารือในที่ประชุมวิปฝ่ายค้านอีกครั้ง เพื่อสรุปสาระและดูร่างคำร้องก่อนที่จะยื่นถอดถอน ครม. ยกชุด
ด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ทางสถานีวิทยุ 97.0 เมกะเฮิร์ทซ์ ถึงกรณีคำสั่งศาลปกครองกลางที่ให้ชะลอโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ว่า โครงการนี้ล้มไม่ได้ ที่ผ่านมาได้ทำตามมาตรา 57 วรรคสองแล้ว คือการทำประชาพิจารณ์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยละเลยการฟังประชาชน เราได้จัดนิทรรศการที่ภาคกลาง และภาคเหนือ มีการตอบคำถามมีการจัดบูธนี่คือการประชาสัมพันธ์ มีคนมาเป็นแสน
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า ศาลพิพากษาว่าเข้าตาม มาตรา 57 วรรคสอง เพราะคำสองคำคือ "ผังเมือง" กับ "จัดรูปที่ดิน"แต่ในความเห็นของเรา มองว่าไม่ได้ทำผังเมืองตาม พ.ร.บ.ผังเมือง และไม่ได้จัดรูปที่ดินตาม พ.ร.บ.จัดรูปที่ดิน แต่เราเป็นแค่การศึกษาที่เกี่ยวกับน้ำ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะทำอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง เรื่องการทำอีไอเอ เอชไอเอ นั้น ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม ระบุว่าโครงการที่กระทบสิ่งแวดล้อมร้ายแรงมี 17 ประเภท ส่วนที่เราทำนั้นมีเรื่องเดียวที่อยู่ในประกาศว่าเป็นผลกระทบร้ายแรงคือประเภทที่มีคือเขื่อน ใน 9 โมดูลมีเพียงโมดูลเดียวที่ต้องทำรายงานผลกระทบร้ายแรง นั่นแปลว่าอีก 8 เรื่องต้องเดินหน้าต่อไป
"วันนี้เป็นการเมืองหรือไม่ไม่รู้ แต่ถ้าน้ำท่วมมาอย่ามาโทษเรา" นายปลอดประสพกล่าว
http://www.naewna.com/politic/58105
จัดการให้หนัก นักการเมืองหัวหมอ โกหก ฉ้อฉล พวกนี้
ร้องปปช.ฟัน“โต้ง” เซ็นกู้น้ำ3.5แสนล. เอ็นจีโอบุกชงลงดาบ
เซ็นกู้น้ำ3.5แสนล.
เอ็นจีโอบุกชงลงดาบ
ปลอดเล่นแง่ทำEIA
โวทำถูกทุกขั้นตอน
เย้ยท่วมอีกอย่าโวย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 กรกฎาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. โดยมี นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับเรื่อง
โดยหนังสือดังกล่าวได้ขอให้ดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมการกระทำของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในกรณีที่นายกิตติรัตน์ ได้มอบอำนาจให้นายพงษ์ภาณุ กระทำการลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคาร 4 แห่ง ได้แก่ ธ.ออมสิน ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธ.กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ ธ.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) รวมเป็นวงเงิน 324,606 ล้านบาท ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามีคำพิพากษาอันเป็นคำสั่งของศาลปกครองกลาง อันเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของหน่วยงานผู้บังคับบัญชาของบุคคลทั้ง 2 การกระทำดังกล่าวจึงไม่มีเหตุผล ความจำเป็นใด ที่จะต้องเร่งรีบลงนามกู้เงินดังกล่าวมาใช้ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาระทางการเงินของประเทศ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ในครั้งนี้เป็นการยื่นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 275 เนื่องจาก การกระทำของบุคคลทั้ง 2 เข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อันเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 165 อีกทั้งยังรู้ จึงขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 250 (2) และ (3) ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2554 ภายใน 49 วัน โดยเทียบเคียงกับกระบวนการไต่สวนของศาลปกครองกลาง หาก ป.ป.ช. ไม่ดำเนินการหรือดำเนินการล่าช้า ทางสมาคมฯจะยื่นเรื่องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระ
วันเดียวกันที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคจะรวบรวมรายชื่อ ส.ส.จำนวน 1 ใน 4 เพื่อยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยกคณะ สืบเนื่องจากการประมูลงานในโครงการบริหารจัดการน้ำจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่มีความชัดเจนในเรื่องการปรับ ครม.แล้ว ประกอบกับในสัปดาห์ก่อน ทางภาคประชาชน ได้ยื่นร้องเรื่องการบริหาร จัดการน้ำที่เปิดการประมูลงานให้ 4 บริษัทได้งานต่อศาลปกครองกลาง ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า ต้องให้ภาคประชาชนและคนในพื้นที่นั้นๆ ต้องมีส่วนร่วม โดยการทำประชาพิจารณ์ด้วย และยังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงการคลัง ยังดันทุรังเดินหน้ากู้เงิน จาก 4 สถาบันการเงิน ต่อไป ในวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันหมดอายุของ พ.ร.ก.เงินกู้ ทั้งที่ศาลปกครองกลาง ได้วินิจฉัยไปแล้ว
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคจะนำข้อมูลทั้งหมดนี้มาประกอบในคำร้องเพื่อยื่นถอดถอน โดยอาจจะมีการหารือในที่ประชุมวิปฝ่ายค้านอีกครั้ง เพื่อสรุปสาระและดูร่างคำร้องก่อนที่จะยื่นถอดถอน ครม. ยกชุด
ด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ทางสถานีวิทยุ 97.0 เมกะเฮิร์ทซ์ ถึงกรณีคำสั่งศาลปกครองกลางที่ให้ชะลอโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ว่า โครงการนี้ล้มไม่ได้ ที่ผ่านมาได้ทำตามมาตรา 57 วรรคสองแล้ว คือการทำประชาพิจารณ์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยละเลยการฟังประชาชน เราได้จัดนิทรรศการที่ภาคกลาง และภาคเหนือ มีการตอบคำถามมีการจัดบูธนี่คือการประชาสัมพันธ์ มีคนมาเป็นแสน
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า ศาลพิพากษาว่าเข้าตาม มาตรา 57 วรรคสอง เพราะคำสองคำคือ "ผังเมือง" กับ "จัดรูปที่ดิน"แต่ในความเห็นของเรา มองว่าไม่ได้ทำผังเมืองตาม พ.ร.บ.ผังเมือง และไม่ได้จัดรูปที่ดินตาม พ.ร.บ.จัดรูปที่ดิน แต่เราเป็นแค่การศึกษาที่เกี่ยวกับน้ำ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะทำอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง เรื่องการทำอีไอเอ เอชไอเอ นั้น ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม ระบุว่าโครงการที่กระทบสิ่งแวดล้อมร้ายแรงมี 17 ประเภท ส่วนที่เราทำนั้นมีเรื่องเดียวที่อยู่ในประกาศว่าเป็นผลกระทบร้ายแรงคือประเภทที่มีคือเขื่อน ใน 9 โมดูลมีเพียงโมดูลเดียวที่ต้องทำรายงานผลกระทบร้ายแรง นั่นแปลว่าอีก 8 เรื่องต้องเดินหน้าต่อไป
"วันนี้เป็นการเมืองหรือไม่ไม่รู้ แต่ถ้าน้ำท่วมมาอย่ามาโทษเรา" นายปลอดประสพกล่าว
http://www.naewna.com/politic/58105
จัดการให้หนัก นักการเมืองหัวหมอ โกหก ฉ้อฉล พวกนี้