http://www.thairath.co.th/content/sport/354450
http://oohho.com/feed/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89CTH%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AF%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B220
"นิด้าโพล" เผย CTH ได้ลิขสิทธิ์บอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาล ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้มาก โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นสมาชิกทรูวิชั่นเกือบ 20 % ระบุว่าจะเปลี่ยนไปใช้ CTH พบส่วนใหญ่ 82.22% เห็นด้วยช่อง 9 ทุ่มงบซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 17 แมทถ่ายทอดสด...
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ทรูวิชั่น และ CTH กับการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 26 – 28 มิ.ย. จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,005 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกระดับการศึกษา อายุและอาชีพ เกี่ยวกับการติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก และทีมสโมสรฟุตบอลที่ชื่นชอบ รวมถึงการได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ ช่องเคเบิ้ล CTH แทน โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน ไม่เกิน ร้อยละ 1.1
จากการสำรวจเกี่ยวกับการติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 67.98 ไม่ได้ติดตาม ขณะที่ร้อยละ 26.83 ติดตามเป็นครั้งคราว และร้อยละ 5.19 ติดตามสม่ำเสมอ และในจำนวนผู้ที่ติดตาม ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.79 ไม่ได้ติดตั้งจานหรือเคเบิ้ลของทรูวิชั่น ขณะที่ ร้อยละ 23.21 ติดตั้งทรูวิชั่น
เมื่อถามถึงการตัดสินใจของประชาชนที่ติดตั้งทรูวิชชั่นต่อกรณีที่ทรูวิชั่น ไม่ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ (เริ่ม 17 สิงหาคม 2556) แต่ CTH ได้รับลิขสิทธิ์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.07 ก็ยังจะใช้ทรูวิชั่น ต่อไป รองลงมา ร้อยละ 19.46 จะเลิกใช้ทรูวิชั่น แล้วติด CTH แทน ร้อยละ 10.74 จะติดตั้ง CTH เพิ่มเติม
เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ที่จะซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษเพื่อถ่ายทอด 17 แมทต่อปี ในวงเงิน 160 ล้านบาท พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 82.22 เห็นด้วย เพราะ เป็นช่องฟรี ทีวี ที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรับชมการถ่ายทอดสด ซึ่งจะเป็นผลดีกับแฟนบอลทั่วไป โดยเฉพาะคนที่ติดตั้ง ทรูวิชั่น เนื่องจากไม่ได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดและคนที่ไม่ได้ติดตั้ง CHT ด้วย และมีเพียงร้อยละ 7.96 ไม่เห็นด้วย เพราะ เป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างมากเกินไป อาจจะไม่คุ้มค่า บางครั้งมีแข่งกันหลายคู่ แต่สามารถดูได้แค่คู่เดียว และยังมีโฆษณาคั่นรายการ อีกทั้งอาจจะทำให้มีการพนันบอลเพิ่มมากขึ้นด้วย
เมื่อถามถึงความนิยมต่อทีมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ชื่นชอบมากที่สุด (ตอบเฉพาะผู้ที่ติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ) 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ร้อยละ 46.51) อันดับ 2 ทีมลิเวอร์พูล (ร้อยละ 25.39) อันดับ 3 ทีมเชลซี ร้อยละ (14.53) อันดับ 4 ทีมอาร์เซนอล (ร้อยละ 8.14) และ อันดับ 5 ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี (ร้อยละ 3.10) และเมื่อวิเคราะห์ในแต่ละช่วงอายุจำแนกตามทีมฟุตบอลที่ตนชื่นชอบ พบว่า ตัวอย่างที่อยู่ในช่วงอายุ 25 – 39 ปี มีสัดส่วนที่ชอบ ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ร้อยละ 48.95) , ทีมเชลซี (ร้อยละ 44.00) , และทีมอาร์เซนอล (ร้อยละ 40.48) สูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ ขณะที่ตัวอย่างที่อยู่ในช่วงอายุ 40 – 59 ปี มีสัดส่วนที่ชอบ ทีมลิเวอร์พูล (ร้อยละ 44.27) , และทีมแมนเชสเตอร์ซิตี (ร้อยละ 43.75) สูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ
ท้ายสุด เมื่อถามถึงการติดตามชมฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 73.28 ระบุว่าติดตาม ซึ่งในจำนวนนี้ ร้อยละ 60.16 ติดตามเป็นครั้งคราว ร้อยละ 13.13 ติดตามสม่ำเสมอ ขณะที่ ร้อยละ 26.72 ระบุว่าไม่ได้ติดตาม ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ที่ติดตามมีความนิยมต่อทีมฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ร้อยละ 35.62) อันดับ 2 ทีมเอสซีจี เมืองทองฯ (ร้อยละ 21.64) อันดับ 3 ทีมชลบุรี เอฟซี (ร้อยละ 12.33) อันดับ 4 เชียงราย ยูไนเต็ดและสงขลา ยูไนเต็ด ในสัดส่วนที่เท่ากัน (ร้อยละ4.11) และ อันดับ 5 บางกอกกล๊าส เอฟซี และสุพรรณบุรี เอฟซีในสัดส่วนที่เท่ากัน (ร้อยละ 3.56)
ผช.ศ.ดร. สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลสำรวจที่ระบุว่า คนไทยติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประมาณร้อยละ 32 ถือว่าเป็นสัดส่วนที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แสดงถึงความนิยมของคนไทยที่มีต่อฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่ CTH ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใน 3 ฤดูกาลจากนี้ไป จะทำให้ CTH สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่เป็นสมาชิกทรูวิชั่นเกือบร้อยละ 20 ระบุว่าจะเปลี่ยนไปใช้ CTH แทนและอีกประมาณร้อยละ 10 จะติดตั้ง CTH เพิ่มเติม ด้วยเหตุนี้เอง ทรูวิชั่น จึงต้องหากลยุทธ์เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ให้ได้ ถึงแม้ว่า จากผลสำรวจระบุว่าทรูวิชั่น จะสามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ประมาณร้อยละ 60 ก็ตาม
สำหรับช่อง 9 ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 17 แมท ต่อปี จากผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดังนั้นช่อง 9 จึงควรสนองตอบในจุดนี้ และถ้าเป็นไปได้ควรเพิ่มจำนวนการถ่ายทอดสดให้มากกว่า 17 แมท ต่อปี
ด้านความนิยมของคนไทยที่มีต่อ 2 ทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นั้น จะเห็นว่า ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจาก ในช่วง 15 ปีหลัง ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จสามารถคว้าแชมป์ได้หลายครั้ง จึงทำให้มีแฟนบอลมากขึ้น ส่วนความนิยมของคนไทยที่มีต่อทีมลิเวอร์พูลนั้น เป็นไปตามที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นทีมที่ได้รับความนิยมจากคนกลุ่มคนไทยช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยแฟนบอลกลุ่มนี้ มีความผูกพันธ์กับทีมลิเวอร์พูล มาเป็นเวลานานมากกว่า 20 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของนักเตะลิเวอร์พูล ระดับตำนานอย่าง จอห์น บาร์นส์ และ เอียน รัช เป็นต้น
สำหรับความนิยมที่มีต่อทีมฟุตบอลในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตรงนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับหัวเรือใหญ่อย่างนายเนวิน ชิดชอบ ที่ได้พัฒนาทีมโดยเริ่มต้นจากศูนย์จนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
-เคเบิ้ล แบ่งให้ INETจากCTH / GMMZ / RS ส่วนใหญ่ที่ติดเพราะดูบอลต่างประเทศทั้งนั้นกว่าครึ่ง
-Hispeed Internet แบ่งให้ JAS INET(CTH) โดยเฉพาะรายหลังโปรเด็ดๆถูกๆรออยู่ในอนาคต
โดนจัดหนักฉีกร่างไปเรื่อยๆแบบนี้ พลิกเป็นกำไรให้ได้เร็วๆนะ True
'นิด้า'ชี้CTHได้ลิขสิทธิ์'พรีเมียร์ลีก'ดึงลูกค้าTrueได้กว่า20%
http://www.thairath.co.th/content/sport/354450
http://oohho.com/feed/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89CTH%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AF%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B220
"นิด้าโพล" เผย CTH ได้ลิขสิทธิ์บอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาล ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้มาก โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นสมาชิกทรูวิชั่นเกือบ 20 % ระบุว่าจะเปลี่ยนไปใช้ CTH พบส่วนใหญ่ 82.22% เห็นด้วยช่อง 9 ทุ่มงบซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 17 แมทถ่ายทอดสด...
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ทรูวิชั่น และ CTH กับการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 26 – 28 มิ.ย. จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,005 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกระดับการศึกษา อายุและอาชีพ เกี่ยวกับการติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก และทีมสโมสรฟุตบอลที่ชื่นชอบ รวมถึงการได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ ช่องเคเบิ้ล CTH แทน โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน ไม่เกิน ร้อยละ 1.1
จากการสำรวจเกี่ยวกับการติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 67.98 ไม่ได้ติดตาม ขณะที่ร้อยละ 26.83 ติดตามเป็นครั้งคราว และร้อยละ 5.19 ติดตามสม่ำเสมอ และในจำนวนผู้ที่ติดตาม ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.79 ไม่ได้ติดตั้งจานหรือเคเบิ้ลของทรูวิชั่น ขณะที่ ร้อยละ 23.21 ติดตั้งทรูวิชั่น
เมื่อถามถึงการตัดสินใจของประชาชนที่ติดตั้งทรูวิชชั่นต่อกรณีที่ทรูวิชั่น ไม่ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ (เริ่ม 17 สิงหาคม 2556) แต่ CTH ได้รับลิขสิทธิ์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.07 ก็ยังจะใช้ทรูวิชั่น ต่อไป รองลงมา ร้อยละ 19.46 จะเลิกใช้ทรูวิชั่น แล้วติด CTH แทน ร้อยละ 10.74 จะติดตั้ง CTH เพิ่มเติม
เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ที่จะซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษเพื่อถ่ายทอด 17 แมทต่อปี ในวงเงิน 160 ล้านบาท พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 82.22 เห็นด้วย เพราะ เป็นช่องฟรี ทีวี ที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรับชมการถ่ายทอดสด ซึ่งจะเป็นผลดีกับแฟนบอลทั่วไป โดยเฉพาะคนที่ติดตั้ง ทรูวิชั่น เนื่องจากไม่ได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดและคนที่ไม่ได้ติดตั้ง CHT ด้วย และมีเพียงร้อยละ 7.96 ไม่เห็นด้วย เพราะ เป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างมากเกินไป อาจจะไม่คุ้มค่า บางครั้งมีแข่งกันหลายคู่ แต่สามารถดูได้แค่คู่เดียว และยังมีโฆษณาคั่นรายการ อีกทั้งอาจจะทำให้มีการพนันบอลเพิ่มมากขึ้นด้วย
เมื่อถามถึงความนิยมต่อทีมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ชื่นชอบมากที่สุด (ตอบเฉพาะผู้ที่ติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ) 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ร้อยละ 46.51) อันดับ 2 ทีมลิเวอร์พูล (ร้อยละ 25.39) อันดับ 3 ทีมเชลซี ร้อยละ (14.53) อันดับ 4 ทีมอาร์เซนอล (ร้อยละ 8.14) และ อันดับ 5 ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี (ร้อยละ 3.10) และเมื่อวิเคราะห์ในแต่ละช่วงอายุจำแนกตามทีมฟุตบอลที่ตนชื่นชอบ พบว่า ตัวอย่างที่อยู่ในช่วงอายุ 25 – 39 ปี มีสัดส่วนที่ชอบ ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ร้อยละ 48.95) , ทีมเชลซี (ร้อยละ 44.00) , และทีมอาร์เซนอล (ร้อยละ 40.48) สูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ ขณะที่ตัวอย่างที่อยู่ในช่วงอายุ 40 – 59 ปี มีสัดส่วนที่ชอบ ทีมลิเวอร์พูล (ร้อยละ 44.27) , และทีมแมนเชสเตอร์ซิตี (ร้อยละ 43.75) สูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ
ท้ายสุด เมื่อถามถึงการติดตามชมฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 73.28 ระบุว่าติดตาม ซึ่งในจำนวนนี้ ร้อยละ 60.16 ติดตามเป็นครั้งคราว ร้อยละ 13.13 ติดตามสม่ำเสมอ ขณะที่ ร้อยละ 26.72 ระบุว่าไม่ได้ติดตาม ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ที่ติดตามมีความนิยมต่อทีมฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ร้อยละ 35.62) อันดับ 2 ทีมเอสซีจี เมืองทองฯ (ร้อยละ 21.64) อันดับ 3 ทีมชลบุรี เอฟซี (ร้อยละ 12.33) อันดับ 4 เชียงราย ยูไนเต็ดและสงขลา ยูไนเต็ด ในสัดส่วนที่เท่ากัน (ร้อยละ4.11) และ อันดับ 5 บางกอกกล๊าส เอฟซี และสุพรรณบุรี เอฟซีในสัดส่วนที่เท่ากัน (ร้อยละ 3.56)
ผช.ศ.ดร. สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลสำรวจที่ระบุว่า คนไทยติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประมาณร้อยละ 32 ถือว่าเป็นสัดส่วนที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แสดงถึงความนิยมของคนไทยที่มีต่อฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่ CTH ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใน 3 ฤดูกาลจากนี้ไป จะทำให้ CTH สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่เป็นสมาชิกทรูวิชั่นเกือบร้อยละ 20 ระบุว่าจะเปลี่ยนไปใช้ CTH แทนและอีกประมาณร้อยละ 10 จะติดตั้ง CTH เพิ่มเติม ด้วยเหตุนี้เอง ทรูวิชั่น จึงต้องหากลยุทธ์เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ให้ได้ ถึงแม้ว่า จากผลสำรวจระบุว่าทรูวิชั่น จะสามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ประมาณร้อยละ 60 ก็ตาม
สำหรับช่อง 9 ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 17 แมท ต่อปี จากผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดังนั้นช่อง 9 จึงควรสนองตอบในจุดนี้ และถ้าเป็นไปได้ควรเพิ่มจำนวนการถ่ายทอดสดให้มากกว่า 17 แมท ต่อปี
ด้านความนิยมของคนไทยที่มีต่อ 2 ทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นั้น จะเห็นว่า ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจาก ในช่วง 15 ปีหลัง ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จสามารถคว้าแชมป์ได้หลายครั้ง จึงทำให้มีแฟนบอลมากขึ้น ส่วนความนิยมของคนไทยที่มีต่อทีมลิเวอร์พูลนั้น เป็นไปตามที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นทีมที่ได้รับความนิยมจากคนกลุ่มคนไทยช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยแฟนบอลกลุ่มนี้ มีความผูกพันธ์กับทีมลิเวอร์พูล มาเป็นเวลานานมากกว่า 20 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของนักเตะลิเวอร์พูล ระดับตำนานอย่าง จอห์น บาร์นส์ และ เอียน รัช เป็นต้น
สำหรับความนิยมที่มีต่อทีมฟุตบอลในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตรงนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับหัวเรือใหญ่อย่างนายเนวิน ชิดชอบ ที่ได้พัฒนาทีมโดยเริ่มต้นจากศูนย์จนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
-เคเบิ้ล แบ่งให้ INETจากCTH / GMMZ / RS ส่วนใหญ่ที่ติดเพราะดูบอลต่างประเทศทั้งนั้นกว่าครึ่ง
-Hispeed Internet แบ่งให้ JAS INET(CTH) โดยเฉพาะรายหลังโปรเด็ดๆถูกๆรออยู่ในอนาคต
โดนจัดหนักฉีกร่างไปเรื่อยๆแบบนี้ พลิกเป็นกำไรให้ได้เร็วๆนะ True