เล่นรัมมี่ “จั่วไพ่ติด” วิเคราะห์ ไทยรัฐออนไน์
ตามนิยามที่เซียนการเมืองเปรียบอาการคึกคักของทีมพรรคประชาธิปัตย์ที่สามารถกำชัยชนะใน
สนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง ปักธงในพื้นที่บอดได้ในรอบ 37 ปี กระตุกความหวังเล็กๆ
อย่างน้อยก็ได้ลุ้นน็อกคู่แข่ง จากที่หมดหวังซึมยาวมานาน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยสถานการณ์ในทางยาวๆมันก็ยังไม่ชัดซักเท่าไหร่
เพราะประเมินจากตัวเลขของกรุงเทพโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศในหัวข้อ
“คะแนนนิยมเป็นอย่างไร หลังเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง และผลงานรับจำนำข้าวขาดทุน”
พบคะแนนนิยมนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ที่ร้อยละ 40.4
ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ร้อยละ 10.8 จากเดิมร้อยละ 51.2
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 31.7 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ร้อยละ 1.4
“ยิ่งลักษณ์” แต้มหดวูบวาบ แต่ “อภิสิทธิ์” ก็ไม่กระเตื้อง
เรื่องของเรื่อง “ยิ่งลักษณ์” กับพรรคเพื่อไทยเจอข้อหา “ผิดสัญญา” หลอกชาวนา
“อภิสิทธิ์” กับประชาธิปัตย์ก็เจออารมณ์ “หมั่นไส้”
ขัดขวางความกินดีอยู่ดีของเกษตรกร ทำให้โครงการจำนำข้าวสะดุด
ชาวบ้านหงุดหงิดทั้งสองฝ่าย
และในจังหวะสอดคล้องต่อเนื่องในทิศทางเดียวกันกับสำนักวิจัยเอแบคโพล
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง
โครงการรับจำนำข้าวต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
โดยตัวเลขประชาชนสูงถึงร้อยละ 81.2
ที่คิดว่ามีการทุจริตคอรัปชันในโครงการรับจำนำข้าว แต่ก็ยังมองว่า
ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนายกฯยิ่งลักษณ์ในการแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าวโดยร้อยละ
33.1 ระบุว่า ให้ทำงานต่อไปโดยที่ไม่ต้องทำอะไร
ในขณะที่ร้อยละ 34.8 ระบุให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี
และนั่นก็นำมาซึ่งบทวิเคราะห์ทิ้งท้ายของเอแบคโพล รัฐบาลยังคงมีโอกาสปรับปรุงแก้ไข
“ปัญหาเขาควาย” หรือที่เรียกว่า DILEMMA ได้
เพราะถ้าจะเดินหน้าต่อไปไม่ปรับปรุงแก้ไขก็ประสบปัญหาแรงเสียดทานจากคนกลุ่มหนึ่ง
ถ้าจะลดราคาจำนำข้าวก็พบกับแรงต่อต้านของคนอีกกลุ่มหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม
เห็นได้ชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังให้โอกาสรัฐบาลปรับปรุงโดยแบ่งออกเป็น
กลุ่มที่ต้องการให้ปรับคณะรัฐมนตรี กลุ่มที่ให้ทำงานต่อไป
กลุ่มที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออก
จะเห็นได้ว่ามีเพียงส่วนน้อยที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่
ดังนั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงยังมี “โอกาส”
ควรให้ผู้มีอำนาจและบารมีในพรรคที่มีความเชี่ยวชาญด้าน “โอกาส”
ในเวลานี้เข้ามาร่วมตัดสินใจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของรัฐบาล
และนั่นก็ล้อกันพอดีกับกระแสปรับ ครม.ที่สัญญาณตรงกันทุกสาย
ตามคิวล่าสุดอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
บินมาเข้าโปรแกรมเช็กสุขภาพประจำปีที่ประเทศสิงคโปร์ ผลออกมา “ฟิตปั๋ง” หมอการันตี
ต่อหน้าพรรคพวกเพื่อนฝูงที่บินไปพบ ทุกอย่างในร่างกายอยู่ในสภาพปกติ
แข็งแรงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
“นายใหญ่” ยังเป็นผู้จัดการทีม ยื้อศึกชิงอำนาจประเทศไทยไปได้อีกนาน
และก่อนอื่นเลย งานด่วนของอดีตนายกฯทักษิณต้องรีบ
ประคองรัฐบาลน้องสาวที่กำลังเผชิญมรสุม “ขาลง” ตามสูตรโคตร
เซียนการตลาด ต้องเปิดเกมยกเครื่อง ครม.ครั้งใหญ่
ตามโจทย์ต้อง “ศัลยกรรม” โฉมหน้ารัฐมนตรีให้ดูสวยหล่อ
กระตุกกระแสดำดิ่งกระดกหัวกลับให้ได้
ก่อนอื่นเลย จับอารมณ์หงุดหงิดของ “นายใหญ่” พุ่งเป้าไปที่ “เดอะโต้ง”
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง ที่ถูก มองว่า “มือไม่ถึงชั้น”
กัปตันทีมเศรษฐกิจมาตั้งแต่ต้น
แต่ติดที่ห้อยพระ “นางพญา” เป็นสายตรงคนสนิทนายกฯ ยิ่งลักษณ์ “ทักษิณ”
เลยเกรงใจน้องสาว
อย่างไรก็ตาม “ฟางเส้นสุดท้าย” คงมาถึงจังหวะขาดผึง
กับอาการตาหูเหลือกของ “เดอะโต้ง”
ที่ทุบโต๊ะให้รัฐบาลลดราคารับจำนำข้าวให้เหลือตันละ 12,000 บาท แบบทันทีทันควัน
อ้างเลยว่า ถ้าลุยรับจำนำตันละ 15,000 บาทต่อไป จะกระเทือนระบบการเงินการคลัง
เพราะรัฐบาลกำลังเข้าสู่ภาวะ “ถังแตก”
ถือเป็นเรื่องแปลกของคนเป็น “ขุนคลัง” ดูแลฐานะการเงิน
มาตลอด แต่ไม่มีการส่งสัญญาณเตือน มารู้ตัวอีกทีก็ไฟจ่อหน้าบ้าน
พาลให้รัฐบาลเสียรังวัดต้องรีบปรับลดราคาจำนำข้าว โดนด่าเปิง
คิวนี้ “เดอะโต้ง” ต้องพ้นกัปตันทีมเศรษฐกิจแน่ อย่างดีพระ “นางพญา”
คงช่วยได้แค่ไม่ให้หลุดทุกตำแหน่ง ให้มีเก้าอี้รัฐมนตรีรองก้นไว้เพื่อรักษาหน้า
เพราะถึงเวลาต้องหลบให้มืออาชีพของจริงมาเสริมทัพ.
ทีมข่าวการเมือง
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/353250
มัวแต่อ่านกระทู้เพื่อนๆ เพลิน ไม่ได้อ่านข่าวสักเท่าไหร่
เอาวิเคราะห์การเมือง ไทยรัฐ ไปอ่านกันก่อน ดีใจ คุณทักษิณ มาดูแลทัน
หวังว่า จะปรับตัวทัน ให้อยู่ต่อยาว ยังไง..ยังไงก็เชียร์ ...นะ
เขาจะว่า รับจ้าง "อวย" หรือ ป่าว ? ...
หมดเวลา ภาคเช้า แล้ว ขอลาเพื่อนๆ ไปจัดการภาระกิจส่วนตัว ...
ดูแล ต้นไม้ อาบน้ำ .... เตรียมข้าวกลางวัน ... เจอกันบ่ายๆ นะคะ
ต้องศัลยกรรมใหญ่แน่ ยิ่งลักษณ์ ....วิเคราะห์การเมือง ...ไทยรัฐออนไลน์
ตามนิยามที่เซียนการเมืองเปรียบอาการคึกคักของทีมพรรคประชาธิปัตย์ที่สามารถกำชัยชนะใน
สนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง ปักธงในพื้นที่บอดได้ในรอบ 37 ปี กระตุกความหวังเล็กๆ
อย่างน้อยก็ได้ลุ้นน็อกคู่แข่ง จากที่หมดหวังซึมยาวมานาน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยสถานการณ์ในทางยาวๆมันก็ยังไม่ชัดซักเท่าไหร่
เพราะประเมินจากตัวเลขของกรุงเทพโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศในหัวข้อ
“คะแนนนิยมเป็นอย่างไร หลังเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง และผลงานรับจำนำข้าวขาดทุน”
พบคะแนนนิยมนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ที่ร้อยละ 40.4
ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ร้อยละ 10.8 จากเดิมร้อยละ 51.2
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 31.7 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ร้อยละ 1.4
“ยิ่งลักษณ์” แต้มหดวูบวาบ แต่ “อภิสิทธิ์” ก็ไม่กระเตื้อง
เรื่องของเรื่อง “ยิ่งลักษณ์” กับพรรคเพื่อไทยเจอข้อหา “ผิดสัญญา” หลอกชาวนา
“อภิสิทธิ์” กับประชาธิปัตย์ก็เจออารมณ์ “หมั่นไส้”
ขัดขวางความกินดีอยู่ดีของเกษตรกร ทำให้โครงการจำนำข้าวสะดุด
ชาวบ้านหงุดหงิดทั้งสองฝ่าย
และในจังหวะสอดคล้องต่อเนื่องในทิศทางเดียวกันกับสำนักวิจัยเอแบคโพล
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง
โครงการรับจำนำข้าวต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
โดยตัวเลขประชาชนสูงถึงร้อยละ 81.2
ที่คิดว่ามีการทุจริตคอรัปชันในโครงการรับจำนำข้าว แต่ก็ยังมองว่า
ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนายกฯยิ่งลักษณ์ในการแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าวโดยร้อยละ
33.1 ระบุว่า ให้ทำงานต่อไปโดยที่ไม่ต้องทำอะไร
ในขณะที่ร้อยละ 34.8 ระบุให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี
และนั่นก็นำมาซึ่งบทวิเคราะห์ทิ้งท้ายของเอแบคโพล รัฐบาลยังคงมีโอกาสปรับปรุงแก้ไข
“ปัญหาเขาควาย” หรือที่เรียกว่า DILEMMA ได้
เพราะถ้าจะเดินหน้าต่อไปไม่ปรับปรุงแก้ไขก็ประสบปัญหาแรงเสียดทานจากคนกลุ่มหนึ่ง
ถ้าจะลดราคาจำนำข้าวก็พบกับแรงต่อต้านของคนอีกกลุ่มหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม
เห็นได้ชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังให้โอกาสรัฐบาลปรับปรุงโดยแบ่งออกเป็น
กลุ่มที่ต้องการให้ปรับคณะรัฐมนตรี กลุ่มที่ให้ทำงานต่อไป
กลุ่มที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออก
จะเห็นได้ว่ามีเพียงส่วนน้อยที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่
ดังนั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงยังมี “โอกาส”
ควรให้ผู้มีอำนาจและบารมีในพรรคที่มีความเชี่ยวชาญด้าน “โอกาส”
ในเวลานี้เข้ามาร่วมตัดสินใจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของรัฐบาล
และนั่นก็ล้อกันพอดีกับกระแสปรับ ครม.ที่สัญญาณตรงกันทุกสาย
ตามคิวล่าสุดอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
บินมาเข้าโปรแกรมเช็กสุขภาพประจำปีที่ประเทศสิงคโปร์ ผลออกมา “ฟิตปั๋ง” หมอการันตี
ต่อหน้าพรรคพวกเพื่อนฝูงที่บินไปพบ ทุกอย่างในร่างกายอยู่ในสภาพปกติ
แข็งแรงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
“นายใหญ่” ยังเป็นผู้จัดการทีม ยื้อศึกชิงอำนาจประเทศไทยไปได้อีกนาน
และก่อนอื่นเลย งานด่วนของอดีตนายกฯทักษิณต้องรีบ
ประคองรัฐบาลน้องสาวที่กำลังเผชิญมรสุม “ขาลง” ตามสูตรโคตร
เซียนการตลาด ต้องเปิดเกมยกเครื่อง ครม.ครั้งใหญ่
ตามโจทย์ต้อง “ศัลยกรรม” โฉมหน้ารัฐมนตรีให้ดูสวยหล่อ
กระตุกกระแสดำดิ่งกระดกหัวกลับให้ได้
ก่อนอื่นเลย จับอารมณ์หงุดหงิดของ “นายใหญ่” พุ่งเป้าไปที่ “เดอะโต้ง”
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง ที่ถูก มองว่า “มือไม่ถึงชั้น”
กัปตันทีมเศรษฐกิจมาตั้งแต่ต้น
แต่ติดที่ห้อยพระ “นางพญา” เป็นสายตรงคนสนิทนายกฯ ยิ่งลักษณ์ “ทักษิณ”
เลยเกรงใจน้องสาว
อย่างไรก็ตาม “ฟางเส้นสุดท้าย” คงมาถึงจังหวะขาดผึง
กับอาการตาหูเหลือกของ “เดอะโต้ง”
ที่ทุบโต๊ะให้รัฐบาลลดราคารับจำนำข้าวให้เหลือตันละ 12,000 บาท แบบทันทีทันควัน
อ้างเลยว่า ถ้าลุยรับจำนำตันละ 15,000 บาทต่อไป จะกระเทือนระบบการเงินการคลัง
เพราะรัฐบาลกำลังเข้าสู่ภาวะ “ถังแตก”
ถือเป็นเรื่องแปลกของคนเป็น “ขุนคลัง” ดูแลฐานะการเงิน
มาตลอด แต่ไม่มีการส่งสัญญาณเตือน มารู้ตัวอีกทีก็ไฟจ่อหน้าบ้าน
พาลให้รัฐบาลเสียรังวัดต้องรีบปรับลดราคาจำนำข้าว โดนด่าเปิง
คิวนี้ “เดอะโต้ง” ต้องพ้นกัปตันทีมเศรษฐกิจแน่ อย่างดีพระ “นางพญา”
คงช่วยได้แค่ไม่ให้หลุดทุกตำแหน่ง ให้มีเก้าอี้รัฐมนตรีรองก้นไว้เพื่อรักษาหน้า
เพราะถึงเวลาต้องหลบให้มืออาชีพของจริงมาเสริมทัพ.
ทีมข่าวการเมือง
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/353250
มัวแต่อ่านกระทู้เพื่อนๆ เพลิน ไม่ได้อ่านข่าวสักเท่าไหร่
เอาวิเคราะห์การเมือง ไทยรัฐ ไปอ่านกันก่อน ดีใจ คุณทักษิณ มาดูแลทัน
หวังว่า จะปรับตัวทัน ให้อยู่ต่อยาว ยังไง..ยังไงก็เชียร์ ...นะ
เขาจะว่า รับจ้าง "อวย" หรือ ป่าว ? ...
หมดเวลา ภาคเช้า แล้ว ขอลาเพื่อนๆ ไปจัดการภาระกิจส่วนตัว ...
ดูแล ต้นไม้ อาบน้ำ .... เตรียมข้าวกลางวัน ... เจอกันบ่ายๆ นะคะ