การที่อ้างอิงว่า การลดราคาประกันข้าวเหลือตันละ 12,000 บาทต่อตัน แล้วบอกว่าเป็นการรักษาวินัยการคลัง แสดงว่าตอนที่หาเสียงไว้นี่ มั่วตัวเลขขึ้นมา ไม่ได้คำนึงถึงวินัยการคลังใช่หรือไม่ ?
แล้วจะให้เชื่อใจนโยบายอื่นๆ ได้อย่างไรว่ารักษาวินัยการคลัง หรือไม่ เช่น สร้างรถไฟฟ้าให้ครบ 10 สาย (จนตอนนี้ยังไปได้ไม่เห่าไหร่) แต่ละสายเก็บ 20 บาท, คืนภาษีให้กับผู้ซื้อรถคันแรก ที่ใช้ภาษีสูงกว่าที่, โตรงการบริหาจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2.2 ล้านล้านบาท ฯลฯ
นอกจากนั้น ตอนนี้ หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจประชุมด่วนว่าจะลดราคาข้าวเหลือ 12,000 บาทต่อตัน ราคาข้าวในตลาดโลกก็ลดลงทันที 10% (ราคานี้ไม่ได้มั่วแน่นอน อ่านนสพ.เศรษฐกิจหรือดูข่าวเศรษฐกิจตามทีวีได้) นี่ยังแน่ว่า ถึงวันประกาศใช้ราคาประกันใหม่ 12,000 บาท ต้นเดือนกรกฏาคม ราคาจะตลาดโลกจะตกลงไปอีกแค่ไหน ?
แต่ที่แน่ๆ คือ ถ้าใช้ราคาตลาดปัจจุบัน * จำนวนข้าวคงเหลือ จะขาดทุนเพิ่มอีกอย่างน้อย 10% ด้วยวิธ๊คำนวณที่รัฐบาลประกาศให้ใช้ตามคณะอนุฯ ของคลังที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจรับรองแล้วว่า จะใช้วิธีนี้เป็นมาตรฐาน (ถ้าเป็นหุ้นเขาจะ mark to market ทุกวัน ข้าวเองก็ mark to market ทุกวันได้ เพราะราคาตลาดฯ มีทุกวันทำการ แต่จำนวนข้าวคงเหลือ ก็รู้ได้เช่นกันจากยอดขายแต่ละวันของกระทรวงพาณิชย์ ถ้าจะอยากรู้ทันต่อเหตุการณ์จริงๆ)
ซึ่งนี่ยังไม่รวมการเสื่อมราคาข้าว, ค่าบริหารจัดการยุ้งฉาง และดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่รัฐบาลยังขาดประสิทธิภาพในการระบายข้าวออกสู่ตลาดโลก
ตอนนี้ ผมก็ชักจะเริ่มสงสัยว่า จริงๆ แล้ว เป็นอย่างที่ชาวนาบอกหรือเปล่าว่า ที่ขาดทุนมากนั้น เพราะการทำงานของรัฐบาลในการขายข้าวเองไม่มีประสิทธิภาพต่างหาก ชาวนาไม่ได้ผิดอะไร ... อย่างน้อยก็เรื่องการขายข้าวที่ส่งออกเสียอันดับ 1 ให้อินเดียกับเวียดนามในรอบหลายสิบปีก็เป็นตัวบ่งบอกได้ชัด (
ตอนนี้ก็เริ่มมีปัญหาว่า ยุ้งฉางไม่รับข้าวที่ชาวนาเก็บเกี่ยวมาเก็บไว้แล้ว เพราะรอราคาใหม่ที่จะมีผลวันที่ 1 กรกฏาคม ทำให้ชาวนาต้องนำไปเก็บไว้เอง ... ซึ่งอาจเน่าเสียได้ ไม่เหมือนเก็บไว้ในยุ้งฉาง)
มิหนำซ้ำ การที่ราคาข้าวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นมานี้ บวกกับการขึ้นค่าแก๊ซหุงต้มและราคาสินค้าอื่นๆ ทำให้สินค้าราคาแพงขึ้นเรียบร้อยแล้ว เช่น ข้าวสิ้นคิด เช่น ข้าวกระเพราไก่, ข้าวผัดขึ้นราคาเป็น 35 บาท (ผมโทรฯ บอกกรมการค้าภายในไป 1 สัปดาห์แล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมาจัดการอะไรเลย) (อย่าบอกว่า สมัยปชป.ราคาก็เป็น 35 บาทแล้ว แม่ครัวร้านข้างบ้านผมยืนยันได้)
แต่ การที่ลดราคาข้าวนี้ รับรองได้ว่า พ่อค้าหรือคนขายของไม่มีทางลดราคาขายสินค้าต่างๆ ลงอย่างแน่นอน
สรุปว่า ชาวนาได้เงินน้อยกว่าเดิม และประชาชนมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิมไม่ได้ลดลง .. ถืดว่า ทั้งนโยบายราคาข้าวตันละ 15,000 บาทและนโบบายความยากจนหมดไปใน 4 ปี (เพราะค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นมาก) ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แล้วนโยบายหรือโครงการไหนอีก ที่จะได้โดนแฉว่า ตัวตัวเลขมั่ว ไม่รักษาวินัยทางการคลัง เพราะเรื่องขาดทุนราคาข้าวนี่ กว่าจะมีตัวเลขได้ ก็ต้องรอจนมีข่าวลือเรื่องมูดดี้อาจลดเครดิตประเทศ ถึงมีการตื่นเต้นหาตัวเลขขาดทุนที่แท้จริง
แล้วโครงการอื่นๆ จะต้องใช้เวลา หรือ ต้องเกิดเหตุการณ์จวนตัวใดขึ้น ... รํฐบาลถึงจะออกมาหาตัวเลขว่า ขาดทุนไปแล้วเท่าไหร่ ? เสียวินัยทางการคลังไปแล้วหรือไม่ ?
หมายเหตุ : ส่วนปชป.จะหาทางได้ประโยชน์จากกรณีนี้เกินจริงอย่างไร (ที่สำคัญคือเรื่องคอรัปชั่น) ... นั่นเป็นเรื่องทางการเมือง
ตราบใดที่ยังหาหลักฐานไม่ได้แน่ชัด หรือปปช.ชี้มูล ผมก็ไม่ได้เชื่อปชป.ไปทุกเรื่องสักหน่อย ... มีปัญญาใช้ความคิดของตัวเองจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ครับ
การลดประกันราคาข้าวเหลือ 12,000 โดยบอกว่ารักษาวินัยการคลัง หรือ ขายข้าวไม่เป็น ? ราคาข้าวตลาดโลกลดทันที ขาดทุนเพิ่มทันที
แล้วจะให้เชื่อใจนโยบายอื่นๆ ได้อย่างไรว่ารักษาวินัยการคลัง หรือไม่ เช่น สร้างรถไฟฟ้าให้ครบ 10 สาย (จนตอนนี้ยังไปได้ไม่เห่าไหร่) แต่ละสายเก็บ 20 บาท, คืนภาษีให้กับผู้ซื้อรถคันแรก ที่ใช้ภาษีสูงกว่าที่, โตรงการบริหาจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2.2 ล้านล้านบาท ฯลฯ
นอกจากนั้น ตอนนี้ หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจประชุมด่วนว่าจะลดราคาข้าวเหลือ 12,000 บาทต่อตัน ราคาข้าวในตลาดโลกก็ลดลงทันที 10% (ราคานี้ไม่ได้มั่วแน่นอน อ่านนสพ.เศรษฐกิจหรือดูข่าวเศรษฐกิจตามทีวีได้) นี่ยังแน่ว่า ถึงวันประกาศใช้ราคาประกันใหม่ 12,000 บาท ต้นเดือนกรกฏาคม ราคาจะตลาดโลกจะตกลงไปอีกแค่ไหน ?
แต่ที่แน่ๆ คือ ถ้าใช้ราคาตลาดปัจจุบัน * จำนวนข้าวคงเหลือ จะขาดทุนเพิ่มอีกอย่างน้อย 10% ด้วยวิธ๊คำนวณที่รัฐบาลประกาศให้ใช้ตามคณะอนุฯ ของคลังที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจรับรองแล้วว่า จะใช้วิธีนี้เป็นมาตรฐาน (ถ้าเป็นหุ้นเขาจะ mark to market ทุกวัน ข้าวเองก็ mark to market ทุกวันได้ เพราะราคาตลาดฯ มีทุกวันทำการ แต่จำนวนข้าวคงเหลือ ก็รู้ได้เช่นกันจากยอดขายแต่ละวันของกระทรวงพาณิชย์ ถ้าจะอยากรู้ทันต่อเหตุการณ์จริงๆ)
ซึ่งนี่ยังไม่รวมการเสื่อมราคาข้าว, ค่าบริหารจัดการยุ้งฉาง และดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่รัฐบาลยังขาดประสิทธิภาพในการระบายข้าวออกสู่ตลาดโลก
ตอนนี้ ผมก็ชักจะเริ่มสงสัยว่า จริงๆ แล้ว เป็นอย่างที่ชาวนาบอกหรือเปล่าว่า ที่ขาดทุนมากนั้น เพราะการทำงานของรัฐบาลในการขายข้าวเองไม่มีประสิทธิภาพต่างหาก ชาวนาไม่ได้ผิดอะไร ... อย่างน้อยก็เรื่องการขายข้าวที่ส่งออกเสียอันดับ 1 ให้อินเดียกับเวียดนามในรอบหลายสิบปีก็เป็นตัวบ่งบอกได้ชัด (ตอนนี้ก็เริ่มมีปัญหาว่า ยุ้งฉางไม่รับข้าวที่ชาวนาเก็บเกี่ยวมาเก็บไว้แล้ว เพราะรอราคาใหม่ที่จะมีผลวันที่ 1 กรกฏาคม ทำให้ชาวนาต้องนำไปเก็บไว้เอง ... ซึ่งอาจเน่าเสียได้ ไม่เหมือนเก็บไว้ในยุ้งฉาง)
มิหนำซ้ำ การที่ราคาข้าวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นมานี้ บวกกับการขึ้นค่าแก๊ซหุงต้มและราคาสินค้าอื่นๆ ทำให้สินค้าราคาแพงขึ้นเรียบร้อยแล้ว เช่น ข้าวสิ้นคิด เช่น ข้าวกระเพราไก่, ข้าวผัดขึ้นราคาเป็น 35 บาท (ผมโทรฯ บอกกรมการค้าภายในไป 1 สัปดาห์แล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมาจัดการอะไรเลย) (อย่าบอกว่า สมัยปชป.ราคาก็เป็น 35 บาทแล้ว แม่ครัวร้านข้างบ้านผมยืนยันได้)
แต่ การที่ลดราคาข้าวนี้ รับรองได้ว่า พ่อค้าหรือคนขายของไม่มีทางลดราคาขายสินค้าต่างๆ ลงอย่างแน่นอน
สรุปว่า ชาวนาได้เงินน้อยกว่าเดิม และประชาชนมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิมไม่ได้ลดลง .. ถืดว่า ทั้งนโยบายราคาข้าวตันละ 15,000 บาทและนโบบายความยากจนหมดไปใน 4 ปี (เพราะค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นมาก) ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แล้วนโยบายหรือโครงการไหนอีก ที่จะได้โดนแฉว่า ตัวตัวเลขมั่ว ไม่รักษาวินัยทางการคลัง เพราะเรื่องขาดทุนราคาข้าวนี่ กว่าจะมีตัวเลขได้ ก็ต้องรอจนมีข่าวลือเรื่องมูดดี้อาจลดเครดิตประเทศ ถึงมีการตื่นเต้นหาตัวเลขขาดทุนที่แท้จริง แล้วโครงการอื่นๆ จะต้องใช้เวลา หรือ ต้องเกิดเหตุการณ์จวนตัวใดขึ้น ... รํฐบาลถึงจะออกมาหาตัวเลขว่า ขาดทุนไปแล้วเท่าไหร่ ? เสียวินัยทางการคลังไปแล้วหรือไม่ ?
หมายเหตุ : ส่วนปชป.จะหาทางได้ประโยชน์จากกรณีนี้เกินจริงอย่างไร (ที่สำคัญคือเรื่องคอรัปชั่น) ... นั่นเป็นเรื่องทางการเมือง
ตราบใดที่ยังหาหลักฐานไม่ได้แน่ชัด หรือปปช.ชี้มูล ผมก็ไม่ได้เชื่อปชป.ไปทุกเรื่องสักหน่อย ... มีปัญญาใช้ความคิดของตัวเองจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ครับ