อี้ชนะ-แซมแพ้ .... คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 โดย นฤตย์ เสกธีระ ....มติชนออนไลน์

กระทู้สนทนา
max@matichon.co.th



พรรคเพื่อไทยคงต้องสรุปบทเรียนอีกครั้งสำหรับสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร

ครั้งแรก คือ ผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ซึ่งปรากฏออกมาว่าพลิกโผ ทำลายโพล

ทั้งนี้ หากจำได้ ครั้งนั้นแรกเริ่มเดิมทีโพลทุกสำนักออกมาตรงกันเป๊ะ แม้แต่ผลเอ็กซิตโพลก็ยืนยันว่า
พรรคเพื่อไทยกวาดเรียบ

แต่สุดท้ายผลกลับเป็นตรงกันข้าม

เพื่อไทยได้ 10 ที่นั่ง อีก 23 ที่นั่งประชาธิปัตย์กวาดเรียบ

ครั้งที่สอง คือ การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันที่ 3 มีนาคม 2556

แม้ครั้งนั้นไม่อาจถือว่าพรรคเพื่อไทยแพ้ราบคาบ เพราะคะแนนของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ
ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้ถึง 1,077,899 คะแนน

แต่ต้องยอมรับว่าแพ้ เพราะคนกรุงออกมา "แอนตี้โหวต"

เทคะแนนให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์

ทิ้งโค้งเข้าเส้นชัยด้วยคะแนน 1,256,231 เสียง

และมาถึงครั้งที่สาม คือ การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 12 ดอนเมือง เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา

ผลการเลือกตั้งออกมาแล้วว่า นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ จากพรรคประชาธิปัตย์ เอาชนะ
นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ แซม จากพรรคเพื่อไทยไปได้

ชนะด้วยคะแนนที่เหนือกว่า 2 พันคะแนน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ทำลายสถิติ ชนะในเขตนี้ได้ในรอบ 37 ปี

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมืองครั้งนี้ เกิดขึ้นเพราะ นายการุณ โหสกุล หรือ เก่ง ต้องโทษแบนทางการเมือง

เมื่อเก่ง-การุณ ลงเลือกตั้งไม่ได้ พรรคเพื่อไทยดันให้นายยุรนันท์ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ มาลง ส.ส.ระบบเขต

จุดนี้ถูกตั้งคำถาม...ทำไมต้องลาออกจาก ส.ส. เพื่อมาเป็น ส.ส.

อีกจุดอ่อนสำหรับนายยุรนันท์ คือ พื้นที่ดอนเมืองเป็นของเก่ง-การุณ ไม่ใช่ของแซม-ยุรนันท์
ดังนั้น เมื่อมาเจอกับอี้-แทนคุณ เจ้าถิ่นอีกคนหนึ่ง

นายยุรนันท์จึงต้องรับมือหนักเอาการ !

แม้ตามสถิติที่ผ่านมา คะแนนพรรคเพื่อไทยจะแรงไม่มีตก

การเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เก่ง-การุณชนะอี้-แทนคุณ และเมื่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
คะแนนในเขตดอนเมืองก็ทะลุเป้า

แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ เก่ง-การุณเกรงนายยุรนันท์จะถูกจับแพ้ฟาล์วเลยเก็บตัว ไม่กล้าออกมาช่วย

ขณะที่แซม-ยุรนันท์ ลงพื้นที่หาเสียงน้อยกว่าอี้-แทนคุณ คนเจ้าถิ่น

ทำให้อี้-แทนคุณ ในฐานะผู้เดินหาเสียงมายาวนานคว้าชัยชนะเลือกตั้งซ่อมไปได้

นี่คือ เสน่ห์ประชาธิปไตย...การปกครองที่ประชาชนเลือกได้

ใครอยู่ใกล้ประชาชน ใครไม่ทอดทิ้งประชาชน ไม่ลืมสัญญาหาเสียงที่เคยพูดไว้
ประชาชนก็พร้อมเดินทางไปเลือก

นี่คือ เสน่ห์ประชาธิปไตย

แม้ชัยชนะในการเลือกตั้งแต่ละครั้งจะมีปัจจัยสู่ความสำเร็จและความพ่ายแพ้หลากหลายมากมาย

แต่ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยไหนเหตุผลกลใด สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการตัดสินใจของประชาชน

ดังนั้น ทุกๆ สนามเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนต้องพร้อมรับฟังผล

ชนะหรือแพ้

คนชนะย่อมรู้สึกดีใจ ส่วนคนแพ้ต้องรู้สึกเศร้า

หากแต่ความดีใจ และความเศร้านั้นมีเวลาจำกัดครับ เพราะอีกไม่เกิน 4 ปีข้างหน้า
การเลือกตั้งจะกลับมาใหม่

คนชนะต้องรักษาแชมป์ ส่วนคนแพ้ได้รับสิทธิในการแก้มือ โดยมีประชาชน
เจ้าเก่านี่แหละเป็นผู้ตัดสิน

ตัดสินตามวิถีประชาธิปไตย การปกครองที่แข่งกันเอาชนะใจประชาชน

ไม่ใช่ดูถูกว่าประชาชนโง่ ไม่ใช่การข่มขู่ให้ประชาชนกลัว หรือกล่าวหาว่าประชาชน
เป็นโจร เหมือนดั่งที่เคยได้ยินมา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371557857&grpid=&catid=02&subcatid=0207

บอกไว้เหมือนเป็นการบ้าน  ที่บอกล่วงหน้า  กับ..แซม..และพรรคเพื่อไทย  เมื่ออาสามาทำงานแล้ว
ก็ต้องไม่ทอดทิ้งประชาชน  วันนี้ ปชช.คือผู้ตัดสิน  ไม่ว่าวันนี้คุณจะเป็นผู้แทนหรือไม่ ก็ตาม  แต่การทำงาน
ต่อไปนี้ของคุณ  หมายถึงอนาคตของทั้ง 2 คน ในวันที่ปชช.มีสิทธิ์ในการตัดสินอีกครั้ง .....

ชอบ "มติชน"  ตรงนี้ แหละ  ตรงไปตรงมา  ไม่ต้องด่าทอ เสียดสี  ไม่ว่ารัฐบาล  หรือ นายกฯ
จะมาจากไหน  แต่ปชช.ก็ตัดสินใจเลือกแล้ว ...รอไปก่อน  อีก 2  ปี  ก็มาตัดสินกันใหม่   ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่