อยากระบายให้ใครได้ฟัง อยากให้ฟัง แล้วบอกทีว่า... เดี๋ยวนี้ เป็นแบบนี้กันหมดเหรอ
อะฮั้นทำงานที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จัดการทั่วไป
อาทิ ดูแลจดหมาย พัสดุ และอื่นๆ อีกมากมาย มากมาย
และแล้ว...ก็มาถึงวันที่ไม่ค่อยปกติอีกวันหนึ่ง
อะฮั้นมัวยุ่งเรื่องใบถอนเงินสำหรับคุณพนักงานความสะอาด
เจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาต่อไฟ ไปปิดวาว์ลน้ำ เปลี่ยนหลอดไฟ ทำให้จัดการเรื่องจดหมายช้ากว่าปกติ
คือโดยปกติ อะฮั้นจะเริ่มงานด้วยการจัดการจดหมาย โดยจัดการพวกลงทะเบียน EMS และพัสดุก่อน
โดยนำมาจดลงสมุด และเขียนใบจิ๋วลงวันที่ ไปแปะไว้หน้าตู้รับจดหมายของแต่ละห้อง
จากนั้นค่อยถึงคิวของจดหมายทั่วไป
ขณะที่อะฮั้นทำตามที่กล่าวมาจนเสร็จ และกำลังตั้งอกตั้งใจหยอดจดหมายสัพเพเหระใส่ตู้มิให้เกิดผิดพลาดแบบจดหมายผิดซอง
ยามนั้นก็มีชะนีนางหนึ่ง นวยนาดออกมาจากลิฟต์ (หน้าตู้จดหมายนั่นแหละ) เธอปรายตามาแล้วก็เอ่ยลอยๆว่า
“จะรับของ” ประมาณนั้น (จำไม่ได้ ไม่ค่อยอยากจำ)
"ห้องไหนค่ะ" อะฮั้นหันมาตามเสียงทันที ทำท่ายินดีราวเสี่ยวเอ่อร์เห็นแขกเข้าร้าน
"ห้อง..." เสียงกระตุกตอบมา ขณะที่สีหน้าอะฮั้นเจื่อนลง เมื่อสองตาเหลือบเห็น...สองมือของนางถือถุงที่คล้ายถุงขยะมาสองใบ
“จะรับเลยหรือค่ะ” อะฮั้นถาม น้ำเสียงหวานแต่สลดลงเล็กน้อย ด้วยคาดว่านางชะนีน้อยคงจากไปทิ้งขยะก่อน
“รับเลย” เสียงกระตุกๆ ตอบมา
อะฮั้นแตกตื่นยินดี รีบคว้าใบจิ๋วจากหน้าตู้เจ้าหล่อนแล้วผลุบกลับเข้าห้องทำการ
ทิ้งจดหมายที่ยังหยอดตู้ไม่เสร็จทันที เอามือปัดก้นสองสามหนคว้าสมุดรับพัสดุมาเตรียมจ่ายของเต็มที่ แต่นางชะนีหายไปไหนแล้ว....
สองตาสอดส่ายหาลูกค้าอย่างแตกตื่น ก่อนจะพบว่านางเดินบิดก้นออกไปที่ถังขยะนอกตึก ทิ้งไอ้สองถุงในมือ
อะฮั้นมองดูชะนีน้อยแวะจ๊ะจ๋า กับหนุ่มข้างทางด้วยความเสียใจ
ไหนว่าจะรับเลยไง
อะฮั้นมองกองจดหมายที่รอให้หยอดลงตู้อย่างสงสาร เจ้าของเขาก็คงรอรับกลับบ้านเหมือนกัน
รอไปก่อนนะ รอชะนีมารับของกลับป่า
รอ... แล้วเธอก็มา
อะฮั้นรีบนำใบจิ๋วปิดหน้าตูมาแสดงให้นางดูพลางอธิบาย
“เอาใบนี้จากหน้าตู้มาด้วยนะคะ จะได้ดูวันที่ และในใบนี้จะบอกว่าเป็นอะไร” อะฮั้นอธิบายพลางชี้ให้ดูจุดสังเกตประกอบอย่างคล่องแคล่ว เพราะอธิบายเป็นประจำ
“ไม่มี” เสียงกระตุกตอบมา
เอ๋อ ก็นี่อะฮั้นวิ่งไปดึงมาจากหน้าตู้ของแกนะ ถ้าไม่วิ่งไปดึงมาเองบางทีเจอพวกงง
ตอนมารับไม่เอามาด้วย แล้วมีงง เอามารับของซ้ำ ให้หาไม่เจอจนใจหายใจคว่ำมาแล้ว ดีที่เจอว่ามีคนลงชื่อรับไปแล้วจึงรอดตัวไป
“มีค่ะ พอเปิดทำการแล้วพี่เช็คเสร็จจะเอาไปแปะไว้”
“ไม่มี” เสียงตวัดสั้นๆ สั้นกว่ากระตุก
ชะรอยนางชะนีน้อยคงจะสายตาสั้น หรือไม่ก็มีดวงตาคับแคบเหมือนจิตใจ
ตอนที่บิดตรู..ด ออกมาจากลิฟต์ ก็ไม่ได้มองว่าอะฮั้นกำลังทำงานอย่างขะมีขมัน ปล่อยให้อะฮั้นต้องมาลอยหน้าลอยตาคอยเธอ
หรือไม่นางก็มัวแต่ตั้งใจอยู่กับการเดินส่ายตรู...ด ตอนขึ้นห้องยังไม่เห็นใบจิ๋ว พอตอนลงมา ถ้ามองหน้าตู้จดหมายของตัวเองอีกทีก็น่าจะเห็น
(เพราะก็คงดูเวลาแล้วล่ะ ว่าถึงเวลาทำการ ถึงได้ส่ายตรู..ดลงมา)
ต่อให้เป็นบุคลากรที่เปี่ยมประสิทธิภาพปานใด ก็ต้องใช้เวลาเตรียมการ ขนาดโลกออนไลน์ยังต้องรอเวลาคอนเน็ค ต่อให้เจอบุรุษไปรษณีย์มาตัวเป็นๆ ก็ใช่จะรับของได้ทันที
สรุปอะฮั้นได้แต่ปวดใจ เพราะไม่รู้ว่านางชะนีน้อยเข้ากรณีใด
แล้วก็ปลง... เพราะต่อไป อะฮั้นคงลืม
อะไรไม่ดีคงต้องลบมันออกจากหัว
....
เฮ้อ บอกที ว่าคนยังงี้ ยังมีอีกเยอะป่ะ
มาปรับทุกข์ ช่วยอ่านหน่อยนะ
อะฮั้นทำงานที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จัดการทั่วไป
อาทิ ดูแลจดหมาย พัสดุ และอื่นๆ อีกมากมาย มากมาย
และแล้ว...ก็มาถึงวันที่ไม่ค่อยปกติอีกวันหนึ่ง
อะฮั้นมัวยุ่งเรื่องใบถอนเงินสำหรับคุณพนักงานความสะอาด
เจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาต่อไฟ ไปปิดวาว์ลน้ำ เปลี่ยนหลอดไฟ ทำให้จัดการเรื่องจดหมายช้ากว่าปกติ
คือโดยปกติ อะฮั้นจะเริ่มงานด้วยการจัดการจดหมาย โดยจัดการพวกลงทะเบียน EMS และพัสดุก่อน
โดยนำมาจดลงสมุด และเขียนใบจิ๋วลงวันที่ ไปแปะไว้หน้าตู้รับจดหมายของแต่ละห้อง
จากนั้นค่อยถึงคิวของจดหมายทั่วไป
ขณะที่อะฮั้นทำตามที่กล่าวมาจนเสร็จ และกำลังตั้งอกตั้งใจหยอดจดหมายสัพเพเหระใส่ตู้มิให้เกิดผิดพลาดแบบจดหมายผิดซอง
ยามนั้นก็มีชะนีนางหนึ่ง นวยนาดออกมาจากลิฟต์ (หน้าตู้จดหมายนั่นแหละ) เธอปรายตามาแล้วก็เอ่ยลอยๆว่า
“จะรับของ” ประมาณนั้น (จำไม่ได้ ไม่ค่อยอยากจำ)
"ห้องไหนค่ะ" อะฮั้นหันมาตามเสียงทันที ทำท่ายินดีราวเสี่ยวเอ่อร์เห็นแขกเข้าร้าน
"ห้อง..." เสียงกระตุกตอบมา ขณะที่สีหน้าอะฮั้นเจื่อนลง เมื่อสองตาเหลือบเห็น...สองมือของนางถือถุงที่คล้ายถุงขยะมาสองใบ
“จะรับเลยหรือค่ะ” อะฮั้นถาม น้ำเสียงหวานแต่สลดลงเล็กน้อย ด้วยคาดว่านางชะนีน้อยคงจากไปทิ้งขยะก่อน
“รับเลย” เสียงกระตุกๆ ตอบมา
อะฮั้นแตกตื่นยินดี รีบคว้าใบจิ๋วจากหน้าตู้เจ้าหล่อนแล้วผลุบกลับเข้าห้องทำการ
ทิ้งจดหมายที่ยังหยอดตู้ไม่เสร็จทันที เอามือปัดก้นสองสามหนคว้าสมุดรับพัสดุมาเตรียมจ่ายของเต็มที่ แต่นางชะนีหายไปไหนแล้ว....
สองตาสอดส่ายหาลูกค้าอย่างแตกตื่น ก่อนจะพบว่านางเดินบิดก้นออกไปที่ถังขยะนอกตึก ทิ้งไอ้สองถุงในมือ
อะฮั้นมองดูชะนีน้อยแวะจ๊ะจ๋า กับหนุ่มข้างทางด้วยความเสียใจ
ไหนว่าจะรับเลยไง
อะฮั้นมองกองจดหมายที่รอให้หยอดลงตู้อย่างสงสาร เจ้าของเขาก็คงรอรับกลับบ้านเหมือนกัน
รอไปก่อนนะ รอชะนีมารับของกลับป่า
รอ... แล้วเธอก็มา
อะฮั้นรีบนำใบจิ๋วปิดหน้าตูมาแสดงให้นางดูพลางอธิบาย
“เอาใบนี้จากหน้าตู้มาด้วยนะคะ จะได้ดูวันที่ และในใบนี้จะบอกว่าเป็นอะไร” อะฮั้นอธิบายพลางชี้ให้ดูจุดสังเกตประกอบอย่างคล่องแคล่ว เพราะอธิบายเป็นประจำ
“ไม่มี” เสียงกระตุกตอบมา
เอ๋อ ก็นี่อะฮั้นวิ่งไปดึงมาจากหน้าตู้ของแกนะ ถ้าไม่วิ่งไปดึงมาเองบางทีเจอพวกงง
ตอนมารับไม่เอามาด้วย แล้วมีงง เอามารับของซ้ำ ให้หาไม่เจอจนใจหายใจคว่ำมาแล้ว ดีที่เจอว่ามีคนลงชื่อรับไปแล้วจึงรอดตัวไป
“มีค่ะ พอเปิดทำการแล้วพี่เช็คเสร็จจะเอาไปแปะไว้”
“ไม่มี” เสียงตวัดสั้นๆ สั้นกว่ากระตุก
ชะรอยนางชะนีน้อยคงจะสายตาสั้น หรือไม่ก็มีดวงตาคับแคบเหมือนจิตใจ
ตอนที่บิดตรู..ด ออกมาจากลิฟต์ ก็ไม่ได้มองว่าอะฮั้นกำลังทำงานอย่างขะมีขมัน ปล่อยให้อะฮั้นต้องมาลอยหน้าลอยตาคอยเธอ
หรือไม่นางก็มัวแต่ตั้งใจอยู่กับการเดินส่ายตรู...ด ตอนขึ้นห้องยังไม่เห็นใบจิ๋ว พอตอนลงมา ถ้ามองหน้าตู้จดหมายของตัวเองอีกทีก็น่าจะเห็น
(เพราะก็คงดูเวลาแล้วล่ะ ว่าถึงเวลาทำการ ถึงได้ส่ายตรู..ดลงมา)
ต่อให้เป็นบุคลากรที่เปี่ยมประสิทธิภาพปานใด ก็ต้องใช้เวลาเตรียมการ ขนาดโลกออนไลน์ยังต้องรอเวลาคอนเน็ค ต่อให้เจอบุรุษไปรษณีย์มาตัวเป็นๆ ก็ใช่จะรับของได้ทันที
สรุปอะฮั้นได้แต่ปวดใจ เพราะไม่รู้ว่านางชะนีน้อยเข้ากรณีใด
แล้วก็ปลง... เพราะต่อไป อะฮั้นคงลืม
อะไรไม่ดีคงต้องลบมันออกจากหัว
....
เฮ้อ บอกที ว่าคนยังงี้ ยังมีอีกเยอะป่ะ