คงไม่ได้ขอมากไปหรอกมั่ง...กับการขอพื้นที่ตรงนี้ให้ได้ระบายออกมาบ้าง...ขอพื้นที่เล็ก...ให้คนตัวเล็ก(ลงพุงอย่างหนู)ด้วยเถอะ
ี
ชีวิตคนเราล้วนแล้วแต่มีปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น เรามักจะมองว่าปัญหาของเราใหญ่กว่าชาวบ้านเสมอ...แต่จริง ๆ ไม่หรอกอย่าเชื่อแบบนั้นเสมอไป...คิดซะว่าวันนี้เราเจอเรื่องที่แย่ แต่เชื่อเถอะมันต้องมีคนที่แย่กว่าเรา...คิดบวก ๆ เข้าไว้ (พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ได้ลองหรือยัง) ปัญหามันก็มีไว้ให้แก้ ก็จงเชื่อมั่นในตัวเองว่ามันต้องแก้ได้สิ แค่จะช้าหรือเร็ว โลกเปรียบเสมือนห้องเรียนที่เรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น (บ่นไีีรฟ่ะเนี่ยตู)
ชีวิตของหนู...วันแรกจนกระทั่งหนูเกิดมา ใครหลาย ๆ คนก็อิจฉาหนูทั้งนั้น หนูเกิดมาพร้อมความรัก พร้อมเงินทอง พร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ใครมันจะเกิดไปโชคดีตลอดชีวิตจริงป่ะ อยู่มาวันนึงพ่อตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็ก และต่อมาพี่เลี้ยงของหนูกลายมาเป็นภรรยาของพ่ออีักคน หนูได้แม่เพิ่มทันที ยังไม่พอ...เพราะพ่อตัวดีของแม่กลับไปคืนดีกับแฟนเก่าอีก ฮ่า ๆ สรุปหนูก็ได้แม่เพิ่มมาอีก โดยที่แม่หนูก็ยังอยู่ที่เดิม แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั่นไม่ใช่ปัญหาของชีวิตและครอบครัวหนูเลย พอดีพ่อหนูจบบริหาร(เอกครอบครัว)เพราะพ่อหนูจัดการทุกอย่างโอเคดี พ่อ และแม่ ๆ ลูก ๆ พวกเราอยู่รวมกันภายในบ้านหลังเดียว ไม่มีปัญหาตบตีกันเหมือนในละคร(จุดนี่ไม่ได้สนับสนุนให้คนนอกใจ) ก็อีกแหละเหมือนชีวิตจะดี แต่เปล่าเลย
จุดต่อมาของชีวิต ที่บ้านอยากรวยทางลัด(ไม่มีทางเป็นจริง)จากที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง...กลับกลายเป็นไม่มี ข้าวบางวันยังต้องกินข้าวคลุกน้ำปลาประทังชีวิตเลย ทุกคนในครอบครัวต่างพยายามช่วยกันทำมาหากิน เพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด จนไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูก ๆ น้องชายต่างมารดา หันเหตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตอนนั้นหนูกำลังอยู่ในช่วงเอ็นทรานซ์ หนูสอบติดมหาลัยรัฐแห่งนึง ศูนย์รังสิต ไม่ต้องถามต่อว่าได้เรียนมั้ย บอกคำเดียวไม่ได้เรียนที่นี่ เนื่องจากไม่มีเงิน สมัยนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่าการกู้ยืมเงินมันกู้ยังไง เทคโนยีก็ไม่ได้เหมือนสมัยนี้ เด็กสมัยนี้โชคดีกว่า แต่กลับพยายามไม่ไขว้ขว้ากับโอกาสดี ๆ
ตอนนั้นก็ยังอยู่ในช่วงมึนงงของชีวิต ยังไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี จังหวะตอนก่อนโชคดีเพราะว่าเรียนรามแบบนอนดีกรีควบคู่กับการเรียนม.ปลาย จบม.ปลายก็เทียบโอน ทำให้เก็บหน่วยกิตไปได้เยอะ แต่ก็อย่างว่ายังหาเงินเรียนต่อไม่ได้ จึงหยุด ๆ ไปพัก กะว่าจะทำงานก่อนแล้วค่อยหาทางเรียนต่อ ยังไม่ทันจะได้การงาน ใครจะไปรู้ว่าวันนึง น้องชายต่างมารดาไขเอากุญแจสำรอง หวังจะทำมิดีมิร้ายเรา...เดชะบุญแค่ไหนที่หนีรอดออกมาได้ และหนูก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านเลย คืออย่างที่บอกสมัยนั้นมันก็ไม่ได้พัฒนาอะไรมากมาย จะไปแจ้งความ ก็ไม่เป็นอีก สรุปเรื่องไม่ได้ไปแจ้ง แต่จากเเหตุการณ์วันนั้นทำให้ทุกวันนี้น้องชายเลิกยาได้ ก็คิดในด้านบวกๆ ถือว่าซื้อชีวิตคนใหม่
ออกจากบ้าน ตัดสินใจไปอยู่กับผู้ชายคนนึง อายุอานามโตกว่าเรามาก รู้ตลอดว่าเค้ามาจีบ แต่ไม่เคยสนใจเค้าเลย ด้วยเหตุผลเด็ก ๆ เค้าไม่ใช่คนในสเปค แต่ที่ผ่านมาเวลามีปัญหาอะไรก็มักจะถามกับคนนี้เสมอ เค้าเหมือนเป็นที่ปรึกษาให้เราตลอด ไม่มทางเลือก ตัดสินไปอยู่กับเค้าเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่บ้านเค้าดีมาก เค้าเอ็นดู เลี้ยงดูเราดี ไปอยู่ก็พยายามช่วยงานทุกอย่าง พยายามหางานทำเพื่อให้ได้เงิน จังหวะดีพอเริ่มทำงานมีเงินเก็บตัดสินใจเรียนต่อมหาลัยรัฐแห่งนึง พร้อมลงรามควบต่อ เพราะคิดว่าชีวิตถ้าเราได้เรียนเราจะเจออะไรดี ๆ ขึ้นอีก กระทั่งเวลาผ่านไปเริ่มเห็นความดีของเค้า ครอบครัว เวลาต่อมาจึงตัดสินใจแต่งงาน...แต่โชคร้ายมันคงเหมาะกับฉันมากกว่า เพราะว่า...ว่าที่สามี ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก่อนแต่งงาน 7 วัน เจ็บปวด ทรมาน และหนูก็เกรงใจที่บ้านเค้าสุดท้าย...ตัดสินใจโทรกลับไปบ้านตัวเอง บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ พ่อแม่ดีใจ พร้อมรับเรากลับมา
พ่อรู้ว่าเรากลัว จึงตัดสินใจให้อยู่คอนโดของพ่อที่เคยซื้อไว้นานแล้ว เจออ.ที่ดีอ.พาไปฝากงาน เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหมือนเดิม เหนื่อย แต่สู้ไม่เคยท้อ หยิ่งด้วยไม่ขอเงินที่บ้าน ขอแค่ที่พักอาศัยเท่านั้น จนกระทั่งมั่ว ๆ ซั่ว ๆ ระหว่างเรียนไปจับธุรกิจอยู่อย่าง และมันทำให้ตั้งตัวได้ ต่อมาขยายงานคนเดียวทำไม่ไหว จึงให้ที่บ้านมาช่วยกันทำ และทุกวันนี้ก็เห็นรอยยิ้มของทุกคน ทุกคนกลับมามีหลาย ๆ อย่างเหมือนในวันแรกที่เราเคย ๆ มี อย่างน้อยก็ไม่อดอยากกัน อีกแหละชีวิตเหมือนจะดี ไปเจอผู้ชายคนนึง คิดว่าเค้าจะรักเราหนักหนา ที่จริงไม่เลย เค้ามาหลอกเงิน หมดไปหลายแสน...เอาเถอะทุกวันนี้จากกันด้วยดี อโหสิกรรม
หลังจากวันนั้นก็ตามหาความรักอีกอยู่ดี ไม่รู้จักเข็ด ปัจจุบันมาเจอคนที่ไม่ได้ดีมาก ไม่ได้แย่มาก พอใช้ แต่เราไม่ได้คบกันง่าย ๆ หรอกนะ อุปสรรคมันเยอะ ตอนนี้ก็มีหลายอย่างที่ต้องเคลียร์ ก็ว่ากันไปตามเหตุผล บางทีอาจมีเรื่องคดีความมาเกี่ยวข้องแต่ไม่เป็นไร สู้ต่อไปทาเคชิ ล่าสุดไปตรวจสุขภาพประจำปี หมอพูดอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ แต่ใจความสั้น ๆ เป็นมะเร็ง หนูเหรอทำอะไรได้ ยิ้มให้คุณหมองาม ๆ ก็รักษากันไปตามอาการ
ฮ่า ๆ ดูสิชีวิตคนเรามันมากมายเยอะแยะไปหมดเนอะ ทุกวันนี้บอกตามตรงนะเหนื่อยเหลือเกิน กำลังใจดีๆ ก็ไม่ได้มีจากใครมากมาย จากตัวเองล้วน ๆ คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงให้อยู่ได้ต่อ มีช่วงที่แย่ของชีวิตหลายๆ ครั้งอยากตายๆไปซะก็ได้หลายคนเตือนสติ รู้ว่าทุกคนหวังดีและเป็นห่วง ก็ขอบคุณมาก แต่ละเช้าตื่นมาก็จะยิ้มบอกกับตัวเองว่า สู้เนอะ ไหวเนอะ ฉันอยากอยากไปเที่ยวทะเลสวย ยังอยากไปกินอาหารบุปเฟ่แพงตามโรงแรม ยังอยากมีลูก โอ๊ยสาระพัดที่อยากนะ ก็ได้แต่ท่องไว้ว่า ฉันต้องอยู่เพื่อสิ่งพวกนั้น....
สู้เนอะ จนลมหายใจสุดท้าย ไหวแค่ไหนแค่นั้น ก็แค่ได้สู้ก่อน ถ้าช่วงนี้ใครเห็นกระทู้เกรียนของหนูก็โปรดอภัยให้ด้วยเพราะบางทีเครียด ๆ แค่อยากระบายออก เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอปัญหาต่าง ๆ เช่นกัน สู้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเนอะ ^_______________^
~ระบายออกมาให้เต็มที่กับชีวิต พรุ่งนี้ยังมีเสมอ~
ี
ชีวิตคนเราล้วนแล้วแต่มีปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น เรามักจะมองว่าปัญหาของเราใหญ่กว่าชาวบ้านเสมอ...แต่จริง ๆ ไม่หรอกอย่าเชื่อแบบนั้นเสมอไป...คิดซะว่าวันนี้เราเจอเรื่องที่แย่ แต่เชื่อเถอะมันต้องมีคนที่แย่กว่าเรา...คิดบวก ๆ เข้าไว้ (พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ได้ลองหรือยัง) ปัญหามันก็มีไว้ให้แก้ ก็จงเชื่อมั่นในตัวเองว่ามันต้องแก้ได้สิ แค่จะช้าหรือเร็ว โลกเปรียบเสมือนห้องเรียนที่เรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น (บ่นไีีรฟ่ะเนี่ยตู)
ชีวิตของหนู...วันแรกจนกระทั่งหนูเกิดมา ใครหลาย ๆ คนก็อิจฉาหนูทั้งนั้น หนูเกิดมาพร้อมความรัก พร้อมเงินทอง พร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ใครมันจะเกิดไปโชคดีตลอดชีวิตจริงป่ะ อยู่มาวันนึงพ่อตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็ก และต่อมาพี่เลี้ยงของหนูกลายมาเป็นภรรยาของพ่ออีักคน หนูได้แม่เพิ่มทันที ยังไม่พอ...เพราะพ่อตัวดีของแม่กลับไปคืนดีกับแฟนเก่าอีก ฮ่า ๆ สรุปหนูก็ได้แม่เพิ่มมาอีก โดยที่แม่หนูก็ยังอยู่ที่เดิม แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั่นไม่ใช่ปัญหาของชีวิตและครอบครัวหนูเลย พอดีพ่อหนูจบบริหาร(เอกครอบครัว)เพราะพ่อหนูจัดการทุกอย่างโอเคดี พ่อ และแม่ ๆ ลูก ๆ พวกเราอยู่รวมกันภายในบ้านหลังเดียว ไม่มีปัญหาตบตีกันเหมือนในละคร(จุดนี่ไม่ได้สนับสนุนให้คนนอกใจ) ก็อีกแหละเหมือนชีวิตจะดี แต่เปล่าเลย
จุดต่อมาของชีวิต ที่บ้านอยากรวยทางลัด(ไม่มีทางเป็นจริง)จากที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง...กลับกลายเป็นไม่มี ข้าวบางวันยังต้องกินข้าวคลุกน้ำปลาประทังชีวิตเลย ทุกคนในครอบครัวต่างพยายามช่วยกันทำมาหากิน เพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด จนไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูก ๆ น้องชายต่างมารดา หันเหตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตอนนั้นหนูกำลังอยู่ในช่วงเอ็นทรานซ์ หนูสอบติดมหาลัยรัฐแห่งนึง ศูนย์รังสิต ไม่ต้องถามต่อว่าได้เรียนมั้ย บอกคำเดียวไม่ได้เรียนที่นี่ เนื่องจากไม่มีเงิน สมัยนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่าการกู้ยืมเงินมันกู้ยังไง เทคโนยีก็ไม่ได้เหมือนสมัยนี้ เด็กสมัยนี้โชคดีกว่า แต่กลับพยายามไม่ไขว้ขว้ากับโอกาสดี ๆ
ตอนนั้นก็ยังอยู่ในช่วงมึนงงของชีวิต ยังไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี จังหวะตอนก่อนโชคดีเพราะว่าเรียนรามแบบนอนดีกรีควบคู่กับการเรียนม.ปลาย จบม.ปลายก็เทียบโอน ทำให้เก็บหน่วยกิตไปได้เยอะ แต่ก็อย่างว่ายังหาเงินเรียนต่อไม่ได้ จึงหยุด ๆ ไปพัก กะว่าจะทำงานก่อนแล้วค่อยหาทางเรียนต่อ ยังไม่ทันจะได้การงาน ใครจะไปรู้ว่าวันนึง น้องชายต่างมารดาไขเอากุญแจสำรอง หวังจะทำมิดีมิร้ายเรา...เดชะบุญแค่ไหนที่หนีรอดออกมาได้ และหนูก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านเลย คืออย่างที่บอกสมัยนั้นมันก็ไม่ได้พัฒนาอะไรมากมาย จะไปแจ้งความ ก็ไม่เป็นอีก สรุปเรื่องไม่ได้ไปแจ้ง แต่จากเเหตุการณ์วันนั้นทำให้ทุกวันนี้น้องชายเลิกยาได้ ก็คิดในด้านบวกๆ ถือว่าซื้อชีวิตคนใหม่
ออกจากบ้าน ตัดสินใจไปอยู่กับผู้ชายคนนึง อายุอานามโตกว่าเรามาก รู้ตลอดว่าเค้ามาจีบ แต่ไม่เคยสนใจเค้าเลย ด้วยเหตุผลเด็ก ๆ เค้าไม่ใช่คนในสเปค แต่ที่ผ่านมาเวลามีปัญหาอะไรก็มักจะถามกับคนนี้เสมอ เค้าเหมือนเป็นที่ปรึกษาให้เราตลอด ไม่มทางเลือก ตัดสินไปอยู่กับเค้าเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่บ้านเค้าดีมาก เค้าเอ็นดู เลี้ยงดูเราดี ไปอยู่ก็พยายามช่วยงานทุกอย่าง พยายามหางานทำเพื่อให้ได้เงิน จังหวะดีพอเริ่มทำงานมีเงินเก็บตัดสินใจเรียนต่อมหาลัยรัฐแห่งนึง พร้อมลงรามควบต่อ เพราะคิดว่าชีวิตถ้าเราได้เรียนเราจะเจออะไรดี ๆ ขึ้นอีก กระทั่งเวลาผ่านไปเริ่มเห็นความดีของเค้า ครอบครัว เวลาต่อมาจึงตัดสินใจแต่งงาน...แต่โชคร้ายมันคงเหมาะกับฉันมากกว่า เพราะว่า...ว่าที่สามี ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก่อนแต่งงาน 7 วัน เจ็บปวด ทรมาน และหนูก็เกรงใจที่บ้านเค้าสุดท้าย...ตัดสินใจโทรกลับไปบ้านตัวเอง บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ พ่อแม่ดีใจ พร้อมรับเรากลับมา
พ่อรู้ว่าเรากลัว จึงตัดสินใจให้อยู่คอนโดของพ่อที่เคยซื้อไว้นานแล้ว เจออ.ที่ดีอ.พาไปฝากงาน เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหมือนเดิม เหนื่อย แต่สู้ไม่เคยท้อ หยิ่งด้วยไม่ขอเงินที่บ้าน ขอแค่ที่พักอาศัยเท่านั้น จนกระทั่งมั่ว ๆ ซั่ว ๆ ระหว่างเรียนไปจับธุรกิจอยู่อย่าง และมันทำให้ตั้งตัวได้ ต่อมาขยายงานคนเดียวทำไม่ไหว จึงให้ที่บ้านมาช่วยกันทำ และทุกวันนี้ก็เห็นรอยยิ้มของทุกคน ทุกคนกลับมามีหลาย ๆ อย่างเหมือนในวันแรกที่เราเคย ๆ มี อย่างน้อยก็ไม่อดอยากกัน อีกแหละชีวิตเหมือนจะดี ไปเจอผู้ชายคนนึง คิดว่าเค้าจะรักเราหนักหนา ที่จริงไม่เลย เค้ามาหลอกเงิน หมดไปหลายแสน...เอาเถอะทุกวันนี้จากกันด้วยดี อโหสิกรรม
หลังจากวันนั้นก็ตามหาความรักอีกอยู่ดี ไม่รู้จักเข็ด ปัจจุบันมาเจอคนที่ไม่ได้ดีมาก ไม่ได้แย่มาก พอใช้ แต่เราไม่ได้คบกันง่าย ๆ หรอกนะ อุปสรรคมันเยอะ ตอนนี้ก็มีหลายอย่างที่ต้องเคลียร์ ก็ว่ากันไปตามเหตุผล บางทีอาจมีเรื่องคดีความมาเกี่ยวข้องแต่ไม่เป็นไร สู้ต่อไปทาเคชิ ล่าสุดไปตรวจสุขภาพประจำปี หมอพูดอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ แต่ใจความสั้น ๆ เป็นมะเร็ง หนูเหรอทำอะไรได้ ยิ้มให้คุณหมองาม ๆ ก็รักษากันไปตามอาการ
ฮ่า ๆ ดูสิชีวิตคนเรามันมากมายเยอะแยะไปหมดเนอะ ทุกวันนี้บอกตามตรงนะเหนื่อยเหลือเกิน กำลังใจดีๆ ก็ไม่ได้มีจากใครมากมาย จากตัวเองล้วน ๆ คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงให้อยู่ได้ต่อ มีช่วงที่แย่ของชีวิตหลายๆ ครั้งอยากตายๆไปซะก็ได้หลายคนเตือนสติ รู้ว่าทุกคนหวังดีและเป็นห่วง ก็ขอบคุณมาก แต่ละเช้าตื่นมาก็จะยิ้มบอกกับตัวเองว่า สู้เนอะ ไหวเนอะ ฉันอยากอยากไปเที่ยวทะเลสวย ยังอยากไปกินอาหารบุปเฟ่แพงตามโรงแรม ยังอยากมีลูก โอ๊ยสาระพัดที่อยากนะ ก็ได้แต่ท่องไว้ว่า ฉันต้องอยู่เพื่อสิ่งพวกนั้น....
สู้เนอะ จนลมหายใจสุดท้าย ไหวแค่ไหนแค่นั้น ก็แค่ได้สู้ก่อน ถ้าช่วงนี้ใครเห็นกระทู้เกรียนของหนูก็โปรดอภัยให้ด้วยเพราะบางทีเครียด ๆ แค่อยากระบายออก เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอปัญหาต่าง ๆ เช่นกัน สู้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเนอะ ^_______________^