บางคนบอกว่า ผมเลือกข้างสุดโต่งเกินไป

เขาบอกว่า ผมปกป้องรัฐบาลอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนมองข้ามข้อเสียของรัฐบาล
เขาบอกว่า ผมควรจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล มากกว่ามาตรวจสอบฝ่ายค้าน
เขาบอกว่า ผมเข้าข้างเสื้อแดง จนไม่เคยมองเห็นความผิดของฝ่ายตัวเอง
เขาบอกว่า ผมพยายามนำความเลวของอีกฝ่าย เพื่อมาหักล้างความผิดของฝ่ายตัวเอง
เขาบอกว่า ผมรับไม่ได้กับความคิดเห็นที่ต่างไปจากผม

ในหลายกรณีเหล่านี้ ใครจะมองผมเป็นอย่างไรย่อมเป็นสิทธิ แต่ผมก็มีความคิดของผมเอง โดยไม่ต้องมีใครมาชี้นำ ซึ่งก็เป็นเพียงความคิดเห็นต่างของผมที่เห็นต่างจากพวกท่านเหล่านั้น ก็แค่นั้นเอง

ผมมองว่า ประเทศจะพัฒนาหรือไม่ ประเทศจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่ และประเทศจะล้มละลายหรือไม่ มันไม่ใช่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลอีกฝ่ายเดียวนะครับ มันมีปัจจัยอีกมากมายที่ต้องมีความโปร่งใสเช่นเดียวกัน

เพราะเราห่วงเกรงเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นในสมัยคุณทักษิณ
เพราะเราเชื่อว่ามีการแทรกแซงองค์กรอิสระในสมัยคุณทักษิณ
เพราะเราเชื่อว่าการลุแก่อำนาจและเหลิงต่ออำนาจในสมัยคุณทักษิณ
และเพราะเราหลงไปกับคุณธรรม จริยธรรมและคนดีมาปกครองประเทศแทนคุณทักษิณ จนถึงขั้นยอมให้มีการยึดอำนาจของประชาชน แล้วทำการฉีกรัฐธรรมนูญ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่คิดว่า จะทำให้นักการเมืองไม่สามารถทำตามใจได้ดังกล่าวอีกแล้ว

แต่สิ่งที่เราได้รับร่วมกันก็คือ
ถึงแม้เราจะมีรัฐบาลแต่งตั้งที่ถูกยกย่องว่าเป็นกลุ่มคนดี ก็ไม่ได้ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อได้
ถึงแม้เราจะมีรัฐบาลปล้นชิงที่บอกว่าเป็นความโชคดีของประเทศไทย ก็มีการกระทำไม่ได้ต่างอะไรไปกับยุคของรัฐบาลทักษิณ

ทุจริตคอรัปชั่น นอกจากไม่ลดน้อยถอยลง กลับเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก
องค์กรอิสระต่างๆ แม้จะไม่ได้ถูกแทรกแซง แต่เป็นพวกเดียวกันทั้งสิ้น แล้วจะรักษาความเป็นกลางได้อย่างไร
ลุและเหลิงอำนาจ ก็มีให้เห็นบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรมมากมาย
ส่วนคุณธรรม จริยธรรม จิตสำนึกหรือแม้แต่ความเป็นคนดี ที่ไม่ยอมเจรจาถึงวินาทีสุดท้าย จนเป็นเหตุให้มีการตายกลางเมืองหลวงเกือบร้อย บาดเจ็บเกือบสองพันและตึกรามบ้านช่องที่ถูกเผา โดยไม่มีคนดีสักคนออกมารับผิดชอบ

ผมจึงคิดว่า วาทกรรมทั้งหลายแหล่ จึงเป็นเพียงวาทกรรมที่แค่หวังผลทางการเมืองเท่านั้น เป็นวาทกรรมที่สร้างขึ้นหวังเพื่อได้อำนาจโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง หรือถ้าเลือกตั้งก็ต้องเป็นรัฐบาลให้ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความชอบธรรม นี่ต่างหากครับที่ทำให้สังคมไทยเกิดความแตกแยกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ก็ขนาดก่อนเลือกตั้งสโลแกนของพรรคเพื่อไทยก็มีความชัดเจนในตัว “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ซึ่งทุกฝ่ายก็เข้าใจตรงกันแล้ว และเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งด้วยความยินยอมพร้อมใจ แต่หลังเลือกตั้ง ประชาชนให้ฉันทามติด้วยคะแนนเสียงที่ถล่มทลาย โดยหวังให้คุณทักษิณช่วยคิดนโยบาย แล้วพรรคเพื่อไทยนำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม แต่กลับมีกลุ่มเดิมๆ หน้าเดิมๆ และพรรคเดิมๆ ออกมาขับไล่รัฐบาลชุดปัจจุบันด้วยข้อหาจะล้มล้างระบอบทักษิณ อย่างนี้มันขี้แพ้ชวนตีนี่ครับ แล้วจะให้ผมสนับสนุนไปด้วยอย่างนั้นหรือครับ

จริงอยู่ประชาชนต้องตรวจสอบรัฐบาล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและของเราเอง แต่การตรวจสอบต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง นั่นจึงเป็นการตรวจสอบที่ถูกต้องครับ

ขณะเดียวกัน การทำหน้าที่ด้วยเจตนาที่ไม่ชอบก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่คอยฉุดประเทศไม่ให้เดินหน้าได้ ดังนั้นฝ่ายค้านก็ควรต้องถูกตรวจสอบด้วย เป็นการตรวจสอบการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้าน ไม่ให้ค้านในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ใช่ค้านเรื่องที่ไม่เป็นความจริง

แล้วอำนาจของกระบวนการยุติธรรมอีกล่ะครับ ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างนั้นหรือครับ ตราบใดที่ความยุติธรรมไม่เป็นกลาง แล้วเราจะหวังความสามัคคีได้อย่างไร เรายังจะหวังปรองดองได้อย่างไร และเมื่อไม่สามัคคี เมื่อไม่ปรองดอง แล้วประเทศจะเดินหน้าต่อได้อย่างไรกันล่ะครับ

ดังนั้นผมจึงไม่ได้มองข้ามข้อเสียของรัฐบาล เพียงแต่ต้องรอความจริงปรากฏ
ดังนั้นผมจึงไม่ใช่แค่ตรวจสอบฝ่ายค้าน แต่ผมยังต้องการตรวจสอบเหล่าองค์กรอิสระไปด้วย
ดังนั้นผมจึงไม่ใช่มองไม่เห็นความผิดของคนเสื้อแดง แต่กำลังชี้ให้เหตุ ฝ่ายหนึ่งถูกเสมอ อีกฝ่ายผิดตลอด
ดังนั้นผมจึงไม่ใช่นำเอาความเลวของคนอื่นมากลบเรื่องเลวของฝ่ายตน แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงความเป็นสองมาตรฐานต่างหากครับ
ดังนั้นผมก็ไม่ใช่ผมรับความคิดเห็นต่างไม่ได้ เพียงแต่ต่างก็มีมุมมองของตัวเอง แล้วก็ทำตามหน้าที่ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งที่มีสิทธิมีเสียงเท่ากันในการแสดงความคิดเห็น ก็เท่านั้นเองครับ

และมุมมองที่น่ากลัวสำหรับผมในเวลานี้ นั่นคือ ความพยายามขับไล่รัฐบาลที่มาจากอำนาจของประชาชนโดยแท้ ด้วยเงื่อนไขที่ฟังไม่ขึ้นเหล่านั้น ทำให้ผมเกิดความหวั่นวิตกอย่างยิ่ง

พวกเขาใช้วิธีปลุกระดมมวลชนด้วยการสร้างความแตกแยก ก็ไม่สามารถชนะคนส่วนใหญ่ได้
พวกเขาใช้วิธีร่างรัฐธรรมนูญเพื่อความได้เปรียบทางการเมือง ก็ไม่สามารถชนะคนส่วนใหญ่ได้
พวกเขาใช้อำนาจรัฐและกองทัพกดดันเหล่าหัวคะแนนอีกฝ่าย ก็ไม่สามารถชนะคนส่วนใหญ่ได้
พวกเขาใช้กระบวนการยุติธรรมต่างๆเข้าช่วยเหลือ จนได้อำนาจรัฐมาอยู่ในมือ ก็ไม่สามารถชนะคนส่วนใหญ่ได้
พวกเขาใช้กลอุบายเรื่องผังล้มเจ้าในการกำจัดฝ่ายตรงข้าม ก็ไม่สามารถชนะคนส่วนใหญ่ได้
พวกเขาใช้อาวุธสงครามทำลายล้างประชาชนที่คิดเห็นต่าง ก็ไม่สามารถชนะคนส่วนใหญ่ได้
และสุดท้ายพวกเขาพยายามผลักไสคนไม่เห็นด้วยให้เป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง ต้องการล้มสถาบัน ก็ยิ่งทำให้พ่ายแพ้ต่อมวลมหาพลังประชาชน

ดังนั้นที่พวกเขาออกมาเคลื่อนไหวขับไล่อยู่ในเวลานี้ จึงไม่ใช่หวังแค่ขับไล่รัฐบาลเพียงเท่านั้น และก็คงไม่ได้หวังแค่ยึดอำนาจประชาชนสักปีสองปี แล้วปล่อยให้มีการเลือกตั้งอย่างที่ผ่านมา เพราะพวกเขารู้อยู่เต็มอก ตราบใดที่ไม่สามารถครองใจคนส่วนใหญ่ได้ มันก็ต้องเกิดปัญหาแบบเดิมๆ แล้วพวกเขายังเคลื่อนไหวหวังขับไล่รัฐบาลอีก จึงเป็นไปได้ว่า ต้องการแช่แข็งประเทศ ขจัดคนคิดเห็นต่างให้หมดไปจริงๆ ดังที่พวกเขาประกาศอย่างอหังการว่า ต้องกำจัดระบอบทักษิณให้หมดไปจากประเทศไทย แล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะครับถ้าพวกเขาทำสำเร็จ

ดังนั้นที่ผมปกป้องจึงไม่ใช่แค่รัฐบาล ไม่ใช่แค่คนเสื้อแดง ไม่ใช่แค่ความยุติธรรมและก็ไม่ใช่แค่ความเท่าเทียมอย่างที่ตั้งใจแต่แรก แต่เป็นการปกป้องระบอบประชาธิปไตยให้คงอยู่ในประเทศไทยต่อไปต่างหากครับ