สวัสดีค่ะทุกท่าน ดิฉันมีเรื่องปวดหัว ชวนเครียดกับครอบครัวตัวเองมาปรึกษาค่ะ
ดิฉันแต่งงานกับสามีมาเกือบปี มีอะไรต้องปรับหลายอย่าง
แต่เนื่องจากดิฉันมีพี่ชายพิการเป็นอัมพาตที่ต้องดูแล เหนื่อยค่ะ
เคยบอกสามีว่าถ้าบางครั้งพี่ชายมาก่อนก็ขอโทษด้วยนะ เขาก็เข้าใจและทำใจ และรู้ว่าเขาน้อยใจด้วย
แต่เรื่องของเรื่องคือ นิสัยเราต่างกันมากค่ะ คบกันแค่ปีเดียว แต่งเลย
ช่วงคบกันไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันมากนักเพราะดิฉันมีภาระคือขายของที่บ้าน
ซึ่งเป็นกิจการของแม่ที่ดิฉันสืบต่อเพราะพ่อกับแม่เสียเพราะอุบัติเหตุทั้งคู่
จึงต้องลาออกจากงานประจำมาทำร้านต่อเพื่อจะได้ดูแลพี่ชายด้วย
ด้วยความดิฉันตัดสินใจเร็วไปและคิดว่าอย่างน้อยก็จะได้มีเพื่อนอยู่ด้วยกัน
ตอนนี้มันทำให้ดิฉันเห็นนิสัยหลายอย่างที่รับไม่ได้ค่ะ
เขาทำอะไรไม่เป็นเลย เอาแต่ใจ โมโหร้าย ด่าทอสารพัดเวลาโกรธ รวมทั้งพาลพี่ชายดิฉันด้วย
เราเคยทะเลาะกันรุนแรงจึงทำให้เห็นนิสัยเขาหลายอย่าง
ดิฉันก็อดทน แต่หลังจากทะเลาะกันแรงๆครั้งนั้น ดิฉันหมดรักเขาแล้วค่ะ หมดใจจริงๆ
เวลาดีๆก็พยายามบอกเขาว่าลองทำอะไรเองดูบ้าง ไม่เป็นก็ลองทำดู
ขนาดปอกผลไม้ เขาก็ปอกไม่เป็น เปิดเตาแก๊สไม่เป็น งานช่างเล็กน้อยก็ไม่ต้องไปหวังค่ะ
ดิฉันพยายามอดทนและทำใจ แต่ทุกครั้งก็หงุดหงิดและอารมณ์เสียค่ะ
ว่าทำไมเขาไม่คิดจะเรียนรู้อะไรเลย คิดและพูดง่ายๆว่า ปอกไม่เป็นก็ไม่กิน ทำไม่เป็นก็ซื้อเขา จ้างเขา
ดิฉันก็คิดว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถังอะไร รายได้ทุกวันนี้ก็มาจากขายของ อ้อ ดิฉันลืมบอกว่า
ตอนนี้ดิฉันย้ายมาอยู่บ้านเขาและช่วยกันขายของค่ะ เงินทุกบาทในบ้านดิฉันเป็นคนจัดการดูแลหมด
ตอนนี้ความคิดของดิฉันมันอีรุงตุงนังไปหมดค่ะ อยากไปให้พ้นๆแต่ลำบากตรงพี่ชาย
ไม่อยากรบกวนญาติพี่น้อง ไม่อยากให้เขาเครียด แต่ทุกครั้งที่ดิฉันอารมณ์เสียเพราะ
ความคิดตื้นๆและความที่ทำอะไรไม่เป็นของเขาก็คิดทุกครั้งว่า จะทนอยู่ไปทำไม
เราต้องรับผิดชอบทั้งชีวิตเราเอง ชีวิตพี่ชาย เราก็เหนื่อยพอแล้ว
แต่เขาไม่ได้ช่วยแบ่งเบาอะไร แถมยังเล่นพนันบอล เล่นนก ดิฉันเหนื่อยใจมาก
และสมเภชตัวเองที่คิดน้อยไปก่อนตัดสินใจแต่งงาน ไม่รู้จะคุยกับใคร
ถึงพ่อกับแม่เขาจะรับเราเป็นลูกอีกคน แต่ยังไงเราก็น้ำไม่ใช่เลือด เราคือคนอื่น
ดิฉันเสียใจมากค่ะที่เอาพี่ชายตัวเองมาลำบากด้วย อยากไปให้พ้นๆเสียที
หากดิฉันเรียบเรียงอะไรแล้วทำให้งงก็ขออภัยด้วยนะคะ
ความคิดมันตีกันมั่วหมดแล้วค่ะ
คุณภรรยาเจอสามีแบบนี้จะยังทนอยู่ไหมคะ
ดิฉันแต่งงานกับสามีมาเกือบปี มีอะไรต้องปรับหลายอย่าง
แต่เนื่องจากดิฉันมีพี่ชายพิการเป็นอัมพาตที่ต้องดูแล เหนื่อยค่ะ
เคยบอกสามีว่าถ้าบางครั้งพี่ชายมาก่อนก็ขอโทษด้วยนะ เขาก็เข้าใจและทำใจ และรู้ว่าเขาน้อยใจด้วย
แต่เรื่องของเรื่องคือ นิสัยเราต่างกันมากค่ะ คบกันแค่ปีเดียว แต่งเลย
ช่วงคบกันไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันมากนักเพราะดิฉันมีภาระคือขายของที่บ้าน
ซึ่งเป็นกิจการของแม่ที่ดิฉันสืบต่อเพราะพ่อกับแม่เสียเพราะอุบัติเหตุทั้งคู่
จึงต้องลาออกจากงานประจำมาทำร้านต่อเพื่อจะได้ดูแลพี่ชายด้วย
ด้วยความดิฉันตัดสินใจเร็วไปและคิดว่าอย่างน้อยก็จะได้มีเพื่อนอยู่ด้วยกัน
ตอนนี้มันทำให้ดิฉันเห็นนิสัยหลายอย่างที่รับไม่ได้ค่ะ
เขาทำอะไรไม่เป็นเลย เอาแต่ใจ โมโหร้าย ด่าทอสารพัดเวลาโกรธ รวมทั้งพาลพี่ชายดิฉันด้วย
เราเคยทะเลาะกันรุนแรงจึงทำให้เห็นนิสัยเขาหลายอย่าง
ดิฉันก็อดทน แต่หลังจากทะเลาะกันแรงๆครั้งนั้น ดิฉันหมดรักเขาแล้วค่ะ หมดใจจริงๆ
เวลาดีๆก็พยายามบอกเขาว่าลองทำอะไรเองดูบ้าง ไม่เป็นก็ลองทำดู
ขนาดปอกผลไม้ เขาก็ปอกไม่เป็น เปิดเตาแก๊สไม่เป็น งานช่างเล็กน้อยก็ไม่ต้องไปหวังค่ะ
ดิฉันพยายามอดทนและทำใจ แต่ทุกครั้งก็หงุดหงิดและอารมณ์เสียค่ะ
ว่าทำไมเขาไม่คิดจะเรียนรู้อะไรเลย คิดและพูดง่ายๆว่า ปอกไม่เป็นก็ไม่กิน ทำไม่เป็นก็ซื้อเขา จ้างเขา
ดิฉันก็คิดว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถังอะไร รายได้ทุกวันนี้ก็มาจากขายของ อ้อ ดิฉันลืมบอกว่า
ตอนนี้ดิฉันย้ายมาอยู่บ้านเขาและช่วยกันขายของค่ะ เงินทุกบาทในบ้านดิฉันเป็นคนจัดการดูแลหมด
ตอนนี้ความคิดของดิฉันมันอีรุงตุงนังไปหมดค่ะ อยากไปให้พ้นๆแต่ลำบากตรงพี่ชาย
ไม่อยากรบกวนญาติพี่น้อง ไม่อยากให้เขาเครียด แต่ทุกครั้งที่ดิฉันอารมณ์เสียเพราะ
ความคิดตื้นๆและความที่ทำอะไรไม่เป็นของเขาก็คิดทุกครั้งว่า จะทนอยู่ไปทำไม
เราต้องรับผิดชอบทั้งชีวิตเราเอง ชีวิตพี่ชาย เราก็เหนื่อยพอแล้ว
แต่เขาไม่ได้ช่วยแบ่งเบาอะไร แถมยังเล่นพนันบอล เล่นนก ดิฉันเหนื่อยใจมาก
และสมเภชตัวเองที่คิดน้อยไปก่อนตัดสินใจแต่งงาน ไม่รู้จะคุยกับใคร
ถึงพ่อกับแม่เขาจะรับเราเป็นลูกอีกคน แต่ยังไงเราก็น้ำไม่ใช่เลือด เราคือคนอื่น
ดิฉันเสียใจมากค่ะที่เอาพี่ชายตัวเองมาลำบากด้วย อยากไปให้พ้นๆเสียที
หากดิฉันเรียบเรียงอะไรแล้วทำให้งงก็ขออภัยด้วยนะคะ
ความคิดมันตีกันมั่วหมดแล้วค่ะ