ขอความรู้จากท่านที่รู้เกี่ยวกับกฏหมายช่วยด้วยค่ะ เกี่ยวกับเรื่องของหายในห้างค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า น้องชายเรียนอยู่ ม. ศรีปทุม วิทยาเขตชลฯ ตอนประมาณสองทุ่ม หลังจากเลิกจากพิธีรับน้องก็กลับบ้าน ระหว่างทางมีเพื่อนขอโดยสารรถมาด้วยกัอีกสองคน ทั้งสามคนเรียนคณะเดียวกัน คือ นิเทศก์ฯ ออกแบบสื่อดิจิตอล ทุกคนต้องใช้กล้อง เลนส์ ซึ่งราคาค่อนข้างแพงมาก หลัก 5- 7 รวมสามคนก้เลยสองแสนกว่า แต่ของน้องชายไม่ได้เอาเลนไปหมด เอาไปแค่เลน คิท และ กิฟท์ตัวใส่แบตน่ะค่ะติดอยู่กับตัวกล้อง ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 60,000 กว่า แต่เพื่อนโดนเยอะกว่า ประเด็นมันอยู่ที่ สามคนจอดรถที่ห้างใหญ่แห่งหนึง ใกล้สายบายพาส เพื่อหาข้าวกิน ในบริเวณที่จอดรถของห้าง แต่ตรงช่วงที่น้องจอดนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด เพราะรถเต็ม น้องชายก็ลอ้คประตูด้วย รีโมท คอนโทรลเช่นทุกครั้ง แต่ครั้นเมื่อกลับมาที่รถหลังจากทานอาหารเสร็จ ปรากฏว่า กล้องพร้อมเลนส์ทุกอัน ได้หายไปจากรถโดยสภาพรถอยู่ดี ไม่มีร่องรอยงัดแงะใดๆทั้งสิ้น  ทุกคนช้อคไปตามๆกัน รีบแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจกลับอิดออดที่จะมา เพราะตรงนั้นมันใกลจากตัวเมือง จนกระทั่งคุณพ่อของเพื่อนน้องชายซึ่งค่อนข้างกว้างขวางและมีเงินหน่อยโทรไปหาสาวัตร จึงมีตำรวจมาดูและแกะรอยนิ้วมือแฝง ทำแผนในวันรุ่งขึ้น แต่ครั้นพอขดดูกล้องวงจรปิด ทางห้างบอกว่าตรงนนั้นไม่มี แต่พอถามกล้องอื่นๆ ทางห้างก็ปฏิเสฐ บอกว่า  Head Office ไม่ให้ พ่อของเพื่อนน้องคนนี้จึงโกรธมาก และกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องห้างแห่งนี้ ในเรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สิน เราอยากทราบว่า ในการที่ห้างติดประกาศว่า เมื่อเกิดการสูนหายของทรัพย์สินใดๆ ทางห้างจะไม่รับผิดชอบโดยเด็ดขาดนั้น เป็นการ กระทำสัญญาเพียงฝ่ายเดียวใช่หรือไม่ ? ดังนั้นเราจะสามารถฟ้องห้างได้หรือไม่ มีสิทธิ์มากน้อยเพียงใด ในการที่จะชนะ *** อ้อ กรณีย์นี้น่าสนใจตรงที่คนร้ายมีวิธีโจรกรรมแบบใช้เทคนิค ตัดสัญญาญ รีโมท โดยการ กดรีโมทของเค้าค้างไว้ ในขณะที่เรากดล้อครถของเรา จะทำให้รถของเราไม่สามารถล้อคได้ แล้วเค้าก็จะเข้ามาขนทรัพย์สินไปได้ ขอให้ทุกคนระวังด้วยนะคะ ตำรวจบอกว่ามีเกิดบ่อยมากตอนนี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่