1.ลดราคาจำนำเป็นการลดเงินที่จะถึงชาวนา แต่ไม่ได้อุดรอยรั่วและรายจ่ายที่มาจากโรงเก็บ อื่นๆ
โดยสรุปลดแค่ราคาจำนำที่ถึงมือชาวนาจริงๆแต่รายจ่ายอื่นๆยังมีเท่าเดิม..
2.กำหนดปริมาณต่อครอบครัวไม่ให้เกิน แต่ปริมาณที่รัฐไม่ได้รับซื้อจะถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง
แล้วเอามาขายแข่งกับรัฐอีกที จะทำให้รัฐขาดอำนาจต่อรองจากที่เคยมีข้าวอยู่เจ้าเดียว
ปล.อย่างไรเสียชาวนาก็ไม่ได้ราคา15000อยู่แล้วเพราะมันมีเรื่องค่าความชื้นข้าวเปลือกและคุณภาพ
ทางแก้ที่ผมคิดได้คือ ลดวันเก็บจำนำให้หลุดจำนำจากชาวนาเร็วขึ้น หาวิธีการแปรรูปให้หลากหลาย
มากขึ้น เช่น ผลักดันให้ปลูกข้าวเหนียวมากขึ้น ให้ช้างกับสิงห์ ทำสาโทกระป๋องส่งนอกขายคู่กับเบียร์
--การลดราคาจำนำและกำหนดปริมาณต่อครอบครัวไม่ใช่ทางออกที่ดีเรื่องข้าว--
โดยสรุปลดแค่ราคาจำนำที่ถึงมือชาวนาจริงๆแต่รายจ่ายอื่นๆยังมีเท่าเดิม..
2.กำหนดปริมาณต่อครอบครัวไม่ให้เกิน แต่ปริมาณที่รัฐไม่ได้รับซื้อจะถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง
แล้วเอามาขายแข่งกับรัฐอีกที จะทำให้รัฐขาดอำนาจต่อรองจากที่เคยมีข้าวอยู่เจ้าเดียว
ปล.อย่างไรเสียชาวนาก็ไม่ได้ราคา15000อยู่แล้วเพราะมันมีเรื่องค่าความชื้นข้าวเปลือกและคุณภาพ
ทางแก้ที่ผมคิดได้คือ ลดวันเก็บจำนำให้หลุดจำนำจากชาวนาเร็วขึ้น หาวิธีการแปรรูปให้หลากหลาย
มากขึ้น เช่น ผลักดันให้ปลูกข้าวเหนียวมากขึ้น ให้ช้างกับสิงห์ ทำสาโทกระป๋องส่งนอกขายคู่กับเบียร์