สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
...เราขอบอกว่า เราสงสารพ่อคุณค่ะ ทำงานคนเดียว แบกรับภาระทั้ง 5 ชีวิต!!!
.. มีใคร คิดที่จะหาเงินเข้าบ้านเพิ่มใหม?
จากที่คุณเล่ามา ไม่ใช้พ่อคุณอยากให้แค่ 5000 บาท.. แต่เพราะพ่อคุณโดนหักเงินเดือนจากการไปกู้เงินมาให้แม่คุณเก็บไว้..
... สรุปแล้วเงินทุกบาททุกสตางค์พ่อคุณให้ครอบครัวหมด...คุณไม่สงสารท่านเหรอ?
.. ส่วนคุณแม่คุณ ไม่สามารถทำงานหาเงินเข้าบ้านได้ มีหน้าที่เลี้ยงลูก และบริหารเงิน..
.. แม่คุณทำผิดต่อพ่อคุณ.. ท่านไม่ซื่อสัตย์ แอบเอาเงินไปให้คนอื่นยืม แอบเอาเงินเก็บมามาใช้จ่ายในบ้าน.. เพราะเงิน 5000 ไม่พอใช้
.. คิดตามนะคะ.. หากแม่ของคุณซื่อสัตย์กว่านี้.. เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ..เพียงแค่ท่าน ทำแบบนี้
1. รับเงินมาจากพ่อ ควรทำบัญชีใช้จ่ายคราวๆ หากเดือนไหนขาด ก็บอกพ่อตรงๆ ขาดเท่าไหร่ จะหาจากไหนมาเพิ่ม หรือจะดึงจากเงินเก็บ
2. เงินที่ให้ลูกๆ ก็จดไว้ทุกเดือน
3เรื่องคนมายืมเงิน จะญาติหรือไม่ก็ตาม ควรปรึกษากับคุณพ่อ ไม่ใช้ตัดสินใจเอง
.. แม่ของดิฉัน ไม่เคยทำงานเลย แม้กระทั้งทุกวันนี้(พ่อเสียแล้ว) พ่อดิฉันทำงานคนเดียว .. สิ่งที่ดิฉันกล่าวมาข้างต้น เป็นสิ่งที่ คุณพ่อ คุณแม่ และดิฉันและน้องทำกัน
.. ตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อ จะมีบัญชีรายรับ รายจ่าย ทุกครั้งที่ให้เงินแม่ ให้เงินดิฉัน และน้อง คุณพ่อจะจดลงบัญชีและให้พวกเราลงชื่อกำกับทุกครั้ง
.. ส่วนคุณแม่ พอรับเงินมาจากพ่อ ท่านจะมีบัญชีใช้จ่ายรายวันอีกเล่ม... และท่านทั้งสองจะมีการพูดคุยกันตอนเย็นเวลาทานข้าวเสมอว่า เงินพอใช้ไหม เหลือเก็บกันเท่าไหร่ มีใครมาพูดขอยื่มเงินไหม ควรจะให้หรือไม่ให้... ดิฉันโตมาจากสิ่งนี้ เห็นจนชิน และไม่เคยเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเลย .. เพราะต่างซื่อสัตย์ต่อกัน
......
แต่ครอบครัวน้าดิฉัน ล้มไม่เป็นท่า เพร่ะเหตุการณ์เดียวกับพ่อแม่ของจขกทเลยค่ะ.
น้าผุ้ชายทำงานและมอบเงินให้น้าผู้หญิงบริหาร และไม่เคยขอดูยอดเงิน
มาวันหนึ่ง ขอดูยอดเงินเก็บในบัญชี เพราะน้าผู้ชายคิดจะสร้างบ้าน ปรากฏว่า เงินในบัญชีเหลือไม่ถึงสองหมื่น จากเงินเกือบสามเสน ที่น้าชายคำนวณดู.. เงินไปไหน? น้าผู้หญิงตอบแบบแม่คุณเป๊ะ ของแพง ค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอ จึงดึงออกมาใช้ .. มีคนยืมไป.
. จะจริงไม่จริงอันนี้ไม่รู้ สุดท้ายครอบครัวที่อยู่กันมากว่า 25 ปี ต้องพังลง ลูกไปทาง แม่ไปทาง พ่อไปทาง...
ทางน้าชายเราให้เหตุผลว่า ความเชื่อใจมันไม่มีแล้ว เพราะเขาหาเงินแทบตาย กลับได้รับคำตอบว่า ของแพง เลยเอาเงินมาใช้หมด..
.. ส่วนน้าผู้หญิง ให้เหตุผลว่า น้าผู้ชาย หาเงินอย่างเดียวไม่รู้หรอกว่า ข้าวของมันแพงแค่ไหน เงินไม่พอใช้เคยรู้บ้างไหม...
...... สรุป ใครผิด?..
.. มีใคร คิดที่จะหาเงินเข้าบ้านเพิ่มใหม?
จากที่คุณเล่ามา ไม่ใช้พ่อคุณอยากให้แค่ 5000 บาท.. แต่เพราะพ่อคุณโดนหักเงินเดือนจากการไปกู้เงินมาให้แม่คุณเก็บไว้..
... สรุปแล้วเงินทุกบาททุกสตางค์พ่อคุณให้ครอบครัวหมด...คุณไม่สงสารท่านเหรอ?
.. ส่วนคุณแม่คุณ ไม่สามารถทำงานหาเงินเข้าบ้านได้ มีหน้าที่เลี้ยงลูก และบริหารเงิน..
.. แม่คุณทำผิดต่อพ่อคุณ.. ท่านไม่ซื่อสัตย์ แอบเอาเงินไปให้คนอื่นยืม แอบเอาเงินเก็บมามาใช้จ่ายในบ้าน.. เพราะเงิน 5000 ไม่พอใช้
.. คิดตามนะคะ.. หากแม่ของคุณซื่อสัตย์กว่านี้.. เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ..เพียงแค่ท่าน ทำแบบนี้
1. รับเงินมาจากพ่อ ควรทำบัญชีใช้จ่ายคราวๆ หากเดือนไหนขาด ก็บอกพ่อตรงๆ ขาดเท่าไหร่ จะหาจากไหนมาเพิ่ม หรือจะดึงจากเงินเก็บ
2. เงินที่ให้ลูกๆ ก็จดไว้ทุกเดือน
3เรื่องคนมายืมเงิน จะญาติหรือไม่ก็ตาม ควรปรึกษากับคุณพ่อ ไม่ใช้ตัดสินใจเอง
.. แม่ของดิฉัน ไม่เคยทำงานเลย แม้กระทั้งทุกวันนี้(พ่อเสียแล้ว) พ่อดิฉันทำงานคนเดียว .. สิ่งที่ดิฉันกล่าวมาข้างต้น เป็นสิ่งที่ คุณพ่อ คุณแม่ และดิฉันและน้องทำกัน
.. ตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อ จะมีบัญชีรายรับ รายจ่าย ทุกครั้งที่ให้เงินแม่ ให้เงินดิฉัน และน้อง คุณพ่อจะจดลงบัญชีและให้พวกเราลงชื่อกำกับทุกครั้ง
.. ส่วนคุณแม่ พอรับเงินมาจากพ่อ ท่านจะมีบัญชีใช้จ่ายรายวันอีกเล่ม... และท่านทั้งสองจะมีการพูดคุยกันตอนเย็นเวลาทานข้าวเสมอว่า เงินพอใช้ไหม เหลือเก็บกันเท่าไหร่ มีใครมาพูดขอยื่มเงินไหม ควรจะให้หรือไม่ให้... ดิฉันโตมาจากสิ่งนี้ เห็นจนชิน และไม่เคยเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเลย .. เพราะต่างซื่อสัตย์ต่อกัน
......
แต่ครอบครัวน้าดิฉัน ล้มไม่เป็นท่า เพร่ะเหตุการณ์เดียวกับพ่อแม่ของจขกทเลยค่ะ.
น้าผุ้ชายทำงานและมอบเงินให้น้าผู้หญิงบริหาร และไม่เคยขอดูยอดเงิน
มาวันหนึ่ง ขอดูยอดเงินเก็บในบัญชี เพราะน้าผู้ชายคิดจะสร้างบ้าน ปรากฏว่า เงินในบัญชีเหลือไม่ถึงสองหมื่น จากเงินเกือบสามเสน ที่น้าชายคำนวณดู.. เงินไปไหน? น้าผู้หญิงตอบแบบแม่คุณเป๊ะ ของแพง ค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอ จึงดึงออกมาใช้ .. มีคนยืมไป.
. จะจริงไม่จริงอันนี้ไม่รู้ สุดท้ายครอบครัวที่อยู่กันมากว่า 25 ปี ต้องพังลง ลูกไปทาง แม่ไปทาง พ่อไปทาง...
ทางน้าชายเราให้เหตุผลว่า ความเชื่อใจมันไม่มีแล้ว เพราะเขาหาเงินแทบตาย กลับได้รับคำตอบว่า ของแพง เลยเอาเงินมาใช้หมด..
.. ส่วนน้าผู้หญิง ให้เหตุผลว่า น้าผู้ชาย หาเงินอย่างเดียวไม่รู้หรอกว่า ข้าวของมันแพงแค่ไหน เงินไม่พอใช้เคยรู้บ้างไหม...
...... สรุป ใครผิด?..
แสดงความคิดเห็น
วันนี้แม่โทรมาบอกว่า"หมดรักพ่อแล้ว" จะทำยังไงดีคะ
เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้แม่เราโทรมาหาเราแล้วบอกว่า
"แม่หมดรักพ่อแล้วลูก.." แล้วแม่ก็ร้องไห้ เราตกใจมากเราก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งที่ในใจเรารู้อยุูแล้วล่ะค่ะว่าต้องเป็นเรื่องเงินแน่ๆ
แม่เล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับพ่อแรงมากจนถึงขั้นพูดว่า"ถ้าฉันไม่มีลูก ฉันก็คงไปนานแล้ว" เรื่องคือพ่อกู้เงินมาจำนวนนึงให้แม่เป็นคนเก็บมาไว้เป็นค่าเทอมเรากับน้องอีกสองคน แล้วแม่แอบเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวนอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้จากพ่อ เพราะเงินเดือนเหลือน้อยมากจนไม่ถึงครึ่งหมื่น แล้วก็เอาเงินส่วนนึงไปให้น้ายืมโดยที่พ่อไม่รู้ พอมาวันนี้พ่อขอเช็คเงินว่าเหลือเท่าไหร่ ปรากฎว่าความแตก พ่อโกรธมาก หาว่าแม่เอาเงินไปซื้ออะไร เอาไปให้ใครใช่มั้ย แม่เลยบอกความจริง แต่พ่อตอบกลับมาว่า
"แล้วเงินเดือนล่ะ ใช้ยังไงให้หมด กูหาเงินแทบตายแต่ใช้เงินมือเติบ ทำงานไม่เป็นแล้วเสือกเล่นหวย" เราฟังแล้วก็เสียใจนะ อย่างนึงที่เราคิดว่าเป็นปัญหาคือพ่อไม่เคยถือเงิน แกเลยไม่รู้ไม่เข้าใจว่าเงินห้าพันกับห้าชีวิตที่อยู่ในบ้านใช้ให้ประหยัดยังไงก็ไม่มีวันพอ แกเคยรับรู้ว่าเมื่อยี่สิบปีก่อนเงินเท่านี้มันใช้พอ ทุกวันนี้มันก็ต้องพอ แม่เคยขอพ่อไปทำร้านขายอาหารตามสั่งหลายครั้งแต่พ่อไม่ให้ แกให้เหตุผลว่าแม่ทำอะไรก็เจ๊ง ไม่มีปัญญาทำให้มันดีได้หรอก พ่อเลยจะให้แม่ไปเย็บผ้าที่ศูนย์ชุมชน แต่แม่เราแก่แล้ว ตาก็ไม่ค่อยดีจะให้เย็บผ้าแกก็ไม่เคยทำ สรุปคือทุกวันนี้แม่ก็ยังไม่มีงานทำ ทุกครั้งที่พ่อแม่ทะเลาะกันเราเป็นลูกคนโตก็ห้ามได้บ้างไม่ได้บ้าง ได้แต่คอยปรามพ่อว่าสงสารน้องบ้าง พ่อแกเลยหยุด
แต่ก็จะมีพูดบ่อย ไม่จบไม่สิ้น ก็กลายเป็นว่าทะเลาะกันไปเรื่อยๆด้วยเรื่องเดิมๆบางทีก็ขุดเรื่องเก่ามาพูดบ้าง เราไม่ได้เข้าข้างแม่นะ แต่บางทีเราก็สงสารแก แกเป็นคนถือเงินแล้วต้องใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน เงินไม่พอก็ขอความช่วยเหลือพ่อไม่ได้เลยต้องไปยืมคนอื่นมาใช้ แต่พอพ่อรู้ว่าแม่ไปยืมเงินคนอื่นแกก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอีก หาว่าแม่ไม่มีศักดิ์ศรีบ้าง ขี้เกียจบ้าง ไม่มีปัญญาทำมาหากินบ้าง ดูถูกถากถางทุกเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่น ด่าว่ารีดผ้ายับ ด่าว่าทำกับข้าวรสชาติกินไม่ได้ ด่าว่ากล้าใส่เสื้อผ้าขาดๆแบบนี้ได้ยังไงกูไม่กล้าพาไปไหนหรอก อายเค้า แบบนี้ทุกวันๆ จนเราห่วงสุขภาพจิตแม่น่ะค่ะ เคยมีแวี๊บนึงที่เราคิดว่าอยากให้แม่หย่ากับพ่อซะ แต่บางทีเราก็เรารับรู้ได้ว่าพ่อเองก็ยังรักแม่อยู่มากเหมือนกัน แค่เหมือนความรักมันจืดจางแล้วก็มีเรื่องเงินมาเป็นปัจจัยด้วย เอาเป็นว่าแกคงอยู่ไม่ได้แน่ๆถ้าไม่มีแม่ แล้วอีกอย่างน้องเราสองคนก็อยู่ในช่วงหัวเรี้ยวหัวต่อทั้งคู่ ถ้าเกิดชีวิตครอบครัวต้องถึงจุดแยกทางแบบนี้ เรากลัวน้องอยู่ไม่ได้น่ะค่ะ
...................................................................................................
อยากถามความเห็นทุกคนค่ะว่าเราควรทำยังไงดี เราเครียดมากจริงๆค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาอ่านค่ะ..