ดูตอนนี้มาทั้งตอน ฉากเด็ดที่สุดคงไม่พ้นการดีเบตระหว่างบักเลโดกับสุงิตะแชมเบอร์แฮะ ฟังแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการถกกันระหว่าง
"มนุษย์" กับ
"ปัญญาประดิษฐ์" เลยจริงๆ เรียกว่าเหตุผลอะไรก็ตามที่บักเลโดเอามาเป็นข้ออ้างไม่อยากฆ่าพวกฮิเดียสอีกแล้วในตอนนี้ เจอสุงิตะแชมเบอร์ตีแสกหน้าจนหงายกลิ้งไปหมดเลยทีเดียว เรียกว่าถ้างานนี้เป็นการดีเบตระหว่างผู้สมัครลงชิงตำแหน่งปธน.ละก็ ประชาชนคงเทคะแนนเสียงให้สุงิตะแชมเบอร์ ทิ้งให้บักเลโดสอบตกเละเทะแบบไม่มีโผล่ไปแล้ว ถึงจะอ้างว่าปัญญาประดิษฐ์อย่างสึงิตะแชมเบอร์ก็แค่วิเคราะห์สถานการณ์ตามข้อมูลกับสภาพแวดล้อมเท่าที่มีก็เถอะ แต่เป็นเราๆ ท่านๆ ไปเถียงกับมันก็เถียงไม่ออกเหมือนกันแหละ เพราะแต่ละอย่างที่มันว่ามานี่สมเหตุสมผลทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุผลเรื่องที่ไม่ว่ายังไง สักวันทั้งสองฝ่ายก็ต้องจ้องจะทำลายกันอยู่แล้วตามกฎของ
"ผู้เข้มแข็งย่อมอยู่รอด" นั่นยิ่งจริงเข้าไปใหญ่
ที่แน่ๆ เห็นสภาพของบักเลโดหลังเถียงแพ้สึงิตะแชมเบอร์แล้วนึกภาพนี้ออกมาเลยทีเดียว
แต่ถ้าจะพูดถึงว่าอะไรที่เข้ากับชื่อตอนนี้ที่สุด (ชื่อตอนนี้คือ
"เกาะแห่งความทะเยอทะยาน" ครับ) ก็คงไม่พ้นการกระทำของบักหัวรีเจนท์ในตอนนี้แฮะ ทั้งการยึดเอาสมบัติที่ได้หลังจากกวาดล้างรังของฮิเดียสไปคนเดียว แถมยังประกาศเขตอิทธิพลของตัวเอง ใครล่วงล้ำเขตอิทธิพลจะถูกตอบโต้แบบนี้แล้ว ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าหมอนี่มันเริ่มโดนความทะเยอทะยานเข้าครอบงำไปบางส่วนแล้ว ทั้งที่จากเดิมที่กวาดล้างหมึกก็แค่เพื่อแก้แค้นให้พี่ชายเท่านั้น แต่พอรู้ว่าในรังหมึกมีสมบัติมีคลังอาวุธชั้นดีอยู่ ก็เริ่มทะเยอทะยานอยากสร้างอิทธิพลอยากสร้างอำนาจให้ตัวเองขึ้นมา ไม่อยากคิดเลยแฮะว่าถ้าตั้งเขตปกครองนานๆ ไป หมอนี่จะโดน
"อำนาจ" ของตัวเองครอบงำจนเสียความเป็นตัวเองไปโดยสมบูรณ์รึเปล่า (เอาจริงๆ นะ บักหัวรีเจนท์ในตอนนี้โดยรวมผมว่ายังมีส่วนที่เหมือนเดิมอยู่ ถึงจะโดนความทะเยอทะยานครอบงำไปบ้าง แต่เนื้อแท้จริงๆ มันก็ยังรักพวกพ้อง ห่วงพวกพ้องเหมือนสมัยยังอยู่การ์กันเทียเหมือนเดิมนั่นแหละ เห็นได้จากที่พอเห็นบักเลโดออกอาการจิตตกหลังกวาดล้างหมึกก็ไม่บังคับไม่กดดันอะไรอีก อย่างมากก็แค่ขอสุงิตะแชมเบอร์ไปทำงานด้วยกับแค่คะยั้นคะยอให้ไปงานเลี้ยงเท่านั้น (เป็นคนโดนอำนาจครอบงำไปจริงๆ นี่คงวางท่าออกคำสั่งแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้นไปแล้ว) )
แต่เห็นมันได้อาวุธเจ๋งๆ ไปเยอะขนาดนั้นแล้ว ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามันเกิดบ้าโดนอำนาจครอบงำไปจริงๆ จะทำเรื่องอะไรให้โลกนี้ปวดหัวปวดตับเล่นๆ อีกรึเปล่า
อย่างน้อยก็อย่าเป็นอะไรที่เกิดเรื่องชวนปวดตับกับน้องเมลตี้คนนี้เล้ยให้ตายสิ (ถึงจะเคยเห็นตัวละครตายมาเยอะๆ ก็เหอะ มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำใจได้ทุกครั้งที่มีตัวละครน่ารักๆ ตายนา -3-)
ส่วนบักเลโดในตอนนี้ผมพอเข้าใจความรู้สึกมันอยู่นิดหน่อยแฮะ ที่บางคนบอกว่าทำไมตอนแรกๆ ฆ่าโจรสลัดได้ง่ายๆ แต่พอครั้งนี้มาไล่ฆ่าฮิเดียสแล้วกลับสติแตกเอาง่ายๆ เอาเข้าจริงผมว่ามันใกล้เคียงกับที่สไนเปอร์คนหนึ่งเคยบอกไว้เลยแฮะว่า
"การจับปืนกลออกไปยิงแลกใส่ฝ่ายตรงข้ามในสนามรบน่ะง่ายกว่าแล้วก็สะดวกใจกว่าการมองผ่านกล้องเล็งของปืนสไนเปอร์ไรเฟิลแล้วรู้ว่าคนที่เรากำลังจะฆ่าเป็นใครซะอีก"
ก็ต้องคอยดูกันละครับว่าการดีเบตกับลูกน้อง (AI หุ่นกระป๋อง) ในตอนนี้จะทำให้บักเลโดก้าวข้ามความรู้สึกนี้ไปได้แค่ไหน เพราะตอนหน้านี่คงไม่มีเวลาให้มันมัวมานั่งอีโมฯ อยู่แล้วแน่ๆ
ยิ่งมีไอ้พวกหน้าตาเหมือนแก๊งค์คลั่งลัทธิ KKK แต่หน้าตาเอ๋อเหลอเหมือนพวกขี้ยาจากลัทธิขบวนการลอบสังหาร Assassin Creed ขับเรือปืนห้อยหมึกตากแห้งเต็มกราบเรือโผล่มาทั้งแก๊งค์แบบนี้
แถมคนที่นำไอ้พวกนี้มายังเป็นหัวหน้าเก่าของบักเลโดที่น่าจะเดี้ยงไปตั้งกะตอนแรกแล้วอีกต่างหาก
เจอแบบนี้เล่นเอาเดาไม่ออกเลยแฮะว่าตอนหน้าจะมากันไม้ไหน คงได้แต่รอดูโลดละครับ
ทิ้งท้ายด้วยภาพ Endcard ประจำตอนนี้ครับ
[Spoil] Suisei no Gargantia #10 - การดีเบตระหว่างลูกน้องกับเจ้านาย...กับลางสังหรณ์ร้ายที่มาเยือน
ที่แน่ๆ เห็นสภาพของบักเลโดหลังเถียงแพ้สึงิตะแชมเบอร์แล้วนึกภาพนี้ออกมาเลยทีเดียว
แต่ถ้าจะพูดถึงว่าอะไรที่เข้ากับชื่อตอนนี้ที่สุด (ชื่อตอนนี้คือ "เกาะแห่งความทะเยอทะยาน" ครับ) ก็คงไม่พ้นการกระทำของบักหัวรีเจนท์ในตอนนี้แฮะ ทั้งการยึดเอาสมบัติที่ได้หลังจากกวาดล้างรังของฮิเดียสไปคนเดียว แถมยังประกาศเขตอิทธิพลของตัวเอง ใครล่วงล้ำเขตอิทธิพลจะถูกตอบโต้แบบนี้แล้ว ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าหมอนี่มันเริ่มโดนความทะเยอทะยานเข้าครอบงำไปบางส่วนแล้ว ทั้งที่จากเดิมที่กวาดล้างหมึกก็แค่เพื่อแก้แค้นให้พี่ชายเท่านั้น แต่พอรู้ว่าในรังหมึกมีสมบัติมีคลังอาวุธชั้นดีอยู่ ก็เริ่มทะเยอทะยานอยากสร้างอิทธิพลอยากสร้างอำนาจให้ตัวเองขึ้นมา ไม่อยากคิดเลยแฮะว่าถ้าตั้งเขตปกครองนานๆ ไป หมอนี่จะโดน "อำนาจ" ของตัวเองครอบงำจนเสียความเป็นตัวเองไปโดยสมบูรณ์รึเปล่า (เอาจริงๆ นะ บักหัวรีเจนท์ในตอนนี้โดยรวมผมว่ายังมีส่วนที่เหมือนเดิมอยู่ ถึงจะโดนความทะเยอทะยานครอบงำไปบ้าง แต่เนื้อแท้จริงๆ มันก็ยังรักพวกพ้อง ห่วงพวกพ้องเหมือนสมัยยังอยู่การ์กันเทียเหมือนเดิมนั่นแหละ เห็นได้จากที่พอเห็นบักเลโดออกอาการจิตตกหลังกวาดล้างหมึกก็ไม่บังคับไม่กดดันอะไรอีก อย่างมากก็แค่ขอสุงิตะแชมเบอร์ไปทำงานด้วยกับแค่คะยั้นคะยอให้ไปงานเลี้ยงเท่านั้น (เป็นคนโดนอำนาจครอบงำไปจริงๆ นี่คงวางท่าออกคำสั่งแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้นไปแล้ว) )
แต่เห็นมันได้อาวุธเจ๋งๆ ไปเยอะขนาดนั้นแล้ว ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามันเกิดบ้าโดนอำนาจครอบงำไปจริงๆ จะทำเรื่องอะไรให้โลกนี้ปวดหัวปวดตับเล่นๆ อีกรึเปล่า
อย่างน้อยก็อย่าเป็นอะไรที่เกิดเรื่องชวนปวดตับกับน้องเมลตี้คนนี้เล้ยให้ตายสิ (ถึงจะเคยเห็นตัวละครตายมาเยอะๆ ก็เหอะ มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำใจได้ทุกครั้งที่มีตัวละครน่ารักๆ ตายนา -3-)
ส่วนบักเลโดในตอนนี้ผมพอเข้าใจความรู้สึกมันอยู่นิดหน่อยแฮะ ที่บางคนบอกว่าทำไมตอนแรกๆ ฆ่าโจรสลัดได้ง่ายๆ แต่พอครั้งนี้มาไล่ฆ่าฮิเดียสแล้วกลับสติแตกเอาง่ายๆ เอาเข้าจริงผมว่ามันใกล้เคียงกับที่สไนเปอร์คนหนึ่งเคยบอกไว้เลยแฮะว่า "การจับปืนกลออกไปยิงแลกใส่ฝ่ายตรงข้ามในสนามรบน่ะง่ายกว่าแล้วก็สะดวกใจกว่าการมองผ่านกล้องเล็งของปืนสไนเปอร์ไรเฟิลแล้วรู้ว่าคนที่เรากำลังจะฆ่าเป็นใครซะอีก"
ก็ต้องคอยดูกันละครับว่าการดีเบตกับลูกน้อง (AI หุ่นกระป๋อง) ในตอนนี้จะทำให้บักเลโดก้าวข้ามความรู้สึกนี้ไปได้แค่ไหน เพราะตอนหน้านี่คงไม่มีเวลาให้มันมัวมานั่งอีโมฯ อยู่แล้วแน่ๆ
ยิ่งมีไอ้พวกหน้าตาเหมือนแก๊งค์คลั่งลัทธิ KKK แต่หน้าตาเอ๋อเหลอเหมือนพวกขี้ยาจากลัทธิขบวนการลอบสังหาร Assassin Creed ขับเรือปืนห้อยหมึกตากแห้งเต็มกราบเรือโผล่มาทั้งแก๊งค์แบบนี้
แถมคนที่นำไอ้พวกนี้มายังเป็นหัวหน้าเก่าของบักเลโดที่น่าจะเดี้ยงไปตั้งกะตอนแรกแล้วอีกต่างหาก
เจอแบบนี้เล่นเอาเดาไม่ออกเลยแฮะว่าตอนหน้าจะมากันไม้ไหน คงได้แต่รอดูโลดละครับ
ทิ้งท้ายด้วยภาพ Endcard ประจำตอนนี้ครับ