เอาบทความน่าสนใจ จาก เว็บ
http://www.thethaitown.com มาแบ่งปันกันอ่านค่ะ
ครบรอบ 1 ปีพอดี สำหรับการใช้ชีวิตในนครนิวยอร์ก มีอะไรจะเล่าให้ฟัง
Posted by Iximple on May 22, 2013 at 12:09am
สำหรับ 1 ปีที่ผ่านมา ก็ถือได้ว่า เหนื่อยอยู่บ้างเหมือนกันครับ ไปเรียนแทบทุกวัน และ ทำงานแทบจะทุกวันเช่นกัน แต่ก็สนุกไปอีกแบบ
ทำงาน เก็บเงิน เที่ยว ใช้ชีวิต ได้เพื่อนใหม่ๆ ที่ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา
วันนี้จะขอเล่าประสบการณ์การเรียนภาษาในต่างแดนให้ฟังบ้าง หลังจากที่เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะได้ผ่านเข้าไปอ่านบ้าง ในเรื่อง แชร์ประสบการณ์ การสัมภาษณ์วีซ่า by iximple หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากหรืออาจจะไม่ได้เลย ฮาๆๆ
สำหรับ 1 ปีที่ผ่านไปซึ่งไวมาก ไวเหมือนโกหก เหมือนโกหกจริงๆ มันไวมาก เพื่อนๆ หลายคนที่อยู่มานานๆๆ ก็คงจะทราบดี
วันแรกของการไปเรียนภาษา ต้องบอกว่า ภาษาอังกฤษที่มีอยู่ติดตัวแทบจะไม่สามารถใช้การได้เลย คุยกะเพื่อนไม่รู้เรื่อง ฟังอาจารย์สอนก็ไม่รู้เรื่อง แต่ก็อดทน ค่อยๆ คลานไป เพราะไม่ใช่เราคนเดียว เพื่อนๆบางคน

ยิ่งกว่าเราอีก ฮาๆๆ (คิดเข้าข้างตัวเอง)
เดือนแรกผ่านไป เริ่มที่จะฟังเพื่อนๆ รู้เรื่อง เรียนเข้าใจมากขึ้น ขยันทำการบ้าน ศึกษาบทต่อไปที่จะเรียนไปก่อน เพื่อที่จะได้ตามเพื่อนๆ ทัน
เดือนที่สอง ที่สาม ทักษะการฟังเริ่มดีขึ้น สามารถฟังเข้าใจได้รวดเร็วขึ้น แต่การพูดของผมยังติดๆ ขัดๆ แต่ก็ถือว่าดีกว่าวันแรกๆ ที่เข้าเรียนมาก
เดือนที่ห้า ผมตัดสินใจย้ายโรงเรียน ไปเรียนโรงเรียนที่ถูกลง ลดวันเรียนจาก 5 วันลดลงเหลือ 4 วัน เพราะต้องทำงานด้วย เรียนด้วย
มาถึงเดือนที่หก ผมประเมินตนเองว่า พัฒนาขึ้นเยอะมาก ฟังเข้าใจมากขึ้น สื่อสารได้ดีมากขึ้น อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยาสารต่างๆ เข้าใจมากขึ้น
ส่วนวิธีการ เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะมีวิธีการแตกต่างกันไป บ้างก็เขียนไดอารี่(แต่ผมขี้เกียจ ฮาๆๆ) บ้างก็ดูหนังฟังเพลง ฯลฯ
ส่วนวิธีการของผมคือ
1. ผมชอบดูหนัง ผมคิดว่าส่วนสำคัญของผมที่จะพัฒนาอันดับแรกคือทักษะทางด้านการฟัง ผมเรื่มจากการดูทีวี ดูซีรี่ ดูหนัง โดยที่ไม่มีซับไตเติล เพราะถ้ามีผมจะไม่มีสมาธิในการฟังเพราะสมาธิจะจดจ่ออยู่กับซับไตเติล
2. ผมชอบฟังเพลงอยู่แล้ว แต่ผมเริ่มจากลบเพลงไทยที่มีอยู่ในโทรศัพท์ออกฟังแต่เพลงสากล ในระหว่างที่ฟังต้องพยายามฟังและจับใจความให้ได้ว่าความหมายของเพลงคืออะไร แต่เพลงจะยากมากสำหรับผม ผมจึงต้องหาซอฟแวร์ที่มี เนื่อเพลงประกอบด้วย
3. อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ จากเว็บไซต์ ซื้อนิตยสารที่เราชอบมาอ่าน และจะพยายามหาคำศัพท์ใหม่ๆ จากบนรถไฟบ้าง ข้างถนนบ้าง
4. แฮงค์เอ้า หรือไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยๆ อันนี้สำคัญมาก!!!! เพราะจะทำให้เรากล้าพูด กล้าแสดงออก
5. จำไม่ได้ละ ฮาๆๆ
มาถึงวันนี้ครบหนึ่งปี ผมคิดว่าผมพอใจกับเวลาที่ผ่านมา ผมสามารถสื่อสารกับเพื่อนๆ ต่างชาติได้ สามารถคุยและสื่อสารผ่านโทรศัพท์ได้ ถึงแม้แกรมม่าจะผิดบ้างไรบ้าง แต่ผมก็ไม่เคยเจอฝรั่งคนไหนเดินมาบอกผมสักคนว่า "ยูใช้ tense ผิดนะ ต้อง past tense present tense" พูดไปเถอะ ผิดบ้างไรบ้าง แค่ผู้ฟังเข้าใจเป็นใช้ได้ วันนึงเราเก่งขึ้นเราจะกลับมาแก้ไขได้เอง ดีกว่าอายแล้วไม่กล้าพูด
แล้วพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ละครับเป็นอย่างไรบ้าง ร่วมด้วยช่วยกันแชร์ประสบการณ์ ให้ผู้กล้าที่ตัดสินใจมาหาประสบการณ์ต่างแดนกันครับ
by iximple
แบ่งปันความรู้ สำหรับ นักเรียนไทยในอเมริกา
ครบรอบ 1 ปีพอดี สำหรับการใช้ชีวิตในนครนิวยอร์ก มีอะไรจะเล่าให้ฟัง
Posted by Iximple on May 22, 2013 at 12:09am
สำหรับ 1 ปีที่ผ่านมา ก็ถือได้ว่า เหนื่อยอยู่บ้างเหมือนกันครับ ไปเรียนแทบทุกวัน และ ทำงานแทบจะทุกวันเช่นกัน แต่ก็สนุกไปอีกแบบ
ทำงาน เก็บเงิน เที่ยว ใช้ชีวิต ได้เพื่อนใหม่ๆ ที่ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา
วันนี้จะขอเล่าประสบการณ์การเรียนภาษาในต่างแดนให้ฟังบ้าง หลังจากที่เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะได้ผ่านเข้าไปอ่านบ้าง ในเรื่อง แชร์ประสบการณ์ การสัมภาษณ์วีซ่า by iximple หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากหรืออาจจะไม่ได้เลย ฮาๆๆ
สำหรับ 1 ปีที่ผ่านไปซึ่งไวมาก ไวเหมือนโกหก เหมือนโกหกจริงๆ มันไวมาก เพื่อนๆ หลายคนที่อยู่มานานๆๆ ก็คงจะทราบดี
วันแรกของการไปเรียนภาษา ต้องบอกว่า ภาษาอังกฤษที่มีอยู่ติดตัวแทบจะไม่สามารถใช้การได้เลย คุยกะเพื่อนไม่รู้เรื่อง ฟังอาจารย์สอนก็ไม่รู้เรื่อง แต่ก็อดทน ค่อยๆ คลานไป เพราะไม่ใช่เราคนเดียว เพื่อนๆบางคน
เดือนแรกผ่านไป เริ่มที่จะฟังเพื่อนๆ รู้เรื่อง เรียนเข้าใจมากขึ้น ขยันทำการบ้าน ศึกษาบทต่อไปที่จะเรียนไปก่อน เพื่อที่จะได้ตามเพื่อนๆ ทัน
เดือนที่สอง ที่สาม ทักษะการฟังเริ่มดีขึ้น สามารถฟังเข้าใจได้รวดเร็วขึ้น แต่การพูดของผมยังติดๆ ขัดๆ แต่ก็ถือว่าดีกว่าวันแรกๆ ที่เข้าเรียนมาก
เดือนที่ห้า ผมตัดสินใจย้ายโรงเรียน ไปเรียนโรงเรียนที่ถูกลง ลดวันเรียนจาก 5 วันลดลงเหลือ 4 วัน เพราะต้องทำงานด้วย เรียนด้วย
มาถึงเดือนที่หก ผมประเมินตนเองว่า พัฒนาขึ้นเยอะมาก ฟังเข้าใจมากขึ้น สื่อสารได้ดีมากขึ้น อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยาสารต่างๆ เข้าใจมากขึ้น
ส่วนวิธีการ เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะมีวิธีการแตกต่างกันไป บ้างก็เขียนไดอารี่(แต่ผมขี้เกียจ ฮาๆๆ) บ้างก็ดูหนังฟังเพลง ฯลฯ
ส่วนวิธีการของผมคือ
1. ผมชอบดูหนัง ผมคิดว่าส่วนสำคัญของผมที่จะพัฒนาอันดับแรกคือทักษะทางด้านการฟัง ผมเรื่มจากการดูทีวี ดูซีรี่ ดูหนัง โดยที่ไม่มีซับไตเติล เพราะถ้ามีผมจะไม่มีสมาธิในการฟังเพราะสมาธิจะจดจ่ออยู่กับซับไตเติล
2. ผมชอบฟังเพลงอยู่แล้ว แต่ผมเริ่มจากลบเพลงไทยที่มีอยู่ในโทรศัพท์ออกฟังแต่เพลงสากล ในระหว่างที่ฟังต้องพยายามฟังและจับใจความให้ได้ว่าความหมายของเพลงคืออะไร แต่เพลงจะยากมากสำหรับผม ผมจึงต้องหาซอฟแวร์ที่มี เนื่อเพลงประกอบด้วย
3. อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ จากเว็บไซต์ ซื้อนิตยสารที่เราชอบมาอ่าน และจะพยายามหาคำศัพท์ใหม่ๆ จากบนรถไฟบ้าง ข้างถนนบ้าง
4. แฮงค์เอ้า หรือไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยๆ อันนี้สำคัญมาก!!!! เพราะจะทำให้เรากล้าพูด กล้าแสดงออก
5. จำไม่ได้ละ ฮาๆๆ
มาถึงวันนี้ครบหนึ่งปี ผมคิดว่าผมพอใจกับเวลาที่ผ่านมา ผมสามารถสื่อสารกับเพื่อนๆ ต่างชาติได้ สามารถคุยและสื่อสารผ่านโทรศัพท์ได้ ถึงแม้แกรมม่าจะผิดบ้างไรบ้าง แต่ผมก็ไม่เคยเจอฝรั่งคนไหนเดินมาบอกผมสักคนว่า "ยูใช้ tense ผิดนะ ต้อง past tense present tense" พูดไปเถอะ ผิดบ้างไรบ้าง แค่ผู้ฟังเข้าใจเป็นใช้ได้ วันนึงเราเก่งขึ้นเราจะกลับมาแก้ไขได้เอง ดีกว่าอายแล้วไม่กล้าพูด
แล้วพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ละครับเป็นอย่างไรบ้าง ร่วมด้วยช่วยกันแชร์ประสบการณ์ ให้ผู้กล้าที่ตัดสินใจมาหาประสบการณ์ต่างแดนกันครับ
by iximple