คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
สำหรับบางคนที่การทำบัญชีอาจเป็นเรื่องเกินความสามารถ (แบบที่ผมเป็น) ขอเสนอวิธี(มัก)ง่ายในการเก็บเงินครับ
ก่อนอื่นรับเงินเดือนมาแล้ว แบ่งเงินออกมา 60:40 แล้วให้แยกค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทออกมาก่อน กะคร่าวๆเอาก็ได้
1. รายจ่าย ผมแบ่งเป็น 2 ก้อนใหญ่ๆ
1.1. ค่าใช้จ่ายคงที่ = แบ่งให้ที่บ้าน ค่าที่พัก ค่ารถ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์/เน็ต อะไรต่างๆนานาที่เราต้องจ่ายแน่ๆทุกเดือน แม้แต่ผ่อนอะไรต่างๆก็ไว้ตรงนี้
ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะซื้อของอะไรจะใช้วิธีผ่อน 0% 10 เดือนเพราะจะทำให้คุมรายจ่ายได้ ค่าใช้จ่ายจะได้เฉลี่ยเท่าๆกันไป ถ้าหนักมือไปทีเดียวจะนึกว่าใช้ไม่เยอะ(เพราะไม่ได้ใช้ทุกเดือน คิดว่านานๆทีตลอด
) แต่กลับมาดูอีกทีอ้าวไหงไม่มีตังค์เก็บ
1.2. ค่ากินอยู่ = ค่ากินช็อป สังสรรค์กะเพื่อน ไปเที่ยว นอกจากค่าข้าวรายวันแล้วก่้อนนี้เอาไว้ฟุ่มเฟือยล้วนๆ แยกออกมาไว้ตรงนี้เพราะเป็นส่วนที่ปรับลดได้ครับ
คุมรายจ่ายทั้งหมดให้ไม่เกิน 60% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ถ้าค่าใช้จ่ายคงที่เยอะก็ต้องมาลดของฟุ่มเฟือยตรง 1.2 แทน ถ้าเดือนไหนใช้ไม่หมด ให้เอาที่เหลือไปฝากไว้ สักพักเราจะได้ตังค์ไปเที่ยวเล่นก้อนนึง
2. เงินเก็บก็แบ่งเป็น 2 ก้อนใหญ่ๆก่อน
2.1 ออมเพื่อลดหย่อนภาษี ช่วงแรกๆให้เอา 50% มาซื้อ ltf/ประกันเพื่อลดหย่อนภาษี เมื่อไหร่ที่ลดหย่อนจนพอใจแล้วแล้วให้เอาไปลง 2.3 ต่อ
Ltf ซื้อทุกเดือนเลยก็ได้ครับเลือกสักกองทุนแล้วโยนลงไปเลยไม่ต้องสนใจว่าจะขึ้นจะลง ถือว่าเอาประโยชน์ทางภาษี ส่วนประกันก็ดูความต้องการเราก่อนว่าจะเอาแบบไหน ถ้าบริษัทมีประกันกลุ่มให้แล้วไม่มีใครข้างหลังให้ห่วงอาจเลือกแต่แบบออมทรัพย์
2.2 เงินเย้นเย็น แบ่งครึ่งนึงของเงินออมมาสะสมไว้ให้ได้รายจ่ายในข้อ 1 x 6 เดือนครับ เผื่อสถานการณ์ไม่แน่นอน เจ็บป่วย ติสต์แตกออกจากงาน บริษัทอยากเลิกกิจการจะได้มีตังค์ไว้ใช้แก้เครียด อันนี้จะควรฝากออมทรัพย์ที่ได้ดอกสูงอย่าง ME หรือจะเอาไปเก็บในรูปแบบอื่นก็ได้ภายใต้คอนเซปที่ว่าสามารถถอนได้ตลอดเวลา (แต่ไม่ฉุกเฉินห้ามถอนนะ)
ถ้า 2.1 กับ 2.2 เต็มโควต้าแล้ว ให้เอามาลง 2.3 ออมเพื่อการลงทุน จะลงกองทุน เล่นหุ้น ซื้อสลาก ตามสะดวกเลยครับ
ถ้ากิเลสยังเยอะอนุโลมให้เปลี่ยนสัดส่วนรายจ่ายต่อเงินออมเป็น 70:30 ครับ ได้มากกว่านี้ถือว่าเป็นโบนัสไป
ก่อนอื่นรับเงินเดือนมาแล้ว แบ่งเงินออกมา 60:40 แล้วให้แยกค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทออกมาก่อน กะคร่าวๆเอาก็ได้
1. รายจ่าย ผมแบ่งเป็น 2 ก้อนใหญ่ๆ
1.1. ค่าใช้จ่ายคงที่ = แบ่งให้ที่บ้าน ค่าที่พัก ค่ารถ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์/เน็ต อะไรต่างๆนานาที่เราต้องจ่ายแน่ๆทุกเดือน แม้แต่ผ่อนอะไรต่างๆก็ไว้ตรงนี้
ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะซื้อของอะไรจะใช้วิธีผ่อน 0% 10 เดือนเพราะจะทำให้คุมรายจ่ายได้ ค่าใช้จ่ายจะได้เฉลี่ยเท่าๆกันไป ถ้าหนักมือไปทีเดียวจะนึกว่าใช้ไม่เยอะ(เพราะไม่ได้ใช้ทุกเดือน คิดว่านานๆทีตลอด

1.2. ค่ากินอยู่ = ค่ากินช็อป สังสรรค์กะเพื่อน ไปเที่ยว นอกจากค่าข้าวรายวันแล้วก่้อนนี้เอาไว้ฟุ่มเฟือยล้วนๆ แยกออกมาไว้ตรงนี้เพราะเป็นส่วนที่ปรับลดได้ครับ
คุมรายจ่ายทั้งหมดให้ไม่เกิน 60% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ถ้าค่าใช้จ่ายคงที่เยอะก็ต้องมาลดของฟุ่มเฟือยตรง 1.2 แทน ถ้าเดือนไหนใช้ไม่หมด ให้เอาที่เหลือไปฝากไว้ สักพักเราจะได้ตังค์ไปเที่ยวเล่นก้อนนึง
2. เงินเก็บก็แบ่งเป็น 2 ก้อนใหญ่ๆก่อน
2.1 ออมเพื่อลดหย่อนภาษี ช่วงแรกๆให้เอา 50% มาซื้อ ltf/ประกันเพื่อลดหย่อนภาษี เมื่อไหร่ที่ลดหย่อนจนพอใจแล้วแล้วให้เอาไปลง 2.3 ต่อ
Ltf ซื้อทุกเดือนเลยก็ได้ครับเลือกสักกองทุนแล้วโยนลงไปเลยไม่ต้องสนใจว่าจะขึ้นจะลง ถือว่าเอาประโยชน์ทางภาษี ส่วนประกันก็ดูความต้องการเราก่อนว่าจะเอาแบบไหน ถ้าบริษัทมีประกันกลุ่มให้แล้วไม่มีใครข้างหลังให้ห่วงอาจเลือกแต่แบบออมทรัพย์
2.2 เงินเย้นเย็น แบ่งครึ่งนึงของเงินออมมาสะสมไว้ให้ได้รายจ่ายในข้อ 1 x 6 เดือนครับ เผื่อสถานการณ์ไม่แน่นอน เจ็บป่วย ติสต์แตกออกจากงาน บริษัทอยากเลิกกิจการจะได้มีตังค์ไว้ใช้แก้เครียด อันนี้จะควรฝากออมทรัพย์ที่ได้ดอกสูงอย่าง ME หรือจะเอาไปเก็บในรูปแบบอื่นก็ได้ภายใต้คอนเซปที่ว่าสามารถถอนได้ตลอดเวลา (แต่ไม่ฉุกเฉินห้ามถอนนะ)
ถ้า 2.1 กับ 2.2 เต็มโควต้าแล้ว ให้เอามาลง 2.3 ออมเพื่อการลงทุน จะลงกองทุน เล่นหุ้น ซื้อสลาก ตามสะดวกเลยครับ
ถ้ากิเลสยังเยอะอนุโลมให้เปลี่ยนสัดส่วนรายจ่ายต่อเงินออมเป็น 70:30 ครับ ได้มากกว่านี้ถือว่าเป็นโบนัสไป

แสดงความคิดเห็น
เงินเดือน 50,000 บาท ใช้อย่างไรให้เหมาะกับยุคสมัยนี้?
อยากได้หลักการในการใช้เงินจากพี่ๆที่มีประสบการณ์ค่ะ
1. อยากมีเงินเก็บ
2. อยากแบ่งแงินให้ที่บ้านทุกเดือน
3. อยากแบ่งเงินไว้ใช้เพื่อความบันเทิง
4. บ้านฐานะปานกลาง
5. จ่ายค่าหอ 3,000 บาท/เดือน
6. ตอนนี้ยังไม่ต้องผ่อนอะไร
7. มีวิธีเก็บเงินรายเดือนดีๆ อย่างอื่นไหมคะ นอกจากการออม (เช่นซื้อทองคำ ฯลฯ)
คำถามเยอะไปไหมคะ 5555