สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
คิดว่าคนที่เจ้ามาตอบที่บอกว่าผิดนี่ คงจะมีอาชีพที่ขายประกันอยู่แล้ว หรือเกี่ยวข้อง
รู้สึกว่าจะพยายามกันจังที่จะต่อว่าเรื่อง จรรณยาบรรณ
ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ไปขายคนอื่น หรือประกาศขายใคร คงไม่ได้ไปแย่งลูกค้าพวกคุณ แต่ผมให้โดยเสน่หากับเพื่อนเอง เพราะไม่ชอบคนอาชีพขายประกันพวกนี้ที่เอาเปรียบลูกค้า นายหน้าขายประกันบางคน ถึงวันก็มาเก็บเบี้ยลูกค้า เสร็จแล้วก็หายหัว เรื่องของขวัญปีใหม่ อย่างดีก็ปฏิทินตั้งโต๊ะ แต่ค่าคอมมิชชั่น ปีนึงคุณได้จากลูกค้าไปเท่าไรถามตัวคุณๆที่ขายประกันกันเองหน่อย
ด้วยหลักและเหตุผลคือ ตัวแทนนั้น รับค่าจ้างเป็นรายเดือนด้วยไหมครับ หรือว่า รับแต่ค่าคอมมิชชั่น ถ้าตัวแทนไม่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน บริษัทไม่ให้สวัสดิการใดๆเลยกับตัวแทนนั้น ตัวแทนรับเฉพาะค่าคอม ถ้าตัวแทนคิดว่าค่าคอมพอต่อการดำรงชีพแล้วไม่หาลูกค้าใหม่ ก็ผิดหรือ เพราะบริษัทไม่ได้จ้างและไม่มีสวัสดิการอะไรให้
พวกคุณๆที่ทำงานด้านนี้ ยอมเป็นทาสเขาอยู่ร่ำๆไปโดยไม่คิดเลยว่าระบบมันไม่ยุติธรรมแต่พอจะมีคนลุกขึ้นมาต่อต้าน แทนที่จะช่วยให้ข้อมูลหรือคำปรึกษาแต่กลับ ปกป้องหรือระวังสิทธิของตนในการขายประกัน แบบนี้ไม่ไหวนะครับ ประเด็นที่ผมถามคือเรื่องความไม่เป็นธรรมและไม่ยุติธรรมของระบบจะฟ้องศาลได้ไหม
รู้สึกว่าจะพยายามกันจังที่จะต่อว่าเรื่อง จรรณยาบรรณ
ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ไปขายคนอื่น หรือประกาศขายใคร คงไม่ได้ไปแย่งลูกค้าพวกคุณ แต่ผมให้โดยเสน่หากับเพื่อนเอง เพราะไม่ชอบคนอาชีพขายประกันพวกนี้ที่เอาเปรียบลูกค้า นายหน้าขายประกันบางคน ถึงวันก็มาเก็บเบี้ยลูกค้า เสร็จแล้วก็หายหัว เรื่องของขวัญปีใหม่ อย่างดีก็ปฏิทินตั้งโต๊ะ แต่ค่าคอมมิชชั่น ปีนึงคุณได้จากลูกค้าไปเท่าไรถามตัวคุณๆที่ขายประกันกันเองหน่อย
ด้วยหลักและเหตุผลคือ ตัวแทนนั้น รับค่าจ้างเป็นรายเดือนด้วยไหมครับ หรือว่า รับแต่ค่าคอมมิชชั่น ถ้าตัวแทนไม่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน บริษัทไม่ให้สวัสดิการใดๆเลยกับตัวแทนนั้น ตัวแทนรับเฉพาะค่าคอม ถ้าตัวแทนคิดว่าค่าคอมพอต่อการดำรงชีพแล้วไม่หาลูกค้าใหม่ ก็ผิดหรือ เพราะบริษัทไม่ได้จ้างและไม่มีสวัสดิการอะไรให้
พวกคุณๆที่ทำงานด้านนี้ ยอมเป็นทาสเขาอยู่ร่ำๆไปโดยไม่คิดเลยว่าระบบมันไม่ยุติธรรมแต่พอจะมีคนลุกขึ้นมาต่อต้าน แทนที่จะช่วยให้ข้อมูลหรือคำปรึกษาแต่กลับ ปกป้องหรือระวังสิทธิของตนในการขายประกัน แบบนี้ไม่ไหวนะครับ ประเด็นที่ผมถามคือเรื่องความไม่เป็นธรรมและไม่ยุติธรรมของระบบจะฟ้องศาลได้ไหม
แสดงความคิดเห็น
เป็นตัวแทนขายประกัน แต่โดนบังคับให้หาลูกค้า ไม่เช่นนั้นจะถูกเลิกสัญญาตัวแทน มันยุติธรรมแล้วหรือ
(ข้อความที่เขียนต่อไปนี้ ไม่ได้ต้องการขายประกัน หรือให้มาซื้อประกันกับผม แต่อยากรู้หลักการว่าจะสามารถทำอะไรกับระบบแบบนี้ได้หรือไม่)
ผมทำงานประจำอยู่แล้ว และไม่ได้คิดจะทำงานขายประกันเป็นงานหลัก สาเหตุที่เข้ามาทำงานขายประกันก็เพราะ
1. เพื่อนเก่าสมัยเรียนซึ่งขายประกันอยู่แล้วเข้ามาชวนให้ร่วมขายด้วย (ผมก็เลยไปสอบ แล้วก็ได้ เพราะมันไม่ได้ยากอะไร)
2. เพื่อนที่ทำงานเขาก็กำลังอยากจะทำประกันชีวิตประเภท 15/10 หรือ 10/6 หรือ อื่นๆกันมาก และผมก็เห็นว่า พวกตัวแทนประกัน ได้ค่าคอมมิชชั่นจากกรมธรรม์พวกนี้จำนวนมากอยู่ เช่น 15/10 จะได้ในปีแรกถึง 15% ส่วนปีต่อไปได้ 6% และต่อไปๆได้ 2% เป็นต้น โดยด้วยความเป็นเพื่อนกัน
ผมก็ได้ตกลงกันไว้แล้วว่า เราไม่เอาเปรียบกัน ผมให้เป็นส่วนลดคืนเงินให้เฉพาะในปีแรก 15% เมื่อทำประกันกับผม ส่วนปีต่อไปๆผมก็เซอร์วิสให้ตลอดด้วยการไปรับชำระด้วยบัตรเครดิตเมื่อถึงเวลาครบกำหนดผ่อนผัน 30 วัน เพราะเพื่อนๆก็อยากได้แต้มบัตรเครดิต
ทั้งๆที่การกระทำ(คืนเงิน) แบบนี้ ถือว่าเป็นการผิดจรรยาบรรณ แต่มันไม่ใช่ผิดกฏหมาย ผมให้เพื่อนโดยเสน่หาและความสนิทสนม และด้วยอีกอย่างนีงคือ ผมมองในทางกลับกัน เพราะตัวผมเองก็เคยซื้อประกันกับบริษัทหนึ่งมาก่อนหน้านี้ ซึ่งยังต้องส่งอีกนาน เนื่องจากเป็นประกันสุขภาพ คุ้มครองถึง 80 ปี และขนาดตัวเองก็ยังรู้สึกเลยว่า โดยตัวแทนหน้าเลือดเอาเปรียบ ทั้งๆที่ตัวแทนก็ไม่ได้เซอร์วิสอะไรมากมาย แต่ก็ได้ค่าคอมมิชชั่นทุกปี (ประกันสุขภาพ ตัวแทนจะได้ค่าคอมมิชชั่น เยอะมาก บางกรมธรรม์ได้ถึง 20%) ตัวแทนมีแต่จะรวยเอาๆ จากการหาลูกค้า ได้เงินเป็นลูกโซ่จากค่าคอมมิชชั่น
ต่อมาในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ผมก็ได้ลูกค้าที่เป็นเพื่อนสนิท ซึ่งเขาอยากซื้อประกัน และผมก็ช่วยในการแบ่งเบาภาระการจ่ายเงินเขาไปบ้าง โดยมีลูกค้าประมาณ 5 ราย (ประกันชีวิตลดหย่อนภาษี 4 กรมธรรม์ และมีสุขภาพ 2 กรมธรรม์) แต่ในช่วงปีนี้ผมไม่ได้มีลูกค้าเพิ่มอีก (ไม่ได้สนใจที่จะหาลูกค้าอยู่แล้ว เพราะด้วยความที่เราไม่ชอบไปเซ้าซี้หรือตื้อคนอื่น เวลาเพื่อนๆอยากทำก็จะมาไถ่ถามข้อมูล แล้วเราโคดราคาเปรียบเทียบกับเจ้าโน่นเจ้านี่ให้ประกอบการตัดสินใจ)
ช่วงนี้เลยมีอีเมลล์มาแจ้งจากบริษัทประกันว่า ถ้าภายในไตรมาส 2 นี้ ไม่ได้ลูกค้าเพิ่ม จะทำการยกเลิกสัญญาตัวแทน ซึ่งนั่นหมายความถึง ถ้าผมจะขายประกันอีกต้องไปเสียเงินค่าสอบใหม่ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ค่าคอมมิชชั่น ของปีถัดๆของเพื่อน (ลูกค้า) ที่มาทำกับผม ผมจะไม่ได้รับอีกต่อไป เท่ากับโดนยกเลิกไปโดยอัตโนมัติ ทั้งๆที่ลูกค้าก็ยังต้องส่งเบี้ยให้กับบริษัทประกันจนครบสัญญา
ระบบแบบนี้นี่เอง ถึงไม่แปลกที่ตัวแทน ต้องพยายามหาลูกค้าให้กับบริษัทประกันอยู่ตลอดเวลา คำถามคือ มันยุติธรรมแล้วหรือครับ มันเป็นการทำงานที่ยุติธรรมไหม เพราะ
1. บริษัทไม่ได้จ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือน แต่ใช้วิธีให้ค่าคอมมิชชั่น แต่อยู่ดีๆสามารถบอกยกเลิกกลางคันได้เมื่อลูกจ้างไม่หาลูกค้ามาเพิ่ม
2. ถ้าทำการขายประกัน แล้วเกิดความผิดพลาด ตัวแทนก็มีสิทธิโดนฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายได้ แล้วทำไมบริษัทจึงสามารถยกเลิกสัญญากลางคันได้ เท่ากับบริษัทเอาได้ผลประโยชน์เข้าตัวเอง
ในความคิดผม ตราบเท่าที่บริษัทยังเก็บเบี้ยประกันได้จากลูกค้าของผม ก็เท่ากับว่า ผมก็ยังควรที่จะได้ค่าคอมมิชชั่นเหล่านั้น เพราะผมก็ยังดูแลการจ่ายเงิน และดูแลลูกค้าอยู่ (แม้ว่าจะไม่ได้เป็นตัวแทนแล้ว ก็ยังสามารถส่งเอกสารเข้าสำนักงานให้เพื่อนทำต่อได้)
อยากทราบกรณีแบบนี้ครับว่า ถ้าโดนยกเลิก แล้วไปฟ้องศาลว่ามันไม่เป็นธรรมได้ไหมครับ ใครทำงานด้านนี้ หรือ คปภ. รบกวนหน่อยครับ ถ้าฟ้องได้ ผมจะฟ้องให้เป็นเคสตัวอย่างไปเลย จริงอยู่มันอาจจะมีเรื่องเลิกจ้างแบบนี้อยู่ในสัญญาที่ผมเซ็นต์ไปแล้ว แต่ถ้าสัญญามันไม่เป็นธรรมละ เราทำอะไรไม่ได้เลยหรือครับ กับระบบแบบนี้
ไม่อยากเห็นตัวแทน โดนเอารัดเอาเปรียบ และโดนบังคับให้หาลูกค้าไปเรื่อยๆแบบนี้ครับ
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมโทรมากันจังพวกขายประกันนี่