มองปรากฏการณ์ "บิ๊กตู่" ขาแข็ง ผ่านวงแขนแกว่ง และตัวเลขงบทหารเพิ่ม
วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13:13:13 น.
รายงานพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์
กระแสข่าวถูกเด้งที่ถูกกระพือโหมมาตลอดเดือนเต็มๆ ส่งผลให้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เสียความมั่นใจในตัวเองไปไม่น้อย
เพราะแม้จะรู้ว่า การถูกเด้ง หรือ ถูกปลด ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ อย่างที่ร่ำลือกัน แต่เขาก็หวั่นไหวกับฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายทหารที่จะมาถึงในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ไม่น้อย ว่าจะถูกขยับขึ้นเป็น ผบ.สส. หรือขึ้นไปเป็นปลัดกลาโหม หรือไม่
แต่จากการ "เช็กข่าว" ในทางส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ เอง ก็ทำให้เขามั่นใจว่า เขาจะเป็น ผบ.ทบ. ต่อเป็นปีที่ 4 จนเกษียณกันยายน 2557
ไม่ใช่แค่เพราะดินเนอร์มื้อพิเศษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ผบ.เหล่าทัพ ครั้งล่าสุด ที่ร่ำลือกันว่า มีสัญญาใจไม่ปฏิวัติ กับการไม่โยกย้าย ผบ.ทบ. เกิดขึ้นเท่านั้น
แต่สัญญาณจากแดนไกล ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีช่องทางในการสื่อสารตรวจสอบ ก็ยังไม่สั่งการให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
รวมทั้งสัญญาณจากกลาโหม จาก บิ๊กโอ๋ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความเคารพรักและดูแลให้ทุกเรื่อง และไม่เคยขัดใจนั้น ก็ทำให้เขามั่นใจว่า เก้าอี้ ผบ.ทบ. ของเขาจะมั่นคง
จึงไม่แปลกที่ท่าเดินที่แสนองอาจ ด้วยการแกว่งแขนในรัศมีที่กว้าง ห่างจากลำตัวเยอะ แบบที่เรียกว่า เดินแบบนักเลง อาดๆๆ ด้วยความมั่นใจในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาให้เห็นตามเดิม หลังจากที่ส่งเสียงคำราม ด้วยการแสดงอารมณ์หงุดหงิดกับข่าวถูกโยกย้ายมาหลายครั้ง จนฝ่ายการเมืองต้องแจ้นออกมาปฏิเสธข่าว
นั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาเรียกนายทหารระดับคุมกำลัง ทั้งผู้บังคับการกรม และผู้บังคับกองพัน ทั่วประเทศ มาร่วมประชุมในเวทีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง ทบ. (ผบ.นขต.ทบ.) ประจำเดือน เมื่อ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่า ได้ทำความเข้าใจเรื่องข่าวการโยกย้าย ผบ.ทบ. ของตนเองให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับทราบด้วย
"ผมได้บอกกับผู้บังคับหน่วยว่าถ้าตราบใดที่ผมยังอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ก็จะทำงานแบบนี้ หากผมไม่อยู่ก็จะมีคนมาทำหน้าที่ ดังนั้น ผมต้องพร้อม ไม่ใช่พอผมพูดก็หาว่าผมพร้อมย้าย แต่ทหารทุกคนพร้อมย้ายตั้งแต่เรียนจบแล้ว" บิ๊กตู่ กล่าว
"แต่อย่าบอกว่าจะมาปลดผม คงไม่ได้ เพราะผมไม่มีความผิด แต่หากมีการปรับย้ายก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหาร แต่ก็ต้องได้ตำแหน่งสูงขึ้น เพราะไม่ได้มีความผิดอะไร" บิ๊กตู่ สำทับ
แต่ข้อสังเกตของ ผบ.หน่วย แล้วเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ผ่อนคลาย และมีความมั่นใจที่จะเป็น ผบ.ทบ. ต่อไป เพราะมีการสั่งงานต่างๆ มากมาย ตามประสา "ผบ.ทบ. 100 เรื่อง" แต่ก็มีการติดตามผลด้วยการตั้งทีมงานไปตรวจงานต่างๆ แยกตามสายงาน โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
แต่ก็ยังทิ้งปริศนา เป็นทางออกกันหน้าแตกไว้นิดหนึ่ง อย่างอารมณ์ดี ว่า "นโยบายของปีหน้า ผมค่อยบอกอีกที ถ้าได้อยู่ต่อ บอกตอนนี้จะไม่ตื่นเต้น"
อีกทั้งวงในบิ๊กๆ ในกองทัพ ไม่ว่าจะเป็น ทบ. บก.กองทัพไทย หรือกลาโหม ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "บิ๊กตู่ ขาแข็ง" อันหมายถึง เก้าอี้ ผบ.ทบ. ของเขามั่นคง ไม่มีใครมาเลื่อยหรือแซะได้ นั่นเอง
จึงไม่แปลกอีกเช่นกันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้เวทีพบปะ ผบ.หน่วยคุมกำลัง ครั้งนั้น สยบข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร ที่เกิดขึ้นมาตลอด และโดยเฉพาะเมื่อมีข่าว เด้ง ผบ.ทบ.
ยิ่งเมื่อเขามีกำหนดเดินทางไปเยือน ทบ.สหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ 1-10 มิถุนายน โดยให้ บิ๊กหนุ่ย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. เพื่อนรัก ตท.12 ของเขารักษาการแทน ท่ามกลางกระแสข่าวว่า อาจมีการกระทำ "นอก(คำ)สั่ง"
"อย่าลือ ไม่มีอะไร ผมให้ รอง ผบ.ทบ. รักษาการแทน แล้วยังมีอีก 4 เสือ ทบ. ช่วยดูแล แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมก็สามารถบินกลับมาได้ทันที" บิ๊กตู่ ออกตัว
"นอกคำสั่งทำไม่ได้ กองทัพบกก็คือกองทัพบก คนสั่งได้มากที่สุดคือ ผบ.ทบ. ผมถามว่าใครจะกล้าทำ และคนอื่นสั่งได้หรือเปล่า เพราะกองทัพบกต้องสั่งจากยอดลงมา ทำนอกระบบไม่ได้ ถ้าทำนอกระบบจะผิดระเบียบและกติกาชัดเจน ดังนั้น การเมืองก็ต้องแก้ไขกันไป ส่วนทหารก็ทำหน้าที่ในการดูแลประชาชน" บิ๊กตู่ คำราม
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และอารมณ์ที่เบิกบาน จึงกลับมาเยี่ยมเยือน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตามเดิม หลังจากที่เคยเอ็ดสื่อ "ให้หยุดถามหยุดเขียน เรื่องย้ายผมได้แล้ว ไร้สาระ" มาแล้ว
ผลจากท่าทีขึงขัง และเสียงคำราม และข่าวลือรัฐประหาร นี้ด้วยกระมังที่ส่งผลให้งบประมาณกลาโหม ปี 2557 เพิ่มสูงขึ้น
จากงบประมาณปี 2556 ที่เคยได้ 1.804 แสนล้านบาท ในปี 2557 ก็เพิ่มเป็น 1.847 แสนล้านบาท ได้มากขึ้นกว่า 4.2 พันล้านบาท
งานนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ยิ้มได้ เพราะการมาเป็นเจ้ากระทรวงปืนใหญ่เป็นปีที่ 2 สามารถต่อรองงบประมาณมาให้เหล่าทัพได้มากขึ้น โดยสำนักปลัดกลาโหม ได้ 6.14 พันล้านบาท กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ของ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ได้ 1.51 หมื่นล้านบาท
แน่นอนว่า ทบ. เป็นเหล่าทัพใหญ่ที่สุด มีพลังอำนาจแฝงทางการเมืองมากที่สุดก็ได้งบฯ มากที่สุดคือกว่า 9.15 หมื่นล้านบาท มากกว่างบฯ ปีที่แล้ว กว่า 3 พันล้านบาท กองทัพเรือได้ 3.62 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน ราว 1.14 พันล้านบาท กองทัพอากาศ ได้ 3.36 หมื่นล้านบาท
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า 60% ของงบประมาณ แต่ละเหล่าทัพนั้น เป็นงบฯ ทรงชีพ คือ เบี้ยเลี้ยง เงินเดือนทหาร ส่วนที่เหลือเป็นงบฯ บริหารที่จะเป็นงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง และงบประมาณผูกพันข้ามปี จากการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นงบฯ ไว้ซื้ออาวุธทั้งหมด
ในภาพรวมถือว่า กองทัพพอใจกับงบประมาณที่ได้รับ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกตัวว่า ได้เพิ่มมาไม่ถึง 3% หรือราว 3 พันล้านบาทเศษ ก็ตาม แม้จะไม่มาก แต่ก็พอใจ เพราะรู้ว่าประชาชนยังเดือดร้อนอีกมาก
แต่ก็ออกตัวว่า ปีที่แล้ว เรามีงบประมาณไม่เพียงพอ ขาดทั้งทางด้านบุคลากร งบฯ ค่าตอบแทนกำลังพล ขณะนี้เงินเดือนขั้นปริญญาตรีได้เพิ่มขึ้นเป็น 15,000 บาท และยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่นๆ รวมทั้งงบประมาณการป้องกันดูแลประเทศ ซึ่งกองทัพก็ต้องแก้ปัญหาของตัวเอง
"รัฐบาลรับปากว่า จะเพิ่มให้ตอนงบฯ กลางปี หรือปลายปี อีกทีหนึ่ง ซึ่งเราก็เตรียมข้อมูลไว้ให้พร้อม" บิ๊กตู่ เผย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในมื้อดินเนอร์กาวใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ ผบ.เหล่าทัพ ที่พลาซ่าแอธทินี่ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เอ่ยปากขอให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณให้ กอ.รมน. เพราะไม่ได้ดูแลแค่ 3 จังหวัดภาคใต้ แต่ดูแลความมั่นคงทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ
ตัวเลขงบประมาณทางทหารที่สูงขึ้น กำลังถูกมองว่า จะเป็นดัชนีผกผันกับการปฏิวัติรัฐประหาร ที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลง เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก็แจกจ่ายงบประมาณให้ทหารตามต้องการ แบบที่เรียกว่า เอาใจกองทัพ ก็ย่อมได้
แต่ก็ถือเป็นผลงาน และบารมีของ พล.อ.อ.สุกำพล รมว.กลาโหม ที่ทำให้ ผบ.เหล่าทัพ พอใจกับตัวเลขงบประมาณที่มากขึ้น แถมทั้ง ยังไฟเขียวให้จัดซื้อตามความต้องการของเหล่าทัพ แบบง่ายๆ เพราะคุยแบบพี่น้อง.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370574021&grpid=&catid=01&subcatid=0100
มองปรากฏการณ์"บิ๊กตู่"ขาแข็ง ผ่านวงแขนแกว่ง และตัวเลขงบทหารเพิ่ม "คนสั่งได้มากที่สุดคือ ผบ.ทบ. ผมถามว่าใครจะกล้าทำ..."
วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13:13:13 น.
รายงานพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์
กระแสข่าวถูกเด้งที่ถูกกระพือโหมมาตลอดเดือนเต็มๆ ส่งผลให้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เสียความมั่นใจในตัวเองไปไม่น้อย
เพราะแม้จะรู้ว่า การถูกเด้ง หรือ ถูกปลด ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ อย่างที่ร่ำลือกัน แต่เขาก็หวั่นไหวกับฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายทหารที่จะมาถึงในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ไม่น้อย ว่าจะถูกขยับขึ้นเป็น ผบ.สส. หรือขึ้นไปเป็นปลัดกลาโหม หรือไม่
แต่จากการ "เช็กข่าว" ในทางส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ เอง ก็ทำให้เขามั่นใจว่า เขาจะเป็น ผบ.ทบ. ต่อเป็นปีที่ 4 จนเกษียณกันยายน 2557
ไม่ใช่แค่เพราะดินเนอร์มื้อพิเศษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ผบ.เหล่าทัพ ครั้งล่าสุด ที่ร่ำลือกันว่า มีสัญญาใจไม่ปฏิวัติ กับการไม่โยกย้าย ผบ.ทบ. เกิดขึ้นเท่านั้น
แต่สัญญาณจากแดนไกล ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีช่องทางในการสื่อสารตรวจสอบ ก็ยังไม่สั่งการให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
รวมทั้งสัญญาณจากกลาโหม จาก บิ๊กโอ๋ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความเคารพรักและดูแลให้ทุกเรื่อง และไม่เคยขัดใจนั้น ก็ทำให้เขามั่นใจว่า เก้าอี้ ผบ.ทบ. ของเขาจะมั่นคง
จึงไม่แปลกที่ท่าเดินที่แสนองอาจ ด้วยการแกว่งแขนในรัศมีที่กว้าง ห่างจากลำตัวเยอะ แบบที่เรียกว่า เดินแบบนักเลง อาดๆๆ ด้วยความมั่นใจในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาให้เห็นตามเดิม หลังจากที่ส่งเสียงคำราม ด้วยการแสดงอารมณ์หงุดหงิดกับข่าวถูกโยกย้ายมาหลายครั้ง จนฝ่ายการเมืองต้องแจ้นออกมาปฏิเสธข่าว
นั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาเรียกนายทหารระดับคุมกำลัง ทั้งผู้บังคับการกรม และผู้บังคับกองพัน ทั่วประเทศ มาร่วมประชุมในเวทีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง ทบ. (ผบ.นขต.ทบ.) ประจำเดือน เมื่อ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่า ได้ทำความเข้าใจเรื่องข่าวการโยกย้าย ผบ.ทบ. ของตนเองให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับทราบด้วย
"ผมได้บอกกับผู้บังคับหน่วยว่าถ้าตราบใดที่ผมยังอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ก็จะทำงานแบบนี้ หากผมไม่อยู่ก็จะมีคนมาทำหน้าที่ ดังนั้น ผมต้องพร้อม ไม่ใช่พอผมพูดก็หาว่าผมพร้อมย้าย แต่ทหารทุกคนพร้อมย้ายตั้งแต่เรียนจบแล้ว" บิ๊กตู่ กล่าว
"แต่อย่าบอกว่าจะมาปลดผม คงไม่ได้ เพราะผมไม่มีความผิด แต่หากมีการปรับย้ายก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหาร แต่ก็ต้องได้ตำแหน่งสูงขึ้น เพราะไม่ได้มีความผิดอะไร" บิ๊กตู่ สำทับ
แต่ข้อสังเกตของ ผบ.หน่วย แล้วเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ผ่อนคลาย และมีความมั่นใจที่จะเป็น ผบ.ทบ. ต่อไป เพราะมีการสั่งงานต่างๆ มากมาย ตามประสา "ผบ.ทบ. 100 เรื่อง" แต่ก็มีการติดตามผลด้วยการตั้งทีมงานไปตรวจงานต่างๆ แยกตามสายงาน โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
แต่ก็ยังทิ้งปริศนา เป็นทางออกกันหน้าแตกไว้นิดหนึ่ง อย่างอารมณ์ดี ว่า "นโยบายของปีหน้า ผมค่อยบอกอีกที ถ้าได้อยู่ต่อ บอกตอนนี้จะไม่ตื่นเต้น"
อีกทั้งวงในบิ๊กๆ ในกองทัพ ไม่ว่าจะเป็น ทบ. บก.กองทัพไทย หรือกลาโหม ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "บิ๊กตู่ ขาแข็ง" อันหมายถึง เก้าอี้ ผบ.ทบ. ของเขามั่นคง ไม่มีใครมาเลื่อยหรือแซะได้ นั่นเอง
จึงไม่แปลกอีกเช่นกันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้เวทีพบปะ ผบ.หน่วยคุมกำลัง ครั้งนั้น สยบข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร ที่เกิดขึ้นมาตลอด และโดยเฉพาะเมื่อมีข่าว เด้ง ผบ.ทบ.
ยิ่งเมื่อเขามีกำหนดเดินทางไปเยือน ทบ.สหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ 1-10 มิถุนายน โดยให้ บิ๊กหนุ่ย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. เพื่อนรัก ตท.12 ของเขารักษาการแทน ท่ามกลางกระแสข่าวว่า อาจมีการกระทำ "นอก(คำ)สั่ง"
"อย่าลือ ไม่มีอะไร ผมให้ รอง ผบ.ทบ. รักษาการแทน แล้วยังมีอีก 4 เสือ ทบ. ช่วยดูแล แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมก็สามารถบินกลับมาได้ทันที" บิ๊กตู่ ออกตัว
"นอกคำสั่งทำไม่ได้ กองทัพบกก็คือกองทัพบก คนสั่งได้มากที่สุดคือ ผบ.ทบ. ผมถามว่าใครจะกล้าทำ และคนอื่นสั่งได้หรือเปล่า เพราะกองทัพบกต้องสั่งจากยอดลงมา ทำนอกระบบไม่ได้ ถ้าทำนอกระบบจะผิดระเบียบและกติกาชัดเจน ดังนั้น การเมืองก็ต้องแก้ไขกันไป ส่วนทหารก็ทำหน้าที่ในการดูแลประชาชน" บิ๊กตู่ คำราม
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และอารมณ์ที่เบิกบาน จึงกลับมาเยี่ยมเยือน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตามเดิม หลังจากที่เคยเอ็ดสื่อ "ให้หยุดถามหยุดเขียน เรื่องย้ายผมได้แล้ว ไร้สาระ" มาแล้ว
ผลจากท่าทีขึงขัง และเสียงคำราม และข่าวลือรัฐประหาร นี้ด้วยกระมังที่ส่งผลให้งบประมาณกลาโหม ปี 2557 เพิ่มสูงขึ้น
จากงบประมาณปี 2556 ที่เคยได้ 1.804 แสนล้านบาท ในปี 2557 ก็เพิ่มเป็น 1.847 แสนล้านบาท ได้มากขึ้นกว่า 4.2 พันล้านบาท
งานนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ยิ้มได้ เพราะการมาเป็นเจ้ากระทรวงปืนใหญ่เป็นปีที่ 2 สามารถต่อรองงบประมาณมาให้เหล่าทัพได้มากขึ้น โดยสำนักปลัดกลาโหม ได้ 6.14 พันล้านบาท กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ของ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ได้ 1.51 หมื่นล้านบาท
แน่นอนว่า ทบ. เป็นเหล่าทัพใหญ่ที่สุด มีพลังอำนาจแฝงทางการเมืองมากที่สุดก็ได้งบฯ มากที่สุดคือกว่า 9.15 หมื่นล้านบาท มากกว่างบฯ ปีที่แล้ว กว่า 3 พันล้านบาท กองทัพเรือได้ 3.62 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน ราว 1.14 พันล้านบาท กองทัพอากาศ ได้ 3.36 หมื่นล้านบาท
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า 60% ของงบประมาณ แต่ละเหล่าทัพนั้น เป็นงบฯ ทรงชีพ คือ เบี้ยเลี้ยง เงินเดือนทหาร ส่วนที่เหลือเป็นงบฯ บริหารที่จะเป็นงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง และงบประมาณผูกพันข้ามปี จากการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นงบฯ ไว้ซื้ออาวุธทั้งหมด
ในภาพรวมถือว่า กองทัพพอใจกับงบประมาณที่ได้รับ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกตัวว่า ได้เพิ่มมาไม่ถึง 3% หรือราว 3 พันล้านบาทเศษ ก็ตาม แม้จะไม่มาก แต่ก็พอใจ เพราะรู้ว่าประชาชนยังเดือดร้อนอีกมาก
แต่ก็ออกตัวว่า ปีที่แล้ว เรามีงบประมาณไม่เพียงพอ ขาดทั้งทางด้านบุคลากร งบฯ ค่าตอบแทนกำลังพล ขณะนี้เงินเดือนขั้นปริญญาตรีได้เพิ่มขึ้นเป็น 15,000 บาท และยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่นๆ รวมทั้งงบประมาณการป้องกันดูแลประเทศ ซึ่งกองทัพก็ต้องแก้ปัญหาของตัวเอง
"รัฐบาลรับปากว่า จะเพิ่มให้ตอนงบฯ กลางปี หรือปลายปี อีกทีหนึ่ง ซึ่งเราก็เตรียมข้อมูลไว้ให้พร้อม" บิ๊กตู่ เผย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในมื้อดินเนอร์กาวใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ ผบ.เหล่าทัพ ที่พลาซ่าแอธทินี่ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เอ่ยปากขอให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณให้ กอ.รมน. เพราะไม่ได้ดูแลแค่ 3 จังหวัดภาคใต้ แต่ดูแลความมั่นคงทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ
ตัวเลขงบประมาณทางทหารที่สูงขึ้น กำลังถูกมองว่า จะเป็นดัชนีผกผันกับการปฏิวัติรัฐประหาร ที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลง เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก็แจกจ่ายงบประมาณให้ทหารตามต้องการ แบบที่เรียกว่า เอาใจกองทัพ ก็ย่อมได้
แต่ก็ถือเป็นผลงาน และบารมีของ พล.อ.อ.สุกำพล รมว.กลาโหม ที่ทำให้ ผบ.เหล่าทัพ พอใจกับตัวเลขงบประมาณที่มากขึ้น แถมทั้ง ยังไฟเขียวให้จัดซื้อตามความต้องการของเหล่าทัพ แบบง่ายๆ เพราะคุยแบบพี่น้อง.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370574021&grpid=&catid=01&subcatid=0100