นับถอยหลังอีก 17 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเกษียณอายุ
ราชการจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.
แถมหนีบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สูงสุด, พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.
และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. เกษียณยกแผงไปพร้อมกัน
อ้อ...ยังมีปลัดกระทรวงกลาโหมอีก 1 คน ที่อายุครบแซยิดพอดี
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า การที่ 5 ผู้นำสูงสุดของมหาอำนาจกองทัพไทย
ต้องปลดระวางพร้อมกัน
ทำให้การโยกย้ายแต่งตั้งนายทหารปีนี้ถูกจับตามากกว่าทุกปี
เพราะยุคนี้เป็นยุคทหารควบการเมือง การจัดแถววางคิวผู้ที่จะสืบทอดอำนาจ
กองทัพจากรุ่นสู่รุ่นในระยะยาวก็ทำได้อย่างสะดวกโยธิน
โดยไม่มีฝ่ายการเมืองแหยมเข้าไปแทรกเป็นยาดำ
“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตไม่วิจารณ์โผการแต่งตั้งโยกย้ายทหารขบวนล่าสุดว่า
เหมาะสมหรือไม่อย่างไร
เพราะคนที่จะพ้นตำแหน่งไป ก็ต้องเลือกคนที่ไว้วางใจที่สุด
ชัวร์ที่สุดขึ้นมาเสียบแทน
เพื่อรับประกันความมั่นใจว่าแผงผู้นำเหล่าทัพรุ่นใหม่จะเป็นกำแพงเหล็ก
ค้ำยัน “รัฐบาลบิ๊กตู่” ให้แข็งโป๊กยิ่งกว่าโบกปูนซีเมนต์
อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” มีข้อสังเกตว่า โผโยกย้ายแต่งตั้ง
นายทหารปีนี้มากมโหฬารถึง 1,092 นาย
มีการปูนยศ “พันเอก” ขึ้นเป็น “พลตรีใหม่” รวดเดียวเกือบ 500 คน
โอ้แม่เจ้า...กองทัพไทย “นายพล” เยอะจริงๆ
“แม่ลูกจันทร์” พยายามตรวจสอบข้อมูลอัตรา“นายพล” ที่รับราชการอยู่
ใน 5 สาขาใหญ่ของกองทัพไทย 1, กลาโหม 2,บก.สูงสุด 3,กองทัพบก 4,
กองทัพอากาศ 5,กองทัพเรือ
ค้นจนเมื่อยก็ยังไม่พบข้อมูลที่ชัดเจน (สงสัยเป็นความลับของทางราชการ)
อนึ่ง การที่กองทัพไทย มี “นายพล” มากเป็นประวัติการณ์
ถ้ามองแง่ดี เป็นการปูนบำเหน็จให้เป็นขวัญกำลังใจ
และเพื่อเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีแก่วงศ์ตระกูล
ถ้ามองแง่ดียิ่งขึ้นอีก การที่มีอัตรา นายพลมากๆ จะส่งเสริมให้บุคลากร
ในกองทัพเกิดความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียว
เพราะไม่ต้องแย่งตำแหน่งนายพลกันเอง
หรือถ้ามองแง่ดีสุดยอด การที่มีนายพลมากๆ เพื่อให้สมศักดิ์ศรีกองทัพไทย
ซึ่งมีแสนยานุภาพแข็งแกร่ง ติดอันดับ 24 จาก 106 ประเทศทั่วโลกในปัจจุบัน
ข้อมูลการจัดอันดับความเข้มแข็งของกองทัพล่าสุด ระบุกองทัพไทย
มีทหารประจำการ 3.14 แสนนาย กองทัพมีรถถัง 1,380 คัน
กองทัพอากาศมีเครื่องบินรบ 260 ลำ และกองทัพเรือมีกองเรือ 74 ลำ
และมีกำลังสำรองพร้อมลุยอีก 2 แสนคน
ถามว่า...กองทัพที่มีทหารประจำการ 3.14 แสนนาย ควรจะมีนายพลกี่คน?
ถ้าคิดสัดส่วน ทหารประจำการ 5,000 คน ต่อนายพล 1 นาย
กองทัพไทย
ควรมี นายพล ไม่เกิน 628 คน
ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า กองทัพไทย มีนายพลในราชการประมาณ
1,500 นาย เพื่อบังคับบัญชาทหาร 3.14 แสนนาย
แสดงว่ากองทัพไทยมีนายพล 1 นาย ต่อทหาร 200 นาย
นายพลของเราเยอะเกินไปหรือไม่...ฝากให้ท่านทั้งหลายช่วยพิจารณา
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าถึงแม้แสนยานุภาพกองทัพไทยจะติดอันดับ 24 ก็จริง
แต่เรายังตามหลังกองทัพอินโดนีเซีย ที่ติดอันดับ 19 และยังตามหลัง
กองทัพเวียดนาม ที่ติดอันดับ 23 เฉือนชนะไทยแค่ขนจมูกเท่านั้นเอง
สรุปถ้าวัดกันที่เขี้ยวเล็บ ไทยด้อยกว่าอินโดนีเซีย สูสีกับเวียดนาม
แต่เหนือกว่าฟิลิปปินส์ (อันดับ 37) และมาเลเซีย (อันดับ 38) ครึ่งช่วงตัว
แต่ถ้าวัดกันที่จำนวน “นายพล” กองทัพไทยชนะเลิศทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน
เพราะไม่มีประเทศไหนมี นายพลเยอะเท่าประเทศไทย.
"แม่ลูกจันทร์"
http://www.thairath.co.th/content/449669
no comment
เยอะจริงๆ ...... แม่ลูกจันทร์ ไทยรัฐออนไลน์ ...... ตามมาอ่านกัน อะไร "เยอะ" ?...
ราชการจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.
แถมหนีบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สูงสุด, พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.
และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. เกษียณยกแผงไปพร้อมกัน
อ้อ...ยังมีปลัดกระทรวงกลาโหมอีก 1 คน ที่อายุครบแซยิดพอดี
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า การที่ 5 ผู้นำสูงสุดของมหาอำนาจกองทัพไทย
ต้องปลดระวางพร้อมกัน
ทำให้การโยกย้ายแต่งตั้งนายทหารปีนี้ถูกจับตามากกว่าทุกปี
เพราะยุคนี้เป็นยุคทหารควบการเมือง การจัดแถววางคิวผู้ที่จะสืบทอดอำนาจ
กองทัพจากรุ่นสู่รุ่นในระยะยาวก็ทำได้อย่างสะดวกโยธิน
โดยไม่มีฝ่ายการเมืองแหยมเข้าไปแทรกเป็นยาดำ
“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตไม่วิจารณ์โผการแต่งตั้งโยกย้ายทหารขบวนล่าสุดว่า
เหมาะสมหรือไม่อย่างไร
เพราะคนที่จะพ้นตำแหน่งไป ก็ต้องเลือกคนที่ไว้วางใจที่สุด
ชัวร์ที่สุดขึ้นมาเสียบแทน
เพื่อรับประกันความมั่นใจว่าแผงผู้นำเหล่าทัพรุ่นใหม่จะเป็นกำแพงเหล็ก
ค้ำยัน “รัฐบาลบิ๊กตู่” ให้แข็งโป๊กยิ่งกว่าโบกปูนซีเมนต์
อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” มีข้อสังเกตว่า โผโยกย้ายแต่งตั้ง
นายทหารปีนี้มากมโหฬารถึง 1,092 นาย
มีการปูนยศ “พันเอก” ขึ้นเป็น “พลตรีใหม่” รวดเดียวเกือบ 500 คน
โอ้แม่เจ้า...กองทัพไทย “นายพล” เยอะจริงๆ
“แม่ลูกจันทร์” พยายามตรวจสอบข้อมูลอัตรา“นายพล” ที่รับราชการอยู่
ใน 5 สาขาใหญ่ของกองทัพไทย 1, กลาโหม 2,บก.สูงสุด 3,กองทัพบก 4,
กองทัพอากาศ 5,กองทัพเรือ
ค้นจนเมื่อยก็ยังไม่พบข้อมูลที่ชัดเจน (สงสัยเป็นความลับของทางราชการ)
อนึ่ง การที่กองทัพไทย มี “นายพล” มากเป็นประวัติการณ์
ถ้ามองแง่ดี เป็นการปูนบำเหน็จให้เป็นขวัญกำลังใจ
และเพื่อเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีแก่วงศ์ตระกูล
ถ้ามองแง่ดียิ่งขึ้นอีก การที่มีอัตรา นายพลมากๆ จะส่งเสริมให้บุคลากร
ในกองทัพเกิดความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียว
เพราะไม่ต้องแย่งตำแหน่งนายพลกันเอง
หรือถ้ามองแง่ดีสุดยอด การที่มีนายพลมากๆ เพื่อให้สมศักดิ์ศรีกองทัพไทย
ซึ่งมีแสนยานุภาพแข็งแกร่ง ติดอันดับ 24 จาก 106 ประเทศทั่วโลกในปัจจุบัน
ข้อมูลการจัดอันดับความเข้มแข็งของกองทัพล่าสุด ระบุกองทัพไทย
มีทหารประจำการ 3.14 แสนนาย กองทัพมีรถถัง 1,380 คัน
กองทัพอากาศมีเครื่องบินรบ 260 ลำ และกองทัพเรือมีกองเรือ 74 ลำ
และมีกำลังสำรองพร้อมลุยอีก 2 แสนคน
ถามว่า...กองทัพที่มีทหารประจำการ 3.14 แสนนาย ควรจะมีนายพลกี่คน?
ถ้าคิดสัดส่วน ทหารประจำการ 5,000 คน ต่อนายพล 1 นาย กองทัพไทย
ควรมี นายพล ไม่เกิน 628 คน
ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า กองทัพไทย มีนายพลในราชการประมาณ
1,500 นาย เพื่อบังคับบัญชาทหาร 3.14 แสนนาย
แสดงว่ากองทัพไทยมีนายพล 1 นาย ต่อทหาร 200 นาย
นายพลของเราเยอะเกินไปหรือไม่...ฝากให้ท่านทั้งหลายช่วยพิจารณา
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าถึงแม้แสนยานุภาพกองทัพไทยจะติดอันดับ 24 ก็จริง
แต่เรายังตามหลังกองทัพอินโดนีเซีย ที่ติดอันดับ 19 และยังตามหลัง
กองทัพเวียดนาม ที่ติดอันดับ 23 เฉือนชนะไทยแค่ขนจมูกเท่านั้นเอง
สรุปถ้าวัดกันที่เขี้ยวเล็บ ไทยด้อยกว่าอินโดนีเซีย สูสีกับเวียดนาม
แต่เหนือกว่าฟิลิปปินส์ (อันดับ 37) และมาเลเซีย (อันดับ 38) ครึ่งช่วงตัว
แต่ถ้าวัดกันที่จำนวน “นายพล” กองทัพไทยชนะเลิศทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน
เพราะไม่มีประเทศไหนมี นายพลเยอะเท่าประเทศไทย.
"แม่ลูกจันทร์"
http://www.thairath.co.th/content/449669
no comment