สวัสดีคะ พี่ๆ เพื่อนทุกคน เรื่องที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังคราวนี้เป็นเรืองจริง ที่เกิดขึ้นเองกับ จขกท. และเพื่อนๆ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง และเด็กหญิงเด็กชายทุกคนนะค่ะ
เรื่องนี้เป็นประสบการ์ณเลวร้ายครั้งนึงในชีวิต จขกท. ขณะนั้นเราอยู่ ป.3 อายุ 9 ปี
วันนั้นเป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้าย เราเดินทางจากโรงเรียนกลับบ้านลำพังตั้งแต่ ป.1 เลยไม่รู้สึกหวาดกลัวอะไร
บ้านเราไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก ขึ้นรถบ๊อกๆ ผ่านประมาณ 4-5 ป้ายรถเมล์ และต้องเดินเข้าซอยระยะทางประมาณ 800 เมตร
มีสองซอยที่สามารถเดินเข้าได้ วันนั้นเราเลือกเดินเข้าซอยที่เปลี่ยวกว่านิดหน่อย แต่มีบ้านเรือนอยู่สองข้างทางตลอด
เพราะอีกซอยนึงมีรถเยอะ
เวลาประมาณ บ่าย 3 โมง สว่างจ้าและแดดเปรี้ยงๆ
เราเดินเข้าซอยไป ซอยเป็นทางตรง เดินมาเรื่อยๆ ถึงครึ่่งทาง มีผู้ชายมาดักข้างหน้าและถามเราว่า
"ทางออกไปทางไหนครับ" เป็นผู้ชายสูงประมาณ 170 กว่าๆ แต่งตัวปกติ ผิวคล้ำนิดหน่อย อายุราวๆ 30+
เราเลยตอบไปว่า
"ออกไปไหนค่ะ ข้างหลังก็ถนนใหญ่แล้ว" ด้วยความคิดว่าเขาอาจจะออกไปทางอื่น มีทางออกเลียบคลองอีกทางหนึ่ง
เขาตอบว่า "ออกไป......." ลากเสียงยาวๆ และมองมาที่เป้าของเรา เราไม่รู้ว่าเขามาประชิดตัวตั้งแต่เมื่อไหร่
สิ่งที่เราเห็นคือ มีก้อนเนื้ออะไรซักอย่างถูกอยู่ตรงแฟ้มเรา [เราเอาแฟ้มไว้ข้างหน้า]
เราก็งงๆ มันกระดำกระด่าง คิดว่าเป็นนิ้ว สงสัยเป็นโรคนิ้วบวม งงมากว่าจะเอานิ้วมาถูแฟ้มทำไม
เมื่อเขาไม่ตอบ เราเองก็เริ่มกลัว เลยเดินหลบไป จะเดินหนี แต่เขามาขว้างไว้
พร้อมเอามือสอดมาใต้กระโปรงนักเรียน และบีบอวัยวะเพศเรา 3-4 ครั้ง
จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง และเดินหนีไป
กลับบ้านมาเราเศร้ามาก รุ้สึกไม่ดี ขนาดพี่เช่านารูโตะมาดูยังไม่สนุกเลย กินข้าวก็ไม่ลง
เหมือนเราทำผิด ตอนนั้นเด็กมาก ผู้ใหญ่เขาสอนไว้ว่าเราต้องดูแลจิ๊มิ๊ดีๆ ห้ามให้ใครเห็น ห้ามให้ใครมาจับเด็ดขาด
โดยเฉพาะผู้ชาย แต่เราก็ทำไม่ได้ และเรายังไม่เชื่อฟัง ยายสอนประจำว่าอย่าคุยกับคนแปลกหน้า
ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ เราแค่อยากช่วย ทั้งช็อกทั้งเสียใจ
เราเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวตลอด ไม่ได้บอกใครเพราะกลัว กลัวผู้ชายคนนั้นจะกลับมาทำอะไรอีก
หลังจากนั้นเราไม่เดินซอยที่เจอเขาอีกเลย กลัวจนระแวง ลงรถปุ๊บ
ก็วิ่งเข้าซอยเลย วิ่งอย่างเดียวไม่หยุด และแอบมองซอยเปลี่ยวนั่นตลอด มันบรรจบกัน กลัวมากๆ
มาคิดดีๆ แล้ว เราเพิ่งมารู้ความจริงเมื่อตอนอยุ่ ม.1 ว่านั้นไม่น่าใช่นิ้วของเขา แต่เป็นอวัยวะเพศ
อีกเหตุการ์ณนึงไม่เกี่ยวกับการล่วงละเมิด แต่ก็เป็นเรื่องที่อันตราย
ช่วงประถมเหมือนกัน เราไปซื้อของที่ห้างกับแม่ แม่ดูเสื้อนานมาก เลยขอเดินไปดูอย่างอื่นไม่ไกลกันนัก
ขณะที่กำลังเม่อๆ มีผู้ชายวัยกลางคน ผิวขาว แต่งตัวสะอาดเรียบร้อย มาดึงแขนเรา
ถามว่า เราดูอะไรอยู่ ไปกับเขาดีกว่า และลากเราลงลิทฟ์ เราก็ขืนเลย บอกมากับแม่ แม่อยู่ข้างหลัง
เขารีบปล่อยแขนเราและลงลิทฟ์อย่างรวดเร็ว
เราคิดมาตลอดว่าตัวเองโชคร้าย ถึงได้เจอเรื่องพวกนี้
วันนึงเราอยากเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เผื่อเขาจะปลอบเราได้บ้าง
ตอนนั้นอยู่ ม.1 เรียนหญิงล้วนค่ะ เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง และตกใจเหมือนกันที่เพื่อนบอกเราว่า เขาเองก็เคยโดน
และเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากๆด้วย
จากคำบอกเล่าของเพื่อน ตอนนั้นเขาประมาณ ป.2 วันนั้น อะไรซักอย่างที่บ้านเขาพัง และมีช่างมาซ่อมที่บ้าน
เขานั่งเล่นอยุ่อีกห้องนึง ไม่แน่ใจว่าพ่อแม่ไปไหน มีช่างคนนึงเดินเข้ามาในห้อง
มาเปิดกระโปรงเขาขึ้น และบอกว่า "ขอจับได้มั้ย" เพื่อนกลัวมากไม่กล้าพูดอะไร
ช่างคนนั้นล้วงไปในกางเกงในและลูบคลำซักพัก จากนั้นก็ยิ้มและเดินออกไป
เหตุการ์ณที่สองของเพื่อน เกิดตอนเพื่อนอยู่ ป.6 เพื่อนเริ่มเป็นสาวแล้ว เขามีประจำเดือนนานแล้ว
เป็นเรื่องที่กระทบจิตใจเพื่อนอย่างมาก เพราะเหตุการ์ณนี้เกิดขึ้นจากน้าชายของเขา
แม้น้าชายจะตั้งใจรึไม่ตั้งใจก็เถอะ คืนนั้น เขาไปนอนกับน้าชายเนื่องจากคิดถึง น้าชายเขานานๆจะกลับบ้านที
แฟนของน้านอนด้านขวา น้านอนตรงกลาง เขานอนด้านซ้าย
ตกดึกน้าชายล้วงเขาไปในกางเกงในเขา พร้อมกับพูดอะไรซักอย่างแต่เขาจำไม่ได้
น้าชายลูบคลำอยู่นานมาก นานจนเพื่อนอยากจะร้องไห้ แต่ไม่กล้าพูด กลัวจะโดนว่า
จากนั้น เพื่อนแทบไม่คุยอะไรกับน้าชายเลยถ้าไม่จำเป็น
เพื่อนบอกว่าเขาไม่แน่ใจ ว่าน้าชายตั้งใจจะจับของเขารึเปล่า หรืออยากจะจับของแฟนน้า อาจจะจับผิดข้างก็ได้
เราเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน ได้แต่ปลอดใจเพื่อนว่าไม่เป็นไรๆ มันผ่านมาแล้ว
พอขึ้น ม.2 เช้าวันหนึ่ง มีเพื่อนในกลุ่มวิ่งหน้าตาตื่นมาที่ห้องเรียน
บอกว่าโดนผู้ชายจับหน้าอกตอนที่เดินออกมาจากบ้าน เขากลัวมาก ตอนนั้นไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย
เราก็โอ้ ทำไม่เรื่องแบบนี้ถึงเกิดได้บ่อยจัง ทั้งเรา ทั้งเพื่อน
และในชีวิตจริง คนที่เราไม่รู้จัก ไหนจะคนที่ไม่กล้าบอกใคร เขาจะต้องรู็้สึกเสียใจแค่ไหน
ขอฝากเรื่องนี้ไว้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกคนนะคะ เด็กเป็นสิ่งมีชีวิตที่หัวใจบอบบางมาก หากเจออะไรกับกระทบจิตใจ
เขาอาจฝังใจไปจนเติบโต กลายเป็นเด็กที่เศร้าซึม ไม่ใช่คนๆทุกคนที่จะทำใจยอมรับเรื่องร้ายๆได้
เตือนภัย ผู้หญิงทุกคนด้วยนะคะ เพราะไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อยู่ในความไม่ปลอดภัย
กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะทุกคนอาจไม่โชคดี รอดผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้
แต่หากคุณเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่โชคร้ายเหล่านั้น เราขอเป็นกำลังใจให้คุณ
เดินผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปสู่วันที่สดใส ให้รู้ไว้ว่าคุณมีคุณค่าเสมอ
ถึงผู้ชายคนนั้นที่รังแกกัน ไม่ว่าคุณจะรับรู้รึไม่
ในวันนี้ หนูขอให้อภัยคุณ และหวังไม่ให้คุณไปทำอะไรใครอีก จากนี้ไปคุณจะออกไปจากความทรงจำ
เราไม่มีเรื่องโกรธแค้นต่อกันอีกแล้ว
วิธีให้อภัย ทำแล้วสบายใจนะ เพื่อตัวของเราเอง ใครจะนำไปใช้ เราขอแนะนำเลย
และสุดท้าย ฝากถึงผู้ชายมักง่าย จิตวิปริต ทุกคนบนโลกใบนี้ คุณรู้มั้ยว่า พฤติกรรมเลวทรามของคุณ
ทำให้เด็กผู้หญิงหลายๆ คน ต้องมีตราบาปในใจ เสียใจกับสิ่งที่พวกคุณทำไปตลอดชีวิตของเธอ
หากพวกคุณเป็นลูกผู้ชายจริง คงไม่ทำอะไรกับคนที่เขาไม่เต็มใจ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อใครบ้าง ไม่มากก็น้อยนะค่ะ
ยาวไปหน่อย หากมีอะไรผิดผลาดต้องขออภัยด้วย
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ^^
เตือนภัย การล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้หญิงเกิดขึ้นจริงในชีวิตหลายคน
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง และเด็กหญิงเด็กชายทุกคนนะค่ะ
เรื่องนี้เป็นประสบการ์ณเลวร้ายครั้งนึงในชีวิต จขกท. ขณะนั้นเราอยู่ ป.3 อายุ 9 ปี
วันนั้นเป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้าย เราเดินทางจากโรงเรียนกลับบ้านลำพังตั้งแต่ ป.1 เลยไม่รู้สึกหวาดกลัวอะไร
บ้านเราไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก ขึ้นรถบ๊อกๆ ผ่านประมาณ 4-5 ป้ายรถเมล์ และต้องเดินเข้าซอยระยะทางประมาณ 800 เมตร
มีสองซอยที่สามารถเดินเข้าได้ วันนั้นเราเลือกเดินเข้าซอยที่เปลี่ยวกว่านิดหน่อย แต่มีบ้านเรือนอยู่สองข้างทางตลอด
เพราะอีกซอยนึงมีรถเยอะ
เวลาประมาณ บ่าย 3 โมง สว่างจ้าและแดดเปรี้ยงๆ
เราเดินเข้าซอยไป ซอยเป็นทางตรง เดินมาเรื่อยๆ ถึงครึ่่งทาง มีผู้ชายมาดักข้างหน้าและถามเราว่า
"ทางออกไปทางไหนครับ" เป็นผู้ชายสูงประมาณ 170 กว่าๆ แต่งตัวปกติ ผิวคล้ำนิดหน่อย อายุราวๆ 30+
เราเลยตอบไปว่า
"ออกไปไหนค่ะ ข้างหลังก็ถนนใหญ่แล้ว" ด้วยความคิดว่าเขาอาจจะออกไปทางอื่น มีทางออกเลียบคลองอีกทางหนึ่ง
เขาตอบว่า "ออกไป......." ลากเสียงยาวๆ และมองมาที่เป้าของเรา เราไม่รู้ว่าเขามาประชิดตัวตั้งแต่เมื่อไหร่
สิ่งที่เราเห็นคือ มีก้อนเนื้ออะไรซักอย่างถูกอยู่ตรงแฟ้มเรา [เราเอาแฟ้มไว้ข้างหน้า]
เราก็งงๆ มันกระดำกระด่าง คิดว่าเป็นนิ้ว สงสัยเป็นโรคนิ้วบวม งงมากว่าจะเอานิ้วมาถูแฟ้มทำไม
เมื่อเขาไม่ตอบ เราเองก็เริ่มกลัว เลยเดินหลบไป จะเดินหนี แต่เขามาขว้างไว้
พร้อมเอามือสอดมาใต้กระโปรงนักเรียน และบีบอวัยวะเพศเรา 3-4 ครั้ง
จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง และเดินหนีไป
กลับบ้านมาเราเศร้ามาก รุ้สึกไม่ดี ขนาดพี่เช่านารูโตะมาดูยังไม่สนุกเลย กินข้าวก็ไม่ลง
เหมือนเราทำผิด ตอนนั้นเด็กมาก ผู้ใหญ่เขาสอนไว้ว่าเราต้องดูแลจิ๊มิ๊ดีๆ ห้ามให้ใครเห็น ห้ามให้ใครมาจับเด็ดขาด
โดยเฉพาะผู้ชาย แต่เราก็ทำไม่ได้ และเรายังไม่เชื่อฟัง ยายสอนประจำว่าอย่าคุยกับคนแปลกหน้า
ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ เราแค่อยากช่วย ทั้งช็อกทั้งเสียใจ
เราเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวตลอด ไม่ได้บอกใครเพราะกลัว กลัวผู้ชายคนนั้นจะกลับมาทำอะไรอีก
หลังจากนั้นเราไม่เดินซอยที่เจอเขาอีกเลย กลัวจนระแวง ลงรถปุ๊บ
ก็วิ่งเข้าซอยเลย วิ่งอย่างเดียวไม่หยุด และแอบมองซอยเปลี่ยวนั่นตลอด มันบรรจบกัน กลัวมากๆ
มาคิดดีๆ แล้ว เราเพิ่งมารู้ความจริงเมื่อตอนอยุ่ ม.1 ว่านั้นไม่น่าใช่นิ้วของเขา แต่เป็นอวัยวะเพศ
อีกเหตุการ์ณนึงไม่เกี่ยวกับการล่วงละเมิด แต่ก็เป็นเรื่องที่อันตราย
ช่วงประถมเหมือนกัน เราไปซื้อของที่ห้างกับแม่ แม่ดูเสื้อนานมาก เลยขอเดินไปดูอย่างอื่นไม่ไกลกันนัก
ขณะที่กำลังเม่อๆ มีผู้ชายวัยกลางคน ผิวขาว แต่งตัวสะอาดเรียบร้อย มาดึงแขนเรา
ถามว่า เราดูอะไรอยู่ ไปกับเขาดีกว่า และลากเราลงลิทฟ์ เราก็ขืนเลย บอกมากับแม่ แม่อยู่ข้างหลัง
เขารีบปล่อยแขนเราและลงลิทฟ์อย่างรวดเร็ว
เราคิดมาตลอดว่าตัวเองโชคร้าย ถึงได้เจอเรื่องพวกนี้
วันนึงเราอยากเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เผื่อเขาจะปลอบเราได้บ้าง
ตอนนั้นอยู่ ม.1 เรียนหญิงล้วนค่ะ เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง และตกใจเหมือนกันที่เพื่อนบอกเราว่า เขาเองก็เคยโดน
และเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากๆด้วย
จากคำบอกเล่าของเพื่อน ตอนนั้นเขาประมาณ ป.2 วันนั้น อะไรซักอย่างที่บ้านเขาพัง และมีช่างมาซ่อมที่บ้าน
เขานั่งเล่นอยุ่อีกห้องนึง ไม่แน่ใจว่าพ่อแม่ไปไหน มีช่างคนนึงเดินเข้ามาในห้อง
มาเปิดกระโปรงเขาขึ้น และบอกว่า "ขอจับได้มั้ย" เพื่อนกลัวมากไม่กล้าพูดอะไร
ช่างคนนั้นล้วงไปในกางเกงในและลูบคลำซักพัก จากนั้นก็ยิ้มและเดินออกไป
เหตุการ์ณที่สองของเพื่อน เกิดตอนเพื่อนอยู่ ป.6 เพื่อนเริ่มเป็นสาวแล้ว เขามีประจำเดือนนานแล้ว
เป็นเรื่องที่กระทบจิตใจเพื่อนอย่างมาก เพราะเหตุการ์ณนี้เกิดขึ้นจากน้าชายของเขา
แม้น้าชายจะตั้งใจรึไม่ตั้งใจก็เถอะ คืนนั้น เขาไปนอนกับน้าชายเนื่องจากคิดถึง น้าชายเขานานๆจะกลับบ้านที
แฟนของน้านอนด้านขวา น้านอนตรงกลาง เขานอนด้านซ้าย
ตกดึกน้าชายล้วงเขาไปในกางเกงในเขา พร้อมกับพูดอะไรซักอย่างแต่เขาจำไม่ได้
น้าชายลูบคลำอยู่นานมาก นานจนเพื่อนอยากจะร้องไห้ แต่ไม่กล้าพูด กลัวจะโดนว่า
จากนั้น เพื่อนแทบไม่คุยอะไรกับน้าชายเลยถ้าไม่จำเป็น
เพื่อนบอกว่าเขาไม่แน่ใจ ว่าน้าชายตั้งใจจะจับของเขารึเปล่า หรืออยากจะจับของแฟนน้า อาจจะจับผิดข้างก็ได้
เราเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน ได้แต่ปลอดใจเพื่อนว่าไม่เป็นไรๆ มันผ่านมาแล้ว
พอขึ้น ม.2 เช้าวันหนึ่ง มีเพื่อนในกลุ่มวิ่งหน้าตาตื่นมาที่ห้องเรียน
บอกว่าโดนผู้ชายจับหน้าอกตอนที่เดินออกมาจากบ้าน เขากลัวมาก ตอนนั้นไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย
เราก็โอ้ ทำไม่เรื่องแบบนี้ถึงเกิดได้บ่อยจัง ทั้งเรา ทั้งเพื่อน
และในชีวิตจริง คนที่เราไม่รู้จัก ไหนจะคนที่ไม่กล้าบอกใคร เขาจะต้องรู็้สึกเสียใจแค่ไหน
ขอฝากเรื่องนี้ไว้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกคนนะคะ เด็กเป็นสิ่งมีชีวิตที่หัวใจบอบบางมาก หากเจออะไรกับกระทบจิตใจ
เขาอาจฝังใจไปจนเติบโต กลายเป็นเด็กที่เศร้าซึม ไม่ใช่คนๆทุกคนที่จะทำใจยอมรับเรื่องร้ายๆได้
เตือนภัย ผู้หญิงทุกคนด้วยนะคะ เพราะไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อยู่ในความไม่ปลอดภัย
กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะทุกคนอาจไม่โชคดี รอดผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้
แต่หากคุณเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่โชคร้ายเหล่านั้น เราขอเป็นกำลังใจให้คุณ
เดินผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปสู่วันที่สดใส ให้รู้ไว้ว่าคุณมีคุณค่าเสมอ
ถึงผู้ชายคนนั้นที่รังแกกัน ไม่ว่าคุณจะรับรู้รึไม่
ในวันนี้ หนูขอให้อภัยคุณ และหวังไม่ให้คุณไปทำอะไรใครอีก จากนี้ไปคุณจะออกไปจากความทรงจำ
เราไม่มีเรื่องโกรธแค้นต่อกันอีกแล้ว
วิธีให้อภัย ทำแล้วสบายใจนะ เพื่อตัวของเราเอง ใครจะนำไปใช้ เราขอแนะนำเลย
และสุดท้าย ฝากถึงผู้ชายมักง่าย จิตวิปริต ทุกคนบนโลกใบนี้ คุณรู้มั้ยว่า พฤติกรรมเลวทรามของคุณ
ทำให้เด็กผู้หญิงหลายๆ คน ต้องมีตราบาปในใจ เสียใจกับสิ่งที่พวกคุณทำไปตลอดชีวิตของเธอ
หากพวกคุณเป็นลูกผู้ชายจริง คงไม่ทำอะไรกับคนที่เขาไม่เต็มใจ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อใครบ้าง ไม่มากก็น้อยนะค่ะ
ยาวไปหน่อย หากมีอะไรผิดผลาดต้องขออภัยด้วย
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ^^