หลังจากพิธีกรชื่อดัง ที่มีคนในครอบครัวเป็นฑูตอยู่ประเทศหนึ่ง ออกมาบอกประมาณว่า 1 กคนี้ คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าไปญี่ปุ่นแล้ว
พอข่าวแพร่สะพัดออกไปเท่านั้นแหละ
-บางคนเชื่อ
-บางคนไม่เชื่อ
-บางคนเห็นด้วย
-บางคนไม่เห็นด้วย
เชื่อไม่เชื่อ ไม่เท่าไร รอวันนั้นเดี๋ยวก็รู้ แต่ประเภทเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย มันน่านัก
ส่วนตัวผม เห็นด้วยล้าน% เขาเปิดโอกาสให้เรา แสดงว่าเขาเตรียมพร้อมอย่างดี เห็นข่าวเมื่อเดือนก่อนบอกจะควบรวมกระทรวงอะไรสักอย่าง เพื่อการนี้โดยเฉพาะ และส่วนตัวผมคิดว่า หากเราเดินอยู่ในญี่ปุ่น และมีจนท.มาขอตรวจพาสปอร์ตแบบ EU (อารมณ์ประมาณนั้น) ก็เป็นเรื่องปกติ แสดงว่าเขาวางแผนดี
ส่วนคนรอบข้างผม มีบางคนไม่เห็นด้วย ซึ่งคนประเภทนี้ส่วนใหญ่ มีรายได้มั่นคง บริษัทใหญ่โต คิดจะไปเมื่อไรก็ไป บางคนได้มัลติเพิลมาแล้ว บางคนที่ไม่เห็นด้วยนี้ เขาไม่เคยแตะประทศที่ไม่ต้องพาสปอร์ตเลย ฮ่องกงเขาก็ไม่ไป เหตุเพราะใครๆก็ไปได้ ไม่เท่ !! ผมนึกแล้วก็หืมมม ??
เอาหละ ถ้าผมทำงานบริษัทใหญ่โต อย่างการบินไทย บรรจุเรียบร้อย สวัสดิการมั่นคง เงินเดือนครึ่งแสน ผมก็อยากได้ visa เหมือนเดิม
หรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือน 15000+ สม่ำเสมอ เดือนนี้เหลือเก็บ 5-6พัน การเงินมั่นคง กลุ่มนี้มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
แต่เคยคิดหัวอก คนไม่มีเงินผ่านบัญชีสม่ำเสมอไหมครับ หรือแม้แต่คนงบน้อย ที่พอเก็บได้สำหรับไปเที่ยว+ฉุกเฉินนิดหน่อยจริงๆ คนประเภทนี้ผ่านยากนะครับ ซึ่งกระทู้ไม่ผ่านวีซ่าญี่ปุ่น ยังมีให้เห็นเป็นเนืองๆ ใน BP
การที่เขายกเลิกวีซ่าให้เรา อาจจะไม่ใช่เขาเห็นคนไทยมีคุณภาพขึ้น แต่เขาต้องการเม็ดเงินไปกระตุ้นประเทศเขา
ดังนั้นหากยกเลิกปีนี้ ปีหน้าหรืออนาคตปีถัดๆไป ก็มีสิทธิ์ใช้มาตรการเดิมได้ !!
ผมนอนคิดทั้งคืนเลยนะเมื่อคืน ข้อดี ข้อเสีย มันมีอะไรมั่ง อยากรู้จัง ก็เลยลิสต์เป็นข้อๆได้ดังนี้
ข้อดี
- คนงบน้อย ไปเที่ยวได้สบายๆ ไม่ต้องเผื่อเหลือติดบัญชีหลายหมื่น หลายแสน
- เดินทางได้ทันที ซื้อปุ๊บบินปั๊บ และยิ่งจะมี Asia Atlantic เปิดบินตรงกรุงเทพ-โตเกียว หากมีโปรแบบ Tway ลดกระหน่ำก่อนบิน2-3วัน จะน่าสนใจมาก (คนมีมัลติเพิ้ลก็สบายไป)
- ศักดิ์ศรีคนไทยเพิ่มขึ้นมา ถึงแม้ใครจะไม่รู้ หรือใครจะบอกว่ามันกินไม่ได้ แต่ลองนึกภาพดูสิครับ ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างญี่ปุ่น ให้คนไทยเดินผ่านเข้าออกประเทศได้ โดยไม่ต้องใช้วีซ่า มันน่าภูมิใจขนาดไหน
- เป็นปัจจัยน่าลงทุนในการเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ (อนาคต TAAX คงมีไปหลายเมืองเลยหละ)
ข้อเสีย
- พวกไฮโซ ไฮซ้อ ทั้งหลายจะถูกลดเกรดการเที่ยวลง เพราะประเทศนี้ใครๆก็ไปได้
- บริษัททัวร์รายได้อาจน้อยลง เพราะคนอาจหันไปเที่ยวเองมากขึ้น
- บางคนกลัวไม่ผ่านตม. หากดวงชงกับ จนท.ตม
ที่บอกว่ายอมลุ้นว่าผ่านไม่ผ่านที่ไทยดีกว่า ผมมองว่าค่าเท่ากัน เพราะสำหรับผมหากจะไปจริงๆก็คงเกาะ TAAX ไปนั่นแล และรู้ๆกันอยู่สายการบินนี้ขอคืนภาษีได้อย่างเดียว หากจองแล้วไม่ผ่านก็เสียเงินอยู่ดี !! + ชอบจองโรงแรมผ่านเว็บที่ตัดเงินเลยมากกว่าการจองผ่าน Booking.com (แต่ส่วนมากเวลาไปขอวีซ่า ร้อยละ 75 ในความคิดผมก็จองผ่าน booking.com กันไปทั้งนั้นนะ)
สุดท้ายนี้ มันจะจริงหรือไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ว่ามันเป็นผลดีแก่ประเทศชาติ และประชากรส่วนใหญ่ในประเทศ (ลองคิด%คนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์เทียบกันดู)
กลุ่มผู้มีอันจะกินโปรดอย่าเห็นแก่ตัวในการเที่ยว หากไม่พอใจที่ต้องไปเหยียบประเทศที่ใครๆก็ไปได้ ก็ย้ายทำเลไปเที่ยวแถวยุโรปแทน
และผมก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องเอาญี่ปุ่นไปเทียบกับตม.เกาหลี ทำไมไม่ไปเทียบกับ ฮ่องกง หรือ ตุรกีอะไรเทือกนั้น ไม่เข้าใจจริงๆ
หรือความคิดของคนส่วนใหญ่ในนี้ ยังมองว่า ญี่ปุ่นน่าโรบินฮู้ด ??
[กระทู้พลีชีพ] ขอบ่นหน่อยเถอะ จะอะไรกันนักหนา หากญี่ปุ่นยกเลิกวีซ่า่ให้ไทยจริงๆ
พอข่าวแพร่สะพัดออกไปเท่านั้นแหละ
-บางคนเชื่อ
-บางคนไม่เชื่อ
-บางคนเห็นด้วย
-บางคนไม่เห็นด้วย
เชื่อไม่เชื่อ ไม่เท่าไร รอวันนั้นเดี๋ยวก็รู้ แต่ประเภทเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย มันน่านัก
ส่วนตัวผม เห็นด้วยล้าน% เขาเปิดโอกาสให้เรา แสดงว่าเขาเตรียมพร้อมอย่างดี เห็นข่าวเมื่อเดือนก่อนบอกจะควบรวมกระทรวงอะไรสักอย่าง เพื่อการนี้โดยเฉพาะ และส่วนตัวผมคิดว่า หากเราเดินอยู่ในญี่ปุ่น และมีจนท.มาขอตรวจพาสปอร์ตแบบ EU (อารมณ์ประมาณนั้น) ก็เป็นเรื่องปกติ แสดงว่าเขาวางแผนดี
ส่วนคนรอบข้างผม มีบางคนไม่เห็นด้วย ซึ่งคนประเภทนี้ส่วนใหญ่ มีรายได้มั่นคง บริษัทใหญ่โต คิดจะไปเมื่อไรก็ไป บางคนได้มัลติเพิลมาแล้ว บางคนที่ไม่เห็นด้วยนี้ เขาไม่เคยแตะประทศที่ไม่ต้องพาสปอร์ตเลย ฮ่องกงเขาก็ไม่ไป เหตุเพราะใครๆก็ไปได้ ไม่เท่ !! ผมนึกแล้วก็หืมมม ??
เอาหละ ถ้าผมทำงานบริษัทใหญ่โต อย่างการบินไทย บรรจุเรียบร้อย สวัสดิการมั่นคง เงินเดือนครึ่งแสน ผมก็อยากได้ visa เหมือนเดิม
หรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือน 15000+ สม่ำเสมอ เดือนนี้เหลือเก็บ 5-6พัน การเงินมั่นคง กลุ่มนี้มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
แต่เคยคิดหัวอก คนไม่มีเงินผ่านบัญชีสม่ำเสมอไหมครับ หรือแม้แต่คนงบน้อย ที่พอเก็บได้สำหรับไปเที่ยว+ฉุกเฉินนิดหน่อยจริงๆ คนประเภทนี้ผ่านยากนะครับ ซึ่งกระทู้ไม่ผ่านวีซ่าญี่ปุ่น ยังมีให้เห็นเป็นเนืองๆ ใน BP
การที่เขายกเลิกวีซ่าให้เรา อาจจะไม่ใช่เขาเห็นคนไทยมีคุณภาพขึ้น แต่เขาต้องการเม็ดเงินไปกระตุ้นประเทศเขา
ดังนั้นหากยกเลิกปีนี้ ปีหน้าหรืออนาคตปีถัดๆไป ก็มีสิทธิ์ใช้มาตรการเดิมได้ !!
ผมนอนคิดทั้งคืนเลยนะเมื่อคืน ข้อดี ข้อเสีย มันมีอะไรมั่ง อยากรู้จัง ก็เลยลิสต์เป็นข้อๆได้ดังนี้
ข้อดี
- คนงบน้อย ไปเที่ยวได้สบายๆ ไม่ต้องเผื่อเหลือติดบัญชีหลายหมื่น หลายแสน
- เดินทางได้ทันที ซื้อปุ๊บบินปั๊บ และยิ่งจะมี Asia Atlantic เปิดบินตรงกรุงเทพ-โตเกียว หากมีโปรแบบ Tway ลดกระหน่ำก่อนบิน2-3วัน จะน่าสนใจมาก (คนมีมัลติเพิ้ลก็สบายไป)
- ศักดิ์ศรีคนไทยเพิ่มขึ้นมา ถึงแม้ใครจะไม่รู้ หรือใครจะบอกว่ามันกินไม่ได้ แต่ลองนึกภาพดูสิครับ ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างญี่ปุ่น ให้คนไทยเดินผ่านเข้าออกประเทศได้ โดยไม่ต้องใช้วีซ่า มันน่าภูมิใจขนาดไหน
- เป็นปัจจัยน่าลงทุนในการเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ (อนาคต TAAX คงมีไปหลายเมืองเลยหละ)
ข้อเสีย
- พวกไฮโซ ไฮซ้อ ทั้งหลายจะถูกลดเกรดการเที่ยวลง เพราะประเทศนี้ใครๆก็ไปได้
- บริษัททัวร์รายได้อาจน้อยลง เพราะคนอาจหันไปเที่ยวเองมากขึ้น
- บางคนกลัวไม่ผ่านตม. หากดวงชงกับ จนท.ตม
ที่บอกว่ายอมลุ้นว่าผ่านไม่ผ่านที่ไทยดีกว่า ผมมองว่าค่าเท่ากัน เพราะสำหรับผมหากจะไปจริงๆก็คงเกาะ TAAX ไปนั่นแล และรู้ๆกันอยู่สายการบินนี้ขอคืนภาษีได้อย่างเดียว หากจองแล้วไม่ผ่านก็เสียเงินอยู่ดี !! + ชอบจองโรงแรมผ่านเว็บที่ตัดเงินเลยมากกว่าการจองผ่าน Booking.com (แต่ส่วนมากเวลาไปขอวีซ่า ร้อยละ 75 ในความคิดผมก็จองผ่าน booking.com กันไปทั้งนั้นนะ)
สุดท้ายนี้ มันจะจริงหรือไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ว่ามันเป็นผลดีแก่ประเทศชาติ และประชากรส่วนใหญ่ในประเทศ (ลองคิด%คนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์เทียบกันดู)
กลุ่มผู้มีอันจะกินโปรดอย่าเห็นแก่ตัวในการเที่ยว หากไม่พอใจที่ต้องไปเหยียบประเทศที่ใครๆก็ไปได้ ก็ย้ายทำเลไปเที่ยวแถวยุโรปแทน
และผมก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องเอาญี่ปุ่นไปเทียบกับตม.เกาหลี ทำไมไม่ไปเทียบกับ ฮ่องกง หรือ ตุรกีอะไรเทือกนั้น ไม่เข้าใจจริงๆ
หรือความคิดของคนส่วนใหญ่ในนี้ ยังมองว่า ญี่ปุ่นน่าโรบินฮู้ด ??