"รถคันแรก" อิทธิฤทธิ์ที่คิดไม่ถึง ......ข่าวสด

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01ETTFOelV4TUE9PQ==&sectionid=


"รถคันแรก" อิทธิฤทธิ์ที่คิดไม่ถึง

ทวี มีเงิน

ฝีรถคันแรกกับฝีจำนำข้าวเริ่มแตกและกำลังลามไปฝีประชานิยมอื่นๆ แต่หากเมื่อเทียบกันจำนำข้าวชาวนายังพอได้ประโยชน์บ้าง แต่รถคันแรกคนที่ได้ประโยชน์จริงๆ คือ บริษัทรถยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทลูกของบริษัทรถยนต์อาจจะมีของคนไทยบ้าง ในระยะหลังๆ อุตสาหกรรม เหล่านี้หันมาใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนเพิ่มเรื่อยๆ

ข้าวเป็นของคนไทยเป็นอุตสาหกรรมอ่อนแอที่สุดการไป อุ้มไม่ใช่เรื่องแปลก (ถ้าพอเหมาะพอดี) แต่รถยนต์เป็นของ ต่างชาติและเป็นอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งที่สุด แต่รัฐบาลกลับเข้าไปโอบอุ้ม

ผู้ใหญ่ในกระทรวงคลังเคยเล่าให้ฟังว่า โครงการนี้ตอนแรกไม่ใช่ออกแบบเป็นอย่างนี้ ตอนนั้นคนที่ได้รับสิทธิ์ต้องซื้อจริงและต้องเป็นรถคันแรกจริงๆ พุ่งเป้าที่คนเริ่มทำงานใหม่ๆ

หลังน้ำท่วมนโยบายเริ่มบิดเบี้ยวเพราะต้องการเอาใจบริษัทรถยนต์ที่ประสบความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ กลายเป็นว่าแค่มีใบจองก็ได้รับสิทธิ์ ทำให้เป้าหมายเดิมที่วางไว้เพียง 5 แสนคัน พอเป็นอย่างนี้ตัวเลขก็เลยทะลุ 1.2 ล้านคัน เพราะมีไม่น้อยที่ซื้อเป็นรถคันที่ 2 คันที่ 3

จึงเละตุ้มเป๊ะ

นอกจากตัวโครงการกำลังมีปัญหาในตัวมันเองแล้ว เพราะคนเริ่มทยอยทิ้งใบจองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางค่ายโดนทิ้งถึง 70% แต่น่าจับตาคือรถคันแรกกำลังเป็นปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่ง สะท้อนจากสินเชื่อรถยนต์และจักรยานยนต์ที่พุ่งปรี๊ดถึง 33.9%

แต่ที่ไม่คาดคิดว่าจะมีอิทธิฤทธิ์แรงถึงขั้นดูดกำลังซื้อทั้งหมดไปอยู่ที่บริษัทรถยนต์ทำให้ธุรกิจอื่นๆ กำลังได้รับผลกระทบ ยอดขายตกระเนนระนาด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ล้วนได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ระบบเศรษฐกิจจึงบิดเบี้ยวไปโป่งที่อุตสาหกรรมรถยนต์อย่างเดียว

ที่สำคัญธุรกิจเต็นท์รถมือสอง ที่เป็นธุรกิจของคนไทยล้วนๆ ได้รับผลกระทบมากที่สุด เท่าที่พูดคุยหลายรายกำลังจะตายไปไม่รอด ยิ่งเป็นเต็นท์ขนาดกลางๆ และขนาดเล็กๆ สองสามเดือนที่ผ่านมายังขายรถไม่ได้สักคัน โดนรถคันแรกแย่งลูกค้าไปหมด

ทั้งที่รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลองคาพยพธุรกิจด้วยความเป็นธรรมและทั่วถึง ไม่ใช่ไปอุ้มธุรกิจหนึ่งแต่ไปทำลายอีกธุรกิจหนึ่งทั้งที่เป็นธุรกิจของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์รถมือสอง หรือธุรกิจอื่นๆ กำลังโดนรถคันแรกฟาดหางใส่ในขณะนี้


ตอนที่คิดเรื่องนี้ใหม่ๆ คงไม่มีใครคิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่