[CR] ** --- >> ,, รีวิวเกาะเสม็ด 27 - 29 May 2013 ,, **

วันที่ 27 – 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยวเสม็ดกับคุณแฟนมาค่ะ ก่อนไปหาข้อมูลจาก pantip เยอะมาก
เลยอยากกลับมาทำรีวิวเผื่อให้คนที่วางแผนไปมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยเช่นกัน ^^
ครั้งนี้เราพักที่ลิมา เบลลา รีสอร์ท ตรงหาดทรายแก้วนะคะ ลิ้งด้านล่างนี้เป็นรีวิวของรีสอร์ทที่ทำไปแล้วค่ะ
http://pantip.com/topic/30549645

เริ่มจากเช้าวันแรกเราทานข้าวก่อนขึ้นรถตู้เดินทางกันแถวพญาไทค่ะ ... มื้อนี้รวม 100 บาท


จากนั้นไปขึ้นรถตู้ที่ข้างๆเซ็นจูรี่ ตรงสถานีอนุสาวรีย์ค่ะ
ซื้อตั๋วตรงป้ายไประยอง - มาบตาพุด - บ้านเพ - เกาะเสม็ด ค่ารถคนละ 200 บาทค่ะ


เราออกเดินทาง 8.45 มาถึงจุดขายตั๋วเสม็ดนี้ 11.30 ค่ะ ใช้เวลาเดินทางเกือบๆ 3 ชั่วโมง
ไปถึงปุ๊บงงเลย ทำไมรถตู้ไม่ได้เอาเรามาส่งที่ท่าเรือหน้าตาแบบที่เราเห็นในรีวิว ไม่เห็นมีคำว่าท่าเรือนวลทิพย์
เข้าไปข้างในแล้วเห็นหลายๆโต๊ะเรียงรายกันขายตั๋ว แต่ตรงโต๊ะของท่านวลทิพย์ไม่มีคนขายค่ะ
เราเลยเดินไปซื้อตามป้าคนนึงที่มาเรียกขาย
เป็นของท่าเรือเทพมงคลชัย ไปเรือธรรมดาคิดคนละ 120 ถ้าสปีทโบทคิดคนละ 450
เรากับคุณแฟนเลือกเดินทางธรรมดาค่ะ เรายังคงติดใจว่าทำไม 120 เพราะอ่านในรีวิวส่วนใหญ่เขาบอกร้อยเดียว แต่เราก็ต้องไปค่ะ


พอซื้อตั๋วเสร็จป้าก็ให้คนพาเรากับคุณแฟนขึ้นรถเล็กๆไปขึ้นเรือที่อีกท่านึงค่ะ
เป็นท่านี้ค่ะ จำไม่ได้ว่าชื่อท่าอะไร ไม่ทันถ่ายรูปมาด้วย แต่อยู่ถัดจากจุดจำหน่ายตั๋วที่แรกไม่ไกล


นั่งรอสักครึ่งชั่วโมงเรือก็ออกแล้วค่ะ


สักประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็เห็นท่าเรือเกาะเสม็ด เห็นผีเสื้อสมุทรอยู่ใกล้ๆแล้วค่ะ


แล้วเรื่องที่ทำจขกท ช็อคพอสมควรก็คือมีคนมาเดินเก็บค่าโดยสารอีกรอบค่ะ
เรายื่นตั๋วให้ดูว่าจ่ายมาแล้ว เขาก็ไม่เก็บเรา แต่เขาเก็บคนอื่นที่ยังไม่จ่าย คนที่นั่งมาข้างๆเขาบอกว่า
จริงๆเดินมาขึ้นเรือตรงนี้เลยก็ได้ ไม่ต้องไปซื้อตั๋ว จะจ่ายแค่คนละ 30 บาทเองค่ะ (รอบกลับเดินมาขึ้นก็อีก 30)
จขกท เซ็งเลยค่ะ ทีแรกต้องจ่าย 120 ก็ตะหงิดๆใจแล้ว มาเจอว่าจริงๆจ่ายแค่ 30 ก็ได้นี่ใจแทบสลาย ความงกขึ้นสมอง 555555

** รูปตรงท่าเรือนี้จะเป็นบรรยากาศตอนเย็นนะคะ เพราะไม่ได้ถ่ายช่วงไปถึง แต่ไปย้อนถ่ายมาทีหลังเพราะจะได้ใส่ข้อมูลได้ละเอียดหน่อยค่ะ

ท่าเรือมีสองท่า คือตรงผีเสื้อสมุทรที่หลังคาสีฟ้าๆนั่น กับท่าเรือที่ไม่มีหลังคาข้างๆนี่ เรามาลงตรงที่ไม่มีหลังคาค่ะ


แล้วเราก็โดนเก็บค่าผ่านท่าไปคนละ 10 บาท


มาถึงจะเห็นรถสีเขียวๆนี่เป็นแท็กซี่ แต่เราไม่ขึ้น เพราะเคยได้ยินว่าแพง
และที่พักเราเขาบอกไม่ไกลบวกกับความงก เราเลยเดินค่ะ 55555


มองเข้าไปตรงท่าเรือที่มีผีเสื้อสมุทร สวยดีค่ะ


แล้วเดินมาตรงนั้นเราก็จะเห็นพระอภัยมณีเป่าปี่อยู่หน้าเซเว่นด้วย


เราพักทานข้าวกลางวันกันก่อนที่ร้านนี้ จำชื่อร้านไม่ได้ แต่เดินเข้ามานิดเดียวก็เห็นเป็นร้านแรกๆเลยค่ะ


รสชาติใช้ได้ ราคาสำหรับในเกาะก็โอเคค่ะ จานละ 60 น้ำเปล่าฟรี .... มื้อนี้รวม 120 บาท



ทานเสร็จแล้วเราก็เดินไปที่พักกันค่ะ เดินผ่านโรงเรียนเกาะแก้วพิสดาร ชอบชื่อโรงเรียนมาก คิดถึงสมัยเรียนเรื่องพระอภัยมณี


เราไม่รู้ทาง เดินอ้อมกันค่ะ สัมภาระก็หนัก แดดก็แรง กว่าจะถึงที่พัก เหนื่อยมากมากกกกกกกก  
แต่ในที่สุดก็ถึงแล้วเห้ !!!  ^____^


ที่พักสวย พนักงานบริการดี และสิ่งอำนวยความสะดวกครบค่ะ สองคืนและอาหารเช้าด้วย รวม 4920 บาท


พอประมาณบ่ายสี่ก็เดินออกไปเช่ามอเตอร์ไซต์กัน เราเช่าร้านที่อยู่หน้าเซเว่น พอเดินมาจากท่าเรือก็จะเจอเลยค่ะ
มีหลายแบบให้เลือกมาก เราเลือกมอเตอร์ไซต์ธรรมดาๆเลย เขาคิดวันละ 300 เราต่อราคาขอเหลือ สองวัน 500 บาทค่ะ


จากนั้นเราไปอ่าวน้อยหน่า หาร้านพลอยเสม็ด ที่เขาว่าบรรยากาศดี (หาข้อมูลจากรีวิวในพันธิพย์นี่แหละค่ะ อิอิ)
ทีแรกเรากับคุณแฟนขับเลยไปไกลเลยค่ะ ไปถามคนที่เขาสวนทางมาพอดี เขาบอกให้ขับตามเขาไป เราเลยมาถึง
ถ้ามีมอเตอร์ไซต์จริงๆไม่ไกลเลย ... มีจุดสังเกตคือโรงแรม บ้านพลอยซี ทางเดินไปร้านอาหารอยู่ข้างๆกันค่ะ


เราต้องเดินไปสั่นกระดิ่งตรงนั้น เดาว่าคงเพื่อให้ฝั่งร้านอาหารรู้ว่ามีลูกค้ามา


ข้างๆทางเดินเราเป็นโรงแรมบ้านพลอยซี สวยมาก น่าพัก แวะไปถามราคามา เริ่มต้นคืนละ 4900 ค่ะ
จขกท เดาว่าที่ราคาสูงคงเพราะติดทะเลด้วย


จากรีวิวเมื่อก่อนจะเห็นว่าถ้าสั่นกระดิ่งเขาจะมีเรือข้ามมารับ
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นทำทางเดินให้ลูกค้าเดินไปเองแล้วค่ะ บรรยากาศสวยดี น้ำใสมาก


มาถึงร้านแล้วค่ะ แทบไม่มีลูกค้าเลย อาจคงเพราะเป็นวันธรรมดา


จุดเด่นของร้านคือโต๊ะอาหารจะเป็นกระจกใสให้เรามองเห็นน้ำ และลูกค้าสามารถห้อยขาลงไปได้ด้วย


ราคาอาหารค่อนข้างแพงเลยทีเดียว


เรากับคุณแฟนสั่งข้าวเปล่าสองจาน ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ผัดไข่เค็ม และน้ำเปล่าหนึ่งขวด
รวม 575 บาท แต่อาหารอร่อย จขกทว่าวัตถุดิบเขาดีค่ะ


บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ ลมเย็น พนักงานบริการดีด้วย แลกกับราคาอาหารถือว่าคุ้มนะ !!


จากนั้นเรามุ่งหน้าไปสู่อ่าวพร้าวกัน เขาบอกว่าเป็นจุดที่พระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุด
ถนนบนเกาะแย่จริงๆอย่างที่เขาบอกกัน ถ้าขับไม่แข็ง อย่าขับเด็ดขาดเลยค่ะ



ใกล้ถึงอ่าวพร้าวแล้ว บรรยากาศดีมากค่ะ


เย้ !!! ถึงแล้ว จำไม่ได้ว่าใช้เวลานานแค่ไหน แต่ไม่เกินครึ่งชั่วโมงค่ะ


วิวสวยมากเลยค่ะ คนค่อนข้างน้อยด้วย


แต่เสียดาย ไม่เห็นพระอาทิตย์ตก เมฆบัง TT" แต่ก็โรแมนติกอยู่นะ ^^


จากนั้นเราก็กลับที่พัก พอค่ำๆออกไปทานอาหารเย็นกันค่ะ
มาที่หาดทรายแก้ว มีร้านอาหารเรียงรายตลอดทางเลย


เจอแล้วค่ะ เป้าหมายของเรา ร้านพลอยทะเล เขาบอกมาเสม็ดต้องมาร้านนี่ด้วย


จุดเด่นร้านนี้คือมีเปิดเพลงให้เต้น โชว์ควงกระบองไฟ ส่วนใหญ่มีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้นที่ลุกมาเต้นกัน
รู้สึกเป็นร้านเดียวในแถบนั้นที่คึกคักมากค่ะ คนควงโชว์กระบองไฟเก่งมากๆๆๆๆ เลยจริงๆ





เราสองคนสั่งข้าวไข่เจียวหมูสับ เฟรนฟรายด์ แฮมเบอเกอร์ หอยแมงภู่นึ่ง น้ำมะพร้าวปั่น และโค้ก1ขวดเล็ก
รวม 420 บาท แต่ละอย่างราคาไม่แพงมาก แต่รู้สึกว่าไม่อร่อยเลยค่ะ ยกเว้นน้ำมะพร้าวปั่นและโค้ก


ระหว่างเดินกลับเห็นพระจันทร์ดวงกลมโต สวยมากๆ แต่ถ่ายรูปมาได้แค่นี้เอง
ไม่รู้ใครที่ยืนอยู่ จขกทยืนรอนานมาก แต่คุยกันไม่เสร็จสักที เลยติดมากับพระจันทร์เราด้วยเลย  55555


ก่อนกลับที่พัก เราแวะดื่มค็อกเทลกันที่ร้านนี้ค่ะ The Island Bar



ในร้านบรรยากาศดี เพลงชิวๆ เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ
เราดื่ม Margarita และ Kamikaze คุณแฟนดื่ม Heinilen และเบียร์ค่ะ รวม 510 บาท



จากนั้นกลับที่พักตอนประมาณห้าทุ่มค่ะ



------ หมดแล้วหนึ่งวันแรกที่เกาะเสม็ด เหนื่อยแต่สนุกค่ะ -------
ชื่อสินค้า:   เกาะเสม็ด
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่