ประเทศไทยมีคนติดเชื้อที่รู้แล้วประมาณ500000กว่าคน ที่ไม่รู้อีก2-3ล้านคน
คนเขมรด่าว่าเมืองไทยเป็นเมืองโรคเอดส์ไปแล้ว
ผมว่าวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดโรคให้หมดไปคือ
จับคนทั้งประเทศมาตรวจเลือด เริ่มจากบุคลากรทางการแพทย์ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นตรวจนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ประชาชน ขี้คุก แรงงานต่างด้าว และชาวต่างชาติ
ใครที่มีเชื้อก็เอาไปรวมกันในเขตกักกันไว้ก่อน อย่าให้หนีไปได้ แล้วค่อยฆ่าทิ้งทีเดียว ถ้านานาชาติประเทศไหนโวยก็ให้มันเอาไปเลี้ยง
ระหว่างนั้นใครจะเข้าประเทศก็ตรวจอย่างละเอียด
เรื่องมนุษยธรรมนั้น ต้องถามว่า ถ้าฆ่าคนเป็นโรคสัก2-3ล้านคนทั่วประเทศโหด แล้วการปล่อยให้คนติดเชื้อเพิ่มไม่โหดหรอ
อย่างเป็ดไก่ ติดเชื้อหวัดนกก็โดนฝังทั้งเป็นยกฟาร์ม ทำไมไม่ใช่มาตราฐานแบบเดียวกันมั่งล่ะ คนที่รับเชื้อยังไงก็ตายทุกราย ยิ่งอยู่นานก็มีโอกาสแพร่ให้คนบริสุทธิ์อีก พวกนี้ยังไงมันต้องมีความรู้สึกอยากแก้แค้นโดยการแพร่เชื้อให้คนบริสุทธิ์อีก อย่างน้อย10คนต้องมี1ละ คนพวกนี้ตาย แผ่นดินไทยไม่เอียงหรอกน่า เราควรสละส่วนน้อยเพื่อรักษาคนส่วนมาก
ที่สำคัญ ญาติพี่น้องและชาวบ้านร้านตลาดต้องเป็นหูเป็นตาให้รัฐ
การที่ไม่มีใครสนใจการแก้ปัญหานั้น น่าจะเพราะมันมีผลประโยชน์มหาศาล
เช่น
การสั่งนำเข้ายา-มีช่องว่างให้อมกันได้เป็นทอดๆ ใครอมไม่อมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆบริษัทยายิ้มับตังเข้ากระเป๋าอยู่ต่างประเทศ และเงินที่นำไปซื้อคือภาษีของคนทั้งประเทศ แทนที่จะนำไปทำสวัสดิการให้ประชาชน เด็กๆเราควรจะได้เรียนฟรี คนแก่ควรได้รับการดูแลจากรัฐบาล ไม่ต้องเป็นภาระลูกหลาน และมีเงินไปพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆโดยเฉพาะทางการเกษตร เพื่อที่ชาวไร่ชาวนาเราจะได้ลืมตาอ้าปากได้
การขายถุงยาง-ตราบเท่าที่มีโรคอยู่ ทุกคนต้องใช้ถุงยาง ยอดขายวันละกี่สิบกี่ร้อยล้านล่ะ
งบวิจัยต่างๆแต่ละปีไม่ใช่น้อย ผมว่าชาตินึงก็แก้ปัญหาไม่ได้หรอก สิ้นเปลืองทั้งแรงคน แรงเงิน สู้เอาแบบไวๆไม่ดีกว่าหรือ ไม่มีhost ไม่มีโรค คนอีก60ล้านคนจะได้อยู่กันอย่างปลอดภัย
WHOจัดอันดับให้โรคเอดส์เป็นโรคระบาดรุนแรง
คนเขมรด่าว่าเมืองไทยเป็นเมืองโรคเอดส์ไปแล้ว
ผมว่าวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดโรคให้หมดไปคือ
จับคนทั้งประเทศมาตรวจเลือด เริ่มจากบุคลากรทางการแพทย์ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นตรวจนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ประชาชน ขี้คุก แรงงานต่างด้าว และชาวต่างชาติ
ใครที่มีเชื้อก็เอาไปรวมกันในเขตกักกันไว้ก่อน อย่าให้หนีไปได้ แล้วค่อยฆ่าทิ้งทีเดียว ถ้านานาชาติประเทศไหนโวยก็ให้มันเอาไปเลี้ยง
ระหว่างนั้นใครจะเข้าประเทศก็ตรวจอย่างละเอียด
เรื่องมนุษยธรรมนั้น ต้องถามว่า ถ้าฆ่าคนเป็นโรคสัก2-3ล้านคนทั่วประเทศโหด แล้วการปล่อยให้คนติดเชื้อเพิ่มไม่โหดหรอ
อย่างเป็ดไก่ ติดเชื้อหวัดนกก็โดนฝังทั้งเป็นยกฟาร์ม ทำไมไม่ใช่มาตราฐานแบบเดียวกันมั่งล่ะ คนที่รับเชื้อยังไงก็ตายทุกราย ยิ่งอยู่นานก็มีโอกาสแพร่ให้คนบริสุทธิ์อีก พวกนี้ยังไงมันต้องมีความรู้สึกอยากแก้แค้นโดยการแพร่เชื้อให้คนบริสุทธิ์อีก อย่างน้อย10คนต้องมี1ละ คนพวกนี้ตาย แผ่นดินไทยไม่เอียงหรอกน่า เราควรสละส่วนน้อยเพื่อรักษาคนส่วนมาก
ที่สำคัญ ญาติพี่น้องและชาวบ้านร้านตลาดต้องเป็นหูเป็นตาให้รัฐ
การที่ไม่มีใครสนใจการแก้ปัญหานั้น น่าจะเพราะมันมีผลประโยชน์มหาศาล
เช่น
การสั่งนำเข้ายา-มีช่องว่างให้อมกันได้เป็นทอดๆ ใครอมไม่อมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆบริษัทยายิ้มับตังเข้ากระเป๋าอยู่ต่างประเทศ และเงินที่นำไปซื้อคือภาษีของคนทั้งประเทศ แทนที่จะนำไปทำสวัสดิการให้ประชาชน เด็กๆเราควรจะได้เรียนฟรี คนแก่ควรได้รับการดูแลจากรัฐบาล ไม่ต้องเป็นภาระลูกหลาน และมีเงินไปพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆโดยเฉพาะทางการเกษตร เพื่อที่ชาวไร่ชาวนาเราจะได้ลืมตาอ้าปากได้
การขายถุงยาง-ตราบเท่าที่มีโรคอยู่ ทุกคนต้องใช้ถุงยาง ยอดขายวันละกี่สิบกี่ร้อยล้านล่ะ
งบวิจัยต่างๆแต่ละปีไม่ใช่น้อย ผมว่าชาตินึงก็แก้ปัญหาไม่ได้หรอก สิ้นเปลืองทั้งแรงคน แรงเงิน สู้เอาแบบไวๆไม่ดีกว่าหรือ ไม่มีhost ไม่มีโรค คนอีก60ล้านคนจะได้อยู่กันอย่างปลอดภัย