อันนี้ บทนำ >>>
http://pantip.com/topic/30563144
ในนิยาย ในฐานะคนอ่าน ผมไม่เกลียดอิชชิกิ
แต่ในฐานะคนแปล ผมเกลียด เพราะ มันพูดมาก พูดยาว แปลลำบาก.....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 1 ทาคานาชิ ริกกะ
“เอาล่ะ การจัดอันดับสาวน่ารักประจำชั้นเรียนครั้งที่ 1 ได้เริ่มขึ้นแล้ว!”
“หา?”
อิชชิกิที่เดินอยู่ข้างๆผมจู่ๆก็พูดเรื่องการจัดอันดับขึ้นมา ทำเอาผมอึ้งไปเลย ก็จนถึงเมื่อกี้ยังคุยกันเรื่องคำตอบของข้อสอบที่พึ่งสอบไปกันอยู่เลยทำเอางงไปหมดว่าพูดเรื่องอะไรกันแน่
“จะมา ‘หา?’ ทำไมเล่า? มันก็คือการแข่งขันเพื่อตำแหน่งสาวน่ารักที่สุดของห้องเราไง ตรงตัวเลย!”
“ชั้นก็เข้าใจแต่แรกแล้ว! แต่นั่นมันมีในข้อสอบสังคมข้อไหนด้วยรึไงกัน!?”
“มันมีเรื่องที่สำคัญกว่าข้อสอบสังคมอยู่นะ! และชั้นก็พึ่งจะนึกมันออกเมื่อกี้นี้เอง เอาล่ะเมื่อนึกออกแล้ว โทงาชิ นายจะเลือกใคร?”
“แล้วชั้นจำเป็นต้องโหวตด้วยเรอะ?”
“ชั้นจะเป็นต้องได้รับฟังความเห็นจากเหล่าชายเนื้อหอมทุกคนน่ะสิ แค่ความเห็นชั้นคนเดียวมันตัดสินอะไรไม่ได้หรอก”
พอได้ยินคนอื่นมาบอกว่าผมเป็นคนเนื้อหอมนี่มันรู้สึกดีจริงๆ
หลังจากเยินยอเสร็จ ก็ตามด้วยคำพูดที่แฝงไปด้วยความเร่าร้อน
“ทุกคนบอกชั้นมาหมดแล้วถึงคนที่พวกเขาคิดว่าน่ารักที่สุดในห้อง เอาล่ะ บอกคนที่นายคิดว่าน่ารักที่สุดมาซะ!”
เร่าร้อนจริงๆแฮะ
“อืมม~”
ผมคร่ำครวญคิดคำตอบ
ตอนนี้ผมกำลังคุยกับอิชชิกิ มาโคโตะ (一色 誠) เป็นคนที่ทำตัวได้ตรงกับความหมายของชื่อมากๆ : จริงจัง จริงใจ (誠 : makoto) เป็นคนที่จริงจังไปกับทุกๆเรื่อง เป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง
ถ้าให้พูดถึงลักษณะภายนอกก็คือ เป็นคนที่ตัดผมสั้นประมาณ 5 มม. ที่ขนาดพวกชมรมกีฬายังไม่ทำกันเลย แถมเอาเสื้อเข้าในกางเกงอีก คนแบบนี้หายากมากในสมัยนี้นะ และไม่รู้เพราะภายนอกดูเป็นคนจริงจังรึเปล่า แต่หมอนี่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการรักษาระเบียบประจำห้องล่ะ แถมมักจะพูดว่า ‘ไม่ต้องมาบ่นเลย นี่เป็นการรักษาระเบียบนะ’ ทุกครั้งที่ทำการตรวจสอบระเบียบพวกละเมิดกฎ นี่ถ้ามีถือไม้เรียวเหวี่ยงไปมาด้วยนี่นะ…….ผมแอบคิดไปเองแบบนั้น
ความรักชอบในตัวผู้หญิงถือเป็นส่วนหนึ่งของหมอนี่เลย จริงๆแค่คำว่ารักชอบยังน้อยไปนะ หมอนี่เป็นพวกวิตถารที่คอยไล่ล่าทุกเรื่องเกี่ยวกับสาวๆ เรียกว่าเป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งเลยก็ได้ ก็ถึงขนาดไล่ถามความเห็นจากทุกคนว่าใครน่ารัก เพราะอะไร มีเสน่ห์ตรงไหน เป็นพวกที่รักชอบในตัวสาวๆอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีเจตนาไม่ดีนะ จริงๆก็แค่ชอบพูดคุยเกี่ยวกับสาวๆน่ารักเท่านั้น เป็นเรื่องปกติของหมอนี่ล่ะนะ
ก็นะ ผมคิดว่าไม่มีใครหรอกที่จะไม่ชอบการพูดถึงความน่ารักของสาวๆน่ะ แต่ผมก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนที่เอาแต่พูดเรื่องสาวๆได้ตลอดเวลาอย่างอิชชิกิเนี่ย จะเป็นคนคอยรักษากฎระเบียบโรงเรียน แถมไม่เคยแอบงีบในชั้นเรียนอีกด้วย เรื่องแบบนี้ก็เป็นไปได้แฮะ
ผมพบกับเพื่อนผู้วิตถารนี้ตั้งแต่ครั้งที่เข้ามาเรียนที่นี่ใหม่ๆ เรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรน่าตื่นเต้นกันเท่าไร แค่พูดคุยกับกินข้าวเที่ยงด้วยกันแค่นั้น ที่เรียกกันว่ามิตรภาพในรั้วโรงเรียนนั่นไง แต่จะบอกว่าอิชชิกิคือเพื่อนสนิทของผมก็คงไม่ผิดนัก
เป็นมิตรภาพลูกผู้ชายที่เร่าร้อนนั่นไงล่ะ!
และหนึ่งในมิตรภาพลูกผู้ชายอันเร่าร้อนก็คือการเดินกลับบ้านด้วยกันอย่างที่ผมทำอยู่นี่ ด้วยการสอบกลางภาค กิจกรรมใหญ่อย่างแรกของชีวิต ม. ปลายที่พึ่งผ่านไป และผมก็รู้สึกอยากว่ามันก็ไม่ได้ยากนัก เพราะงั้นจะมาเทียบคำตอบต่อหรือไม่ยังไงก็คงไม่ต้องสนแล้วล่ะมั้ง
“ว่าไงท่านโทงาชิ? ชั้นรู้น่าว่าสาวๆน่ารักในห้องมันเยอะ แต่บอกมาเถอะว่าใครที่นายคิดว่าน่ารักที่สุด!”
อิชชิกิยังคงท่าทีที่เร่าร้อนไว้อยู่
สถานการณ์ตอนนี้เริ่มตึงเครียดมากขึ้น แล้วผมก็ตอบไปด้วยเห็นแก่มิตรภาพระหว่างเรา
“อ่า….คงมีล่ะมั้ง สาวที่คิดว่าน่ารักน่ะ! ก็ผู้ชายเราพอถึงห้องเรียนแล้วก็ต้องคอยเช็คความน่ารักสาวๆเสมอ…ซะที่ไหนเล่า!”
“ช่างเป็นสุภาพบุรุษอย่างที่คิดไว้เลย ช่วยสั่งสอนกระผมสักอย่างสองอย่างสิเพื่อนเอ๋ย”
ยังกับว่าผมจะไม่รู้สึกถึงการประชดประชันงั้นแหละ ให้ตายเถอะเจ้ามิตรภาพลูกผู้ชายเฮงซวย ท่าทางผมคงต้องโหวตจริงๆสินะ
“อ๊ะ…แต่ว่านะ ชั้นไม่รู้ชื่อเต็มของเธอแฮะ…..”
“อะไร….ล่ะนั่น…..? อยู่ชั้นเดียวกันไม่ใช่รึไง?”
“คือ จะว่าไงดี ชั้นจำไม่ได้แฮะว่าชื่อเธอเขียนยังไงน่ะ”
“เข้าใจแล้วเพื่อนยาก งั้นจะลองเสนอชื่อ 6 คนที่ชั้นค่อนข้างรู้ละเอียดขึ้นมาให้ฟังละกัน”
“เฮ้ย!? นายนี่มันระดับหัวกะทิเลยนะ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสาวๆเนี่ย ไปทำการตรวจสอบแบบไหนมาล่ะคราวนี้?”
“ก็แค่เช็คดูชื่อขณะตรวจสอบข้อมูลพวกทำผิดระเบียบซ้ำซ้อนเท่านั้นเอง”
……สมแล้วที่จะโดนเรียกว่าพวกวิตถาร
“เฮอะๆ และนี่คือข้อมูลที่ชั้นได้มา!”
สมุดบันทึกปริศนาถูกหยิบขึ้นมา คุณจะบอกได้เลยว่ามันเป็นของหมอนี่ถ้าเห็นเนื้อหาข้างในนั้น
“ที่ชั้นมีข้อมูลอยู่ก็มีอาซามิซัง คันนางิซัง ทาคานาชิซัง นาบาทาเมะซัง นิบุทานิซัง หรือว่าจะเป็นฮิรากาตะซัง คนไหนล่ะ”


“ยอดเลยแฮะ……ชั้นรู้สึกขึ้นมานิดๆเลยว่างานอดิเรกแบบนี้มันไม่ปกติธรรมดา ถึงงั้นก็เถอะ จะรู้ได้ไงว่าพวกเธอเหล่านั้นมีชื่อตรงตามกับที่นายได้มา?”
“อืม~ อย่างคันนางิซัง มีชื่อต้นว่าคาซาริ เขียนแบบสายลมที่พัดสั่นกระดิ่ง (風鈴) เธอจะไม่ชอบใจมากถ้าไปเรียกเธอว่า ฟูริน [Note: เป็นวิธีอ่านอีกแบบของ 風鈴 แปลตรงตัวว่ากระดิ่งลม] ตามที่ได้ยินมาน่ะนะ”
“เป็นข้อมูลส่วนตัวแบบล้วงลึกไปหน่อยนะ……”
ผมพอนึกภาพได้เลยว่าหมอนี่ต้องไปเป็นนักสืบในอนาคตแน่ๆ
“หืม~ อยากได้เบอร์โทร.กับอีเมล์คันนางิซังล่ะสิ? ชั้นบอกให้นายได้ทันทีเลยถ้านายอยากได้นะ”
“……เอาสมุดนั่นมาให้ชั้นดูเดี๋ยวนี้เลย!”
มันจะวิตถารเกินกว่าที่คิดมากไปแล้ว แต่ก็ดูเป็นคนที่มีอารมณ์ขันดี ผมก็ไม่ได้รังเกียจที่จะอยากรู้เรื่องบางอย่างของสาวๆในห้องหรอกนะ ถึงรู้ไปมันอาจจะไม่มีประโยชน์ตลอดช่วงชีวิตของผมก็เถอะ แต่มีข้อมูลพวกนี้ไว้ก็ถือว่ากำไรแน่ๆล่ะ
“ถ้าอยากรู้ก็บอกมาก่อนว่าคนที่นายว่าน่ารักที่สุดคือใคร ข้อมูลแค่นี้ชั้นแบ่งให้เพื่อนฝูงได้อยู่แล้ว”
ผมก็กะไว้แล้วว่าเรื่องมันคงต้องเป็นแบบนี้ แต่มีอยู่อย่างที่กวนใจผม จะรู้ได้ยังไงว่าหมอนี่จะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกสาวๆ? ลองถามดูก่อนที่จะตอบดีกว่า
“นี่…ถือเป็นความลับนะ สัญญานะว่าจะไม่บอกใคร? ห้ามผิดสัญญาเด็ดขาดนะ! แล้วนี่ก็แค่คนที่ชั้นคิดว่าน่ารักที่สุด อย่าไปจริงจังกับมันมากล่ะ!”
อิชชิกิพยักหน้า “รับรองได้เลย”
“ชั้นคิดว่าน่าจะเป็นทาคานาชิซังล่ะมั้ง คนที่นั่งข้างหน้าชั้นน่ะ จริงๆชั้นก็ไม่แน่ใจว่าใช่ทาคานาชิมั้ย แต่ชั้นชื่อ โทงาชิ ‘โทะ’ เพราะงั้นชื่อ ‘ทะ’ ก็ต้องมาก่อนชั้น ชั้นคุ้นๆว่าเธอมีเขียนชื่อด้วยตัว ‘เล็ก’(小) กับ ‘นก’(鳥) เพราะงั้นน่าจะชื่อขึ้นด้วย ‘ทะ’ คงต้องไปเช็คดูอีกทีในชั้นเรียน แล้วชั้นก็ไม่รู้ชื่อต้นของเธอด้วย”
“โอ้! ทาคานาชิซัง! ทาคานาชิ ริกกะซังสินะ! ชั้นก็ต้องไปเช็คดูเหมือนกันว่าชื่อเธอเขียนยังไงกันแน่ ถ้ามีเล่น(遊)กับคำว่านกน้อย(小鳥) ก็จะได้ ทาคานาชิ (小鳥遊) แต่ชั้นไม่คิดว่าชื่อนี้จะสื่อถึงนกที่บินเล่นในท้องฟ้าอย่างพวกเหยี่ยวนะ ไม่งั้นมันจะอ่านว่า ทาคานาอิ แทน”
สมแล้วที่ผู้อุทิศตนเพื่อความวิตถาร ถ้าไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับสาวๆ ก็จะไปตรวจสอบให้รู้ให้ได้จริงๆ
แต่ช่วยเอาความอุทิศตัวนี่ไปใช้กับการเรียนทีเถอะ เพราะถ้าผลสอบออกมาไม่ดี ชั้นจะได้ขอให้ช่วยติวได้หน่อย
“สำหรับทาคานาชิซังนี่ เรื่องความน่ารักนี่ถือเป็นของจริงเลย”
อิชชิกิพูดพร้อมทำหน้าเหมือนมีอะไรที่ไม่อาจพูดออกมาตรงๆอีก
“แค่นั้นเองเหรอ?”
ผมถาม
มาคิดดู ผมตอบชื่อคนที่ผมยังไม่รู้แม้กระทั่งว่าชื่อเขียนยังไงก็จริง แต่ดูเหมือนจะมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านั้นเกี่ยวกับตัวเธอ ถึงขนาดคนรักชอบพูดคุยเรื่องสาวๆอย่างอิชชิกิยังทำท่าเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาเลย
ผมไม่ค่อยคุ้นกับผู้หญิงตอนเรียนช่วง ม.ต้น เลยไม่ค่อยรู้ว่าต้องมองสาวที่ตรงไหน ยังไง แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะผมก็ไม่ได้เป็นคนสลักสำคัญอะไรกับใครช่วง ม.ต้นอยู่แล้วนี่นะ แต่ผมมั่นใจว่าสายตาผมดูไม่ผิดแน่ เพราะเธอตรงตามแบบผู้หญิงที่ผมชอบเลย ผมรู้สึกโชคดีมากๆที่ถูกจัดให้นั่งอยู่ข้างหลังคนน่ารักแบบนั้น
“ก็นะ ชั้นไม่เคยได้ยินเสียงเธอพูด แต่หน้าตาน่ะน่ารักสุดๆเลยล่ะ”
อิชชิกิตอบเรื่องที่รู้เกี่ยวกับทาคานาชิออกมา
“ใช่มั้ยล่ะ ถ้าให้อธบายหน้าตาของเธอละก็ คงต้องใช้คำว่า First Children เลยล่ะ! เดี๋ยวสิ….ใกล้เคียงกับร่างเนื้อที่เรียกว่า Humanoid Interface มากกว่า! เป็นสาวสวยที่ไม่แสดงอารมณ์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร แล้วยังมีผ้าปิดตานั่นที่ใส่ไว้ตลอดช่วยเพิ่มเสน่ห์อีก แถมร่างเล็กๆของเธอในชุดนักเรียนยิ่งทำให้เธอดูน่ารักอย่างคูลบิวตี้เข้าไปอีก จะบอกว่าเป็นเพราะเสื้อนอกอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียนเรามีส่วนช่วยให้ดูดีด้วยน่ะนะ! มีร่างเพรียวบางดูว่องไวเหมือนแมวดำ! แล้วยังใบหน้าโลลิเกินห้ามใจสำหรับคนชอบแนวนี้นั่นอีก เธอนี่แหละคือระดับท๊อปของห้อง ถ้ามองจากรูปกายภายนอกน่ะนะ”

[Note: ยูตะ เอ็งชอบสาวเงียบสินะ.....
]
(Chuunibyou LN) บทที่ 1 ..... ทาคานาชิ ริกกะ
ในนิยาย ในฐานะคนอ่าน ผมไม่เกลียดอิชชิกิ
แต่ในฐานะคนแปล ผมเกลียด เพราะ มันพูดมาก พูดยาว แปลลำบาก.....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้